กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 976

“หงโฉว เจ้าคือปรมาจารย์ขอบเขตหก หากยินดีก็ไปรับหน้าที่ อยู่กับแม่ทัพเป้ าเถอะส่วนจะมีหน้าที่ทาอะไร วันหน้าค่อยคุยกัน อย่าง ช ้าสุดครึ่งเดือน ทางราชสานักจะต้องให้คาตอบที่แน่ชัดแก่เจ้า”

หงโฉวได้ยินแล้วก็รีบลุกขึ้นกุมหมัดรับคาสั่งทันที

“วังม่านเมิ่ง เจ้าคือเทพเซียนบนภูเขาห้าขอบเขตกลาง หากยินดี เปิดภูเขาก่อตั้งพรรคทางฝั่งของราชสานักก็ยินดีจะยกพื้นที่แห่งหนึ่ง ให้กับเจ้า ส่วนเรื่องของเงินทอง ข้าเองก็ไม่ปิดบัง ทางราชส านักได้ แต่มีใจแต่ไร้ก าลังจริงๆ”

วังม่านเมิ่งยิ้มกล่าว “ฝ่ าบาทชมกันเกินไปแล้ว อันที่จริงข้าเป็ น แค่ผู้ฝึกลมปราณขอบเขตถ้าสถิต แค่ใกล้เคียงกับห้าขอบเขตบน เท่านั้น ผู้ฝึกตนอิสระคนหนึ่ง ทั้งยังเป็ นสตรีแล้วก็ไม่มีพื้นที่ประกอบ พิธีกรรมเป็ นของตัวเอง ร่อนเร่ไปมา มิอาจคู่ควรกับค าว่า “เทพ เซียน” ได้เด็ดขาด ส่วนเรื่องของการเปิดภูเขาก่อตั้งพรรคก็ยิ่งไม่ กล้าเพ้อฝัน มีชีวิตอิสระมาจนชินแล้ว ไม่แน่เสมอไปว่าจะปรับตัวเข้า กับวงการขุนนางแห่งภูเขาสายน้าได้ หวังว่าฝ่าบาทจะให้อภัย”

หยวนอิ๋งมีสีหน้าอ่อนโยน พยักหน้ายิ้มรับ “ไม่กล้าบังคับ”

หลังจากนั้นเฉียนโหวเอ๋อร ์ที่อาศัยฤทธิ์เหล้าปลุกความกล้าก็เล่า เนื้อหาที่พูดคุยกันในคืนนั้นออกมาทั้งหมด

ฮ่องเต้หยวนอิ๋งยิ่งฟังก็ยิ่งรู ้สึก….ล้าลึกจนมองไม่เห็นก้นบึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาจารย์เฉินท่านนั้นที่สรุปแล้วเขาคือเทพเซียน จากฝ่ ายใดกันแน่? ถึงได้สามารถเป็ นผู้ถ่ายทอดมรรคาให้กับเจ้า สานักแห่งหนึ่ง?

กู่ชิวพลันเปิดปากเอ่ย “ฝ่ าบาท มีแขกมาเยือน มากันทั้งหมดสี่ คน สองคนเป็ นผู้ฝึ กตนผี คือขอบเขตโอสถทอง สองคนที่เหลือ ตอนนี้ยังมองตื้นลึกไม่ออก”

เพียงไม่นานก็มีคนมาเยือน พวกเขาเดินเข้ามาในลานบ้านนอก ห้อง ท่าทางเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง ในกลุ่มสี่คนนี้มีผู้ฝึกตนผี เซียนดินอยู่สองคนจริงๆ

กูชิวขมวดคิ้วน้อยๆ เพียงแค่มองประเมินอีกฝ่ ายอย่างรวดเร็ว แล้วหัวคิ้วของเทพอภิบาลเมืองตัวสารองท่านนี้ก็คลายออก โลกมืด และโลกสว่างเดินกันคนละเส้นทาง ความดีและความเลวแตกต่าง ไม่ มีแบ่งแยกผีหรือคน

ก็คือเฉาฉิงหล่าง ชุยเหวย อู๋โก้ว เซียวม่านอิ่ง

หยวนอิ๋งโบกมือบอกเป็ นนัยว่าไม่ต้องตื่นเต้น ก่อนจะเดินข้าม ธรณีประตูออกไปนอกห้อง

เห็นเพียงว่าคนที่ใส่ชุดลัทธิขงจื๊อสีเขียวมีสีหน้าอ่อนโยน ประสานมือคารวะพลางเอ่ย “ผู้ฝึ กตนท าเนียบศาลบรรพจารย์ของ ยอดเขาชิงผิงภูเขาเซียนตู เฉาฉิงหล่างคารวะฝ่าบาท”

บุรุษวัยกลางคนที่มีใบหน้าหล่อเหลาแต่สีหน้าเย็นชากล่าวอย่าง เฉยเมย “ชูยเหวยผู้คุมกฎแห่งสานักกระบี่ชิงผิง”

ผู้ฝึกตนผีอีกสองคนก็บอกกล่าวชื่อแซ่ตัวเอง “ผู้ถวายงานศาล บรรพจารย์สานักกระบี่ชิงผิง อู๋โก้ว” “ผู้ถวายงานศาลบรรพจารย์ เซียวม่านอิ่ง”

ฮ่องเต้หนุ่มใจกระตุกเล็กน้อย

บรรพจารย์ผู้คุมกฏคนหนึ่งของศาลบรรพจารย์ถึงกับเปิดปากที หลังผู้ฝึกตนบนทาเนียบคนหนึ่งอีกหรือ?

น่าเสียดายที่ข่าวสารบนภูเขาของใบถงทวีปทุกวันนี้ถูกปิดกั้น นั่นก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องบนภูเขาของทวีปอื่นเลย รายงานขุนเขา สายน้าบางอย่างก็ได้แต่อาศัยการส่งคนไปทุ่มเงินก้อนใหญ่ซื้อมา จากสถานที่อย่างท่าเรือปี้เฉิงหรือไม่ก็ท่าเรือใบท้อเท่านั้น ที่น่าสงสาร ยิ่งไปกว่านั้นก็คือทางราชสานักยังต้องติดเงินผู้ฝึกตนเหล่านั้นเอาไว้ ก่อน ก็โชคดีที่เซียนซือเหล่านั้นส่วนใหญ่เคยเป็ นผู้ถวายงานใน ตระกูลของขุนนางเก่าแก่ตระกูลสูงศักดิ์ของต้าหยวน จึงไม่เคยถือสา ในเรื่องนี้

วันเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ ในอาณาเขตของภูเขาเซียนตูมีส านัก กระบี่ชิงผิงก่อตั้งขึ้นมาใหม่ ชุยตงซานคือเจ้าส านักคนแรก ในบรรดา คนที่มาเข้าร่วมงานพิธีก็มีสานักกุยหยกและราชวงศ์ต้าเฉวียน

ในรายงานขุนเขาสายน้ามีข่าวเพียงเท่านี้

ชุยตงซาน? หยวนอิ๋งไปหาผู้ฝึกตนที่อายุขัยการฝึกตนค่อนข้าง สูง ต่างก็ไม่มีใครเคยได้ยินชื่อคนผู้นี้มาก่อน

หยวนอิ๋งจัดระเบียบสาบเสื้อ ประสานมือคารวะเฉาฉิงหล่างกลับ คืน “ลูกหลานเกาจงสกุลหยวนต้าหยวน หยวนอิ๋งคารวะเฉาเซียนซือ ผู้คุมกฏชุยและเซียนซือผู้ถวายงานทั้งสองท่าน”

เฉาฉิงหล่างยิ้มบางๆ เอ่ยว่า “ฝ่ าบาทไม่ต้องมากพิธี ผู้คุมกฏชุย ผู้ถวายงานอู๋และผู้ถวายงานเชียวกับข้า ต่างก็แยกย้ายกันไปดูชีวิต ความเป็ นอยู่ของชาวบ้านในอาณาเขตการปกครองของฝ่ าบาท ของ หยวนลี่และของหยวนมี่มาแล้วคร่าวๆ รอบหนึ่ง”

ในความเป็ นจริงแล้ว อันที่จริงข่าวสารของฮ่องเต้อีกสองคน ว่องไวกว่าหยวนอิ๋งมากนัก พูดถึงแค่หยวนลี่ก็ถึงขั้นนาพาเจินเหรินผู้ พิทักษ์แคว้นกับซานจวินห้ามหาบรรพตใหม่จัดขบวนใหญ่โต ระดม พลกันอย่างเอิกเกริก กาลังอยู่ระหว่างเดินทางมุ่งหน้าไปที่ภูเขาเซียน ตูแล้ว

เฉาฉิงหล่างกล่าว “การปกครองแว่นแคว้นก็เหมือนการนึ่งปลา ตัวน้อย สตรีมีฝีมือแต่ไร ้วัตถุดิบย่อมมิอาจปรุงอาหารเลิศรสได้ แต่ถึง อย่างไรก็ยังเป็ นคนมีฝี มือ การกระหายใน ความส าเร็จและ ผลประโยชน์เฉพาะหน้า การเรื่องอานาจชั่วคราวของผู้ครองแคว้น ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่แผนการที่ยาวไกล”

ฮ่องเต้หยวนอิ๋งได้ยินแล้วก็อึ้งงันไร ้คาพูด

ชุยเหวยกล่าวอย่างเรียบเฉยว่า “เฉาฉิงหล่างคือลูกศิษย์ผู้สืบ ทอดของเจ้าขุนเขาเฉินภูเขาลั่วพั่วสานักเบื้องบนของพวกเรา ดังนั้น ความเห็นของเฉาฉิงหล่างก็คือความเห็นของตลอดทั้งสานักกระบี่ชิง ผิง”

หงโฉวและวังม่านเมิ่งที่มีท่าทางผ่อนคลายสบายๆ อยู่ตลอดต่าง ก็ใจสั่นขึ้นมาพร ้อม กันหันมามองหน้ากันเอง พริบตานั้นหน้าผาก ของหงโฉวก็เต็มไปด้วยเหงื่อ กลืนน้าลายลงคอ กุมหมัดถามว่า “ขอ ถามเฉาเซียนชื่อและผู้คุมกฏชุย ภูเขาลั่วพั่วที่ว่านี้ใช่ภูเขาลั่วพั่วของ แจกันสมบัติทวีปหรือไม่? เจ้าขุนเขาเฉิน….ใช่เจ้าขุนเขาเฉินของ แจกันสมบัติทวีปหรือไม่?”

เ ฉ า ฉิ ง ห ล่ า ง พ ยัก ห น้า ยิ้ม รับ ส่ ว น ชุย เ ห ว ย ย้อ น ถ า ม “ไม่อย่างนั้น?”

เมื่อคาพูดนี้ดังออกมา กลุ่มของฮ่องเต้หนุ่ มต่างก็รู ้สึก เหมือนกับเฉียนโหวเอ๋อร์อย่างไม่มีผิดเพี้ยน เหมือนกาลังฝันไป

แต่กลับเป็ นฝันดี

……

ตรอกฉีหลง

เซี่ยโก่วลังเลอยู่เล็กน้อย แต่ก็ยังไม่ได้เผยร่างจริงออกมา หลังจากถูกกดหัวเอาไว้ นางก็ย่นคอ แสดงท่าทีอ่อนข้อให้อย่างที่หา ได้ยาก “คือว่า ทุกคนล้วนเป็ นครอบครัวเดียวกันแล้ว”

นางยิ้มเอ่ย “เซี่ยโก่ว? ทาไมถึงตั้งชื่อนี้ล่ะ ป๋ ายจิ่ง เฉายวิน ไหว้ จิ่ง เหย้าหลิง แต่ละชื่อก็ไม่ได้ดีอยู่แล้วหรอกหรือ ตอนนี้น่ะหรือ ระวัง จะรักษาหัวสุนัข (โก่วแปลว่าหมา) เอาไว้ไม่ได้ล่ะ”

ป๋ ายจิ่งคือผู้ฝึกกระบี่ อีกทั้งยังเป็ นเจ้าของ “เสื้อเกราะเหว่ย” คน ใหม่อีกด้วย เป็ นเหตุให้หากว่ากันถึงการสืบทอด ป๋ ายจิ่งและหย่างจื่อ

ต่างก็ถือว่ามีสายเป็ นของตัวเอง เซี่ยโก่วยิ้มอย่างผิดฝืน
ผู้ถือกระบี่ ข้ารับใช ้กระบี่ วิญญาณกระบี่?

เสี่ยวโม่อยากจะลุกขึ้นยืน แต่ “เฉินผิงอัน” กลับบอกเป็ นนัยให้ เสี่ยวโม่นั่งต่อ

โต๊ะเหล้าของร ้านฉ่าวโถวในตรอกฉีหลงตัวเอง เวลานี้คล้ายเป็ น น้าวนจุดหนึ่งในแม่น้าแห่งกาลเวลา แล้วก็เหมือนดั่งน้าบ่อที่ไม่ยุ่งกับ น้าคลอง

ภาษาพระธรรมเคยกล่าวไว้ว่า คนผู้หนึ่งเดินข้ามสะพาน มองเห็นสะพานไหลผ่าน แต่มิได้เห็นน้าไหล

ไม่ว่าจะเป็ นการจับผลัดจับผลูหรือไม่ แต่ก็ถือเป็ นการเปิดเผย ความลับสวรรค์แต่เนิ่นๆ แล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!