สรุปตอน บทที่ 974.3 ปีแห่งความสงบสุข – จากเรื่อง กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! โดย Internet
ตอน บทที่ 974.3 ปีแห่งความสงบสุข ของนิยายกำลังภายในเรื่องดัง กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
หวังไจ่กลับเข้าข้างคนนอกอย่างมาก ใช ้เสียงในใจยิ้มเอ่ย กับเฉินผิงอันว่า “เห็นหรือยังไอ้หมอนี่ยังไม่เคยเจอหมี่อวี้ก็ถูกชะตา กันมากแล้ว นี่เป็ นเรื่องจริงแท้แน่นอน เพราะล้วนเป็ นคนอ ามหิต เหมือนกัน”
เฉินผิงอันยิ้มตอบ “ครั้งนี้เวินอวี้ลากเจ้ามาหาถึงที่ เพราะมีเรื่อง ของเสี่ยวหลงชิวทางเหนือก่อน จากนั้นยังมีการเสนอให้ขุดเจาะลา น้าสายใหญ่โดยพลการอีก เลยคิดว่าจะลงโทษความผิดสองกระทง ไปพร ้อมๆ กัน? เพียงแต่ว่าทางฝั่งของสานักศึกษาเทียนมู่กลัวข้าจะ คว่าโต๊ะ แล้วสานักกระบี่ชิงผิงจะแตกหักกับสานักศึกษาเทียนมู่เพราะ เหตุนี้ เจ้าขุนเขาฟ่ านจึงให้เจ้าออกจากภูเขาเพื่อมาทาหน้าที่เป็ นคน กลางไกล่เกลี่ย?”
หวังไจ่ยิ้มเอ่ย “นั่นดูแคลนเวินอวี้เกินไปแล้ว อันที่จริงก่อนที่ เวินอวี้จะมาเยือนใบถงทวีปก็ได้มีความคิดว่าจะอาศัยเรื่องของการขุด เจาะลาน้าใหญ่มาช่วยเหลือชาวบ้านที่ตกทุกข์ได้ยากและรวบรวมใจ คนของใบถงทวีปกลับมาอีกครั้งอยู่ก่อนแล้ว นี่ถือว่าเป็ นวีรบุรุษที่มี ความคิดเห็นตรงกันหรือไม่?”
เฉินผิงอันรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
ในเมื่อเป็ นเช่นนี้ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องปิดบังกันแล้ว ล้วนเป็ นคน กันเอง เฉินผิงอันจึงบอกให้รองเจ้าขุนเขาทั้งสองท่านยกชามเหล้า บนโต๊ะขึ้นมา เขาหยิบแกนม้วนภาพชิ้นหนึ่งออกมาจากชายแขนเสื้อ คลี่กางภาพวาดขุนเขาสายน้าม้วนยาวลงบนโต๊ะ เนื่องจากม้วนภาพ นี้ยาวมาก ปลายสองฝั่งจึงเกือบจะยาวไปถึงหน้าต่างและประตูห้อง เฉินผิงอันจึงร่ายเวทคาถาเล็กๆ น้อยๆ ทาให้เหมือนมีเสาค้ายันอยู่ใน ห้อง ช่วยยันม้วนภาพให้ลอยกลางอากาศ จากนั้นค่อยวางชามเหล้า ไว้กลางอากาศข้างฝ่ ามือ ชามเหล้าจึงเหมือนปลาสีขาวตัวหนึ่งที่ ลอยตัวอยู่ในน้า เฉินผิงอันไม่ได้พูดไร ้สาระแม้แต่ครึ่งคา เขาเริ่ม บรรยายแนวคิดของเส้นทางลาน้าใหญ่เส้นนี้อย่างละเอียดทันที ยื่น นิ้วออกมา วาดลาน้าสีเขียวเส้นหนึ่งลงไปในม้วนภาพช ้าๆ ระหว่าง ทางผ่านแคว้นใดผ่านสถานที่แห่งใดบ้าง จุดไหนที่ต้องเปลี่ยน ช่องทางน้า จุดไหนที่ต้องมีการขุดเจาะท้องน้า ตรงไหนต้องย้ายราก ภูเขา มีเมืองส าคัญใดบ้างที่อาจต้องกลายเป็ นเมืองใต้บาดาลนับแต่นี้ การช่วยเหลือชาวบ้าน รวมไปถึงเงินทองที่จะต้องมอบให้ชาวบ้านแต่ ละคนจานวนคร่าวๆ ควรจะคิดคานวณอย่างไร ที่ว่าการของทางการ ในพื้นที่และกรมคลังของราชสานักในแต่ละแคว้นควรจะรายงานและ ท าบันทึกให้กับสานักอย่างสานักกระบี่ชิงผิงและสานักกุยหยกที่เป็ น หนึ่งในนั้นอย่างไร แล้วฝ่ ายหลังควรจะตรวจสอบเรื่องนี้อย่างไร หาก มีขุนนางกล้าฮุบเอาเงินเข้ากระเป๋ าตัวเองควรจะจัดการอย่างไร…
เมื่อเฉินผิงอันพูดถึงแผนการจัดการขุนนางเหล่านั้น ในที่สุด เวินอวี้ก็เปิ ดปากเอ่ยว่า “ลงโทษเบาไป ควรจะลดขั้นสัญชาติเป็ น สัญชาติคนชั้นต่าโดยตรง ลูกหลานสามรุ่นมิอาจเข้าร่วมการสอบ เคอจวี่ บ้านเกิดที่เป็ นสามะโนครัวของขุนนางเหล่านี้ ให้ทางราช ส านักมีค าสั่งต่อที่ว่าการในท้องถิ่น ให้ตั้งป้ ายศิลาบอกเตือน เพื่อใช ้ สิ่งนี้เตือนคนอื่นๆ ว่าหากกล้าทาเรื่องอย่างการละโมบในเงินทอง ต่อ ให้จะแค่หนึ่งตาลึงเงิน นี่ก็คือจุดจบ ไม่มีพื้นที่ให้ปรึกษาขุนนางของ กรมคลังราชสานักใดกล้าให้การปกป้ องในเรื่องนี้จะสูญเสียตาแหน่ง ขุนนางกลายเป็ นสัญชาติคนชั้นต่า จากนั้นตั้งป้ ายศิลาที่บ้านเกิด ข้า อยากจะเห็นนักว่าพวกเขาจะสวมชุดแพรกลับคืนสู่บ้านเกิดอย่างไร ได้อีก ฮ่องเต้พระองค์ใดตัดใจไม่ลง ไม่ยินดีจะให้ราชส านักสูญเสีย เสาคานค้ายันแคว้นไป ข้าเวินอวี้ก็จะไปอธิบายเหตุผลกับเขาด้วย ตัวเอง ใครไม่ฟังคาเกลี้ยกล่อมก็เปลี่ยนเป็ นฮ่องเต้ผู้มีปรีชาญาณคน ใหม่มาขึ้นครองราชย์แทน”
เฉินผิงอันเงยหน้ามองไปยังรองเจ้าขุนเขาของส านักศึกษาเทียน มู่
เวินอวี้พยักหน้า “วางใจเถอะ แม้ข้าจะเป็ นแค่รองเจ้าขุนเขา แต่ ความหมายของข้าก็เท่ากับความหมายของส านักศึกษาเทียนมู่ มี สานักศึกษาของพวกเราเป็ นคนเริ่มต้น ส านักศึกษาอู่ชีของพี่หมิงฉี ส านักศึกษาต้าฝูของเฉิงหลงโจวก็ไม่มีหน้าไม่ท าตามแล้ว”
หวังไจ่พยักหน้าตาม
เฉินผิงอันยิ้มกล่าว “ถ้าอย่างนั้นก็ทาตามนี้”
เวินอวี้ยิ้มบางๆ “อาจารย์เฉิน บางทีเจ้าอาจจะไม่ค่อยได้ไปมาหา สู่กับส านักศึกษา แต่ส านักศึกษาไม่ใช่วงการขุนนาง แล้วก็ไม่ใช่จวน ตระกูลเซียน วันหน้าหากมีโอกาสเจ้าขุนเขาเฉินก็แวะไปบ่อยๆ เถอะ ยกตัวอย่างเช่นสานักศึกษาเทียนมู่ของพวกเรา เดี๋ยวก็จะเชื่อเองว่า วันนี้ข้าไม่ได้คุยโวพูดจาไม่น่าเชื่อถือ”
เฉินผิงอันพยักหน้า “ดูท่าวันหน้าคงต้องแวะไปส านักศึกษา บ่อยๆเสียแล้ว”
เวินอวี้ถามอย่างตรงไปตรงมาว่า “อาจารย์เฉิน พูดคุยกันไปมาก ขนาดนี้ เคยคิดหรือไม่ว่าสานักกระบี่ชิงผิงของพวกเจ้าจะหาเงินกัน อย่างไร?”
หวังไจ่จ้องม้วนภาพที่อยู่บนโต๊ะ นอกจากภาพ “ลาน้าใหญ่” ที่ เป็ นภาพแรกสุดแล้วด้านบนยังมีแผนที่ภูมิศาสตร ์ของแต่ละแคว้นใน ทุกวันนี้ที่ทับซ ้อนกันเกือบร ้อยกว่าแผ่นก่อนหน้านี้เฉินผิงอันพูดถึง แคว้นไหนก็จะปล่อยภาพแผนที่ของแคว้นนั้นออกมา หวังไจ่ส่ายหน้า “หาเงินอย่างไร? ง่ายเสียที่ไหน แค่ไม่ขาดทุนก็ยากมากแล้ว พูดถึง แค่เรื่องย้ายภูเขาเติมน้าตลอดเส้นทางก็ต้องสิ้นเปลืองทั้งกาลังคน และทรัพยากร หากไม่มีผู้ฝึกตนขอบเขตบินในทะยานสามคนลงมือ ช่วยเหลือก็ได้แต่อาศัยเงินทุ่มออกมาเป็ นท้องน้าแล้ว”
ลาน้าใหญ่ในแต่ละทวีปของใต้หล้า ส่วนใหญ่ล้วนเป็ นเส้นทาง น้าที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ ใช ้กาลังคนมาขุดเจาะลาน้าใหญ่เส้นใหม่ เมื่อหลายพันปีก่อนปรากฏขึ้นแค่ไม่กี่ครั้งเท่านั้น ถือว่าหาได้ยาก มาก
ครั้งล่าสุดคือที่ลาน้าฉีตู้ของแจกันสมบัติทวีป อีกทั้งยังเป็ น ราชวงศ์ต้าหลีที่หนึ่งแคว้นคือหนึ่งทวีปที่ใช ้พละกาลังของทั้งแคว้นมา สร ้างวีรกรรมนี้ให้สาเร็จ อีกทั้งยังเป็ นการกระทาที่ไม่เสียดายราคาที่ ต้องจ่ายด้วย
ทว่าลาน้าใหญ่ของใบถงทวีปเส้นนี้ถือเป็ นกองกาลังของแต่ละ ฝ่ ายที่ร่วมมือกัน นี่ก็หมายความว่าพันธมิตรทั้งหมดซึ่งรวมสานัก กระบี่ชิงผิงเป็ นหนึ่งในนั้นไม่เคยมีประสบการณ์ของความส าเร็จหรือ ความพ่ายแพ้ในอดีตให้น ามาใช ้เป็ นบทเรียนมาก่อน กองก าลังของ แต่ละฝ่ ายล้วนจ าเป็ นต้องคล าทางกันเอาเอง ในอนาคตหากเจอกับ เรื่องยุ่งยาก หรือไม่ก็มีใครรู ้สึกว่าผลประโยชน์ได้ไม่เท่าเทียมกับคน อื่น พันธมิตรในอดีตกลายมาเป็ นศัตรู ก็ใช่ว่าจะเป็ นไปไม่ได้
ดังนั้นเฉินผิงอันจึงได้ถือโอกาสนี้พูดไปถึงนักพรตเนิ่นและหย่า งจื่อ
ในใจของหวังไจ่สะท้านสะเทือนอย่างหนัก แต่ใบหน้ากลับไม่มี ความผิดปกติใดๆ
เวินอวี้กลับเปิ ดปากถามโดยตรง “หย่างจื่อ? มันออกมาจาก พื้นที่ต้องห้ามได้อย่างไร?”
เฉินผิงอันกล่าว “ถูกหลอกออกมา”
เวินอวี้มองอื่นกวานหนุ่มผู้นี้ด้วยสีหน้ามีชีวิตชีวา
เฉินผิงอันส่ายหน้า
เวินอวี้พยักหน้า “ไม่รีบร ้อน”
คนสองคนที่ไม่เคยพบเจอกันมาก่อน ไม่ต้องพูดอย่างละเอียด กลับรู ้ใจกันได้โดยไม่ต้องเอื้อนเอ่ยเป็ นคาพูด
หวังไจ่ยื่นนิ้วออกมานวดคลึงหว่างคิ้ว ปวดหัวนัก
เวินอวี้ส่ายหน้า “พูดถึงคุณูปการ พูดถึงความกล้าหาญ พูดถึง ความใจกล้า ข้าล้วนด้อยกว่าเจ้าขุนเขาเฉินมากนัก นี่ไม่ใช่ถ้อยคา เกรงใจบนโต๊ะเหล้า แต่เป็ นความจริงเรื่องนี้ หวังไจ่รู ้ดีที่สุด ข้าคนนี้ ไม่เคยพูดจาดีๆ แต่ภายนอกอย่างเสแสร ้งกับใคร”
หลังจากนั้นเฉินผิงอันก็เดินไปที่หัวเรือเป็ นเพื่อนรองเจ้าขุนเขา ทั้งสอง หวังไจ่เอ่ยว่า “เฉินผิงอัน ช่วงนี้เจ้าขุนเขาเวินของพวกเรา ก าลังผลักดันให้มีการสร ้างสถานสงเคราะห์”
เฉินผิงอันดวงตาเป็ นประกาย รีบแย่งพูดทันที “ใช่สถาน สงเคราะห์ที่มี “สถานสงเคราะห์สกุลฟ่ าน” ซึ่งสืบทอดมายาวนาน แปดร ้อยกว่าปีเป็ นต้นแบบหรือไม่?” หวังไจ่ยิ้มกล่าว “ใช่แล้ว แต่ว่าสมบูรณ์แบบมากกว่า มีข้อบังคับ เจ็ดร ้อยกว่าข้อ บอกว่าหยุมหยิมยิบย่อยก็ไม่เกินจริงเลยแม้แต่น้อย เวินอวี้คิดว่าจะกดหัวคนบางคนให้ไปทาเรื่องดีๆ บ้าง”
เวินอวี้ถามอย่างสงสัย “อาจารย์เฉินรู ้เรื่องนี้ด้วยหรือ?”
เฉินผิงอันลังเลไปชั่วขณะ ก่อนจะหยิบสมุดเล่มหนาหลายเล่ม ออกมาจากชายแขนเสื้อยิ้มเอ่ย “นี่ต่างหากถึงจะถือเป็ นความบังเอิญ ที่แท้จริง เกี่ยวกับเรื่องนี้ ข้าวางเค้าโครงคร่าวๆไว้พอดี เพียงแต่ว่า รายละเอียดปลีกย่อยไม่มากเท่าของเจ้า มีข้อบังคับแค่ห้าร้อยกว่าข้อ เท่านั้น เจ้าขุนเขาเวินเอาไปดูได้เลย ไม่ต้องเอากลับมาคืนแล้ว ดูสิว่า จะช่วยชดเชยช่องโหว่ตรงไหนได้บ้างหรือไม่”
เวินอวี้รับสมุดมาด้วยสองมือ หยุดเดินอยู่ตรงหัวเรือแล้วประสาน มือคารวะ “ต้องขอลาอาจารย์เฉินแล้ว”
เฉินผิงอันจึงได้แต่คารวะกลับคืน เมื่อยืดเอวขึ้นตรงแล้วก็เอ่ยว่า “เจ้าขุนเขาเวิน ขอให้ข้าพูดนอกเรื่องสักประโยค อาจารย์ในโรงเรียน ก็ดี อาจารย์ในส านักศึกษาก็ช่าง สอนต าราอบรมผู้อื่น มิอาจแบ่ง แยกกันได้ หาไม่แล้วไม่ว่าวิถีทางโลกจะสงบสุขไร ้เรื่องราวมากแค่ ไหนก็ไม่ใช่วิถีทางโลกที่สันติสุขอย่างแท้จริง”
เวินอวี้หัวเราะเสียงดัง “ตามหลักแล้วควรเป็ นเช่นนี้ เจ้าและข้าใจ ตรงกันโดยไม่ได้นัดหมายอีกครั้งแล้ว!” หวังไจ่กุมหมัดยิ้มเอ่ย “เฉินผิงอัน ดื่มเหล้าด้วยกันคราวหน้าต้อง ดื่มแบบไม่เมาไม่กลับแล้วนะ”
เฉินผิงอันเอ่ยสัพยอก “ความสามารถในการดื่มของเจ้า ข้ารู ้ ชัดเจนดี แนะน าเจ้าว่าพูดคุยโวให้น้อยๆ หน่อย หลีกเลี่ยงไม่ให้คราว หน้าต้องใช ้หนี้บนโต๊ะสุรา จะหนีก็หนีไม่รอด”
รองเจ้าขุนเขาหนุ่มสองคนของส านักศึกษาทะยานลมจากไปแล้ว
ด้านล่างเรือข้ามฟาก แผ่นดินกว้างใหญ่ขุนเขาสายน้ายาวไกล พืชหญ้าเขียวขจีขึ้นริมตลิ่ง ความคิดทอดยาวมิขาดสาย
ดอกท้อดอกหลีทับซ ้อนเป็ นชั้นบนภูเขา เดี๋ยวทับเดี๋ยวซ ้อน ควัน ไฟใต้ก้อนเมฆคือบ้านคน บ้านเรือนทอดยาวหลังแล้วหลังเล่า
ขุนเขาสายน้าเก่าภาพบรรยากาศใหม่ แต่ละปี ผันผ่านปี ใหม่ หวนมาอีกครั้ง มีความสุขไปร่วมกัน ร่วมฉลองอย่างชื่นบาน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!