สรุปตอน บทที่ 976.3 พรรคบางแห่ง – จากเรื่อง กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! โดย Internet
ตอน บทที่ 976.3 พรรคบางแห่ง ของนิยายกำลังภายในเรื่องดัง กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
เหวยกูซูลุกขึ้นยืนทันใด “ข้าจะไปจ่ายเงิน”
โจวหมี่ลี่ยิ้มอย่างเหนียมอาย “เซียนซื่อผู้เฒ่าหวัง ข้าจ่ายเงิน เรียบร ้อยแล้ว”
เฉินผิงอันพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม หวังจี้จึงได้แต่ยอมล้มเลิก ความคิด ออกมาจากเหลาสุรา หวังจี้ก็พาพวกชิวจื๋อออกไปจาก ท่าเรือปี้เฉิง เรียกเรือยันต์ลาหนึ่งออกมาเดินทางกลับส านักกุยหยก ในคืนนั้นเลย
เฉินผิงอันยิ้มถาม “จ่ายเงินไปเท่าไร?”
โจวหมี่ลี่ชูนิ้วสามนิ้ว
เฉินผิงอันเอ่ยอย่างตกตะลึง “สามเหรียญเงินร้อนน้อย?! ก่อกบฏ หรือไร เชือดหมูรี! ไปไปคุยกับพวกเขาให้รู ้เรื่อง!”
โจวหมี่ลี่ยิ้มกว้าง เฉินผิงอันตบศีรษะของแม่นางน้อย พูดด้วย น้าเสียงที่เต็มไปด้วยความหวังดีว่า “หมี่ลี่หนอหมี่ลี่ เจ้าเป็ นหมูน้อย หรือ ขนาดนี้แล้วก็ยังยอมควักเงินจ่ายแต่โดยดี?”
หมี่อวี้หมดคาจะพูด
ใต้เท้าอิ่นกวาน ฝีมือการแสดงของท่านก็ช่าง…ห่วยแตกเกินไป หน่อยแล้ว “ผิดแล้ว! เงินเกล็ดหิมะต่างหาก”
คิดไม่ถึงว่าหมี่ลี่น้อยจะลาพองใจอย่างมาก หัวเราะร่าเอ่ยว่า “หากไม่เพราะตอนหลังสุดข้าสั่งเหล้าหมักตระกูลเซียนกานั้น จ่ายเงินเกล็ดหิมะไม่ถึงสองเหรียญก็พอแล้ว”
เงินเกล็ดหิมะยังไม่ค่อยเท่าไร ล้วนเป็ นลูกศิษย์ที่ไม่ได้รับการ บันทึกชื่อ ลงจากภูเขาแล้วก็ลงไปเถอะ แต่ละคนไปขยันหมั่นเพียร บนเส้นทางของตัวเอง ตั้งใจฝึกตนกันไป วันหน้าตกไปอยู่ในกระเป๋ า ของใครก็ขึ้นอยู่กับโชควาสนาของใครของมันแล้ว
เงินร ้อนน้อย ลูกศิษย์ผู้สืบทอดศาลบรรพจารย์ เมื่ออยู่กับโจวหมี่ ลี่ทุกเหรียญล้วนมีชื่อมีแซ่
เงินฝนธัญพืช ว้าว นั่นร ้ายกาจมากเลยล่ะ น่าเสียดายที่หมี่ลี่ น้อยสะสมมาตั้งนานขนาดนี้ก็ยังเก็บได้ไม่ถึงหนึ่งเหรียญเงินฝน ธัญพืชสักที
นาง เผยเฉียน พี่หญิงหน่วนซู่ ทุกคนจะมีกระปุกเงินคนละสาม ใบ แต่ละคนมีภูเขาเงินสามลูก ล้วนเก็บไว้ที่พี่หญิงหน่วนซู่ แบ่ง ออกเป็ นใส่เงินเหรียญทองแดง เงินทอง เงินเทพเซียน
แม่นางน้อยพลันรู ้สึกละอายใจเล็กน้อย “เจ้าขุนเขาคนดี อันที่ จริงข้าซื้อเหล้าที่ราคาถูกที่สุดในร ้าน เหล้าหมักตระกูลเซียนชนิดอื่น แพงเกินไป ข้าตัดใจซื้อไม่ลง”
หมื่อวี้อยากจะปลอบใจด้วยค าพูดท านองว่าไม่เป็ นไรหรอก ของขวัญเบาน้าใจหนักแค่นี้ก็ถือว่าให้หน้าพวกเขามากแล้ว พวก หวังจี้ได้ดื่มเหล้าหนึ่งกาก็ควรจุดธูปขอบคุณแล้ว
ผลคือใต้เท้าอิ่นกวานกลับไม่คิดจะพูดอย่างเขา เขาลูบศีรษะ ของหมี่ลี่น้อย เอ่ยสัพยอกว่า “ทาไมถึงได้ขี้เหนียวแบบนี้ล่ะ ภูตน้า ใหญ่แห่งทะเลสาบคนใบ้ที่ปีนั้นโน้มน้าวให้ข้าใช ้เงินฝนธัญพืชซื้อ กระพรวนชิ้นหนึ่ง หายไปไหนแล้ว?”
หมี่ลี่น้อยหัวเราะหึหึ “ต้องขยันมัธยัสถ์เพื่อเลี้ยงดูครอบครัว!”
เฉินผิงอันพยักหน้า “เหมือนข้า คนบ้านเดียวกันต้องเข้าประตู บานเดียวกันจริงเสียด้วย”
หมื่อวี้ใช ้สองมือสอดรองไว้ใต้ท้ายทอย บางครั้งมีสายตาของสตรี ลอบมองมา เซียนกระบี่ใหญ่หมี่ของพวกเราก็ยังคงมองตรงไป ข้างหน้าสายตาไม่ล่อกแล่ก
“เจ้าขุนเขาคนดี สถานที่แบบไหนที่ข้าวมื้อหนึ่งต้องจ่ายเงินตั้ง สองสามเหรียญเงินร ้อนน้อย มีที่แบบนั้นอยู่จริงหรือ?”
“มิติ ทาไมจะไม่มีล่ะ อย่าว่าแต่เงินร ้อนน้อยเลย ค่าอาหารที่ต้อง จ่ายด้วยเงินฝนธัญพืชก็ยังมี จุ๊ๆ ทุกตะเกียบที่คีบลงไปล้วนกินเงิน เทพเซียนเข้าไปทั้งนั้นนะ”
“จะยกตะเกียบไหวหรือไม่”
เฉินผิงอันตีหน้าเคร่ง ยกมือขึ้นทาท่าถือตะเกียบ จงใจทามือสั่น น้อยๆ “ก็นั่นน่ะสิ ข้ายังคืบกับข้าวแบบนี้เลย”
“ฮ่า ถ้าย่างนั้นข้าต้องปรึกษากับนายท่านสักหน่อยแล้ว คีบ กับข้าวให้น้อยหน่อย กินอาหารน้อยลงหนึ่งคา ดื่มเหล้าน้อยลงหนึ่ง ค า แล้วค่อยหักเป็ นเงินมามอบให้ข้าแทน”
“แบบนั้นไม่ได้หรอก เสียเกียรติเกิดไป ลดสถานะตัวเองเกินไป ข้าเปิ ดปากพูดไม่ได้หรอก ดูท่าคงจะพาเจ้าไปด้วยกันไม่ได้แล้ว ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็ นขอทานน้อยที่นั่งยองแกว่งถ้วยขอเงินอยู่ข้าง โต๊ะเป็ นเพื่อนเจ้าแทน”
“ฮ่าๆ แค่คิดก็น่าสนใจแล้ว แต่ก็แค่คิดเท่านั้น”
หมี่อวี้ได้ยินบทสนทนาของหนึ่งคนโตหนึ่งเด็กน้อยก็รู ้สึกว่า น่าสนใจมากเหมือนกัน
โจวหมี่ลี่ เฉินหน่วนซู่ เฉาฉิงหล่าง
ไม่ว่าจะมีสถานะเป็ นอะไร พวกเขาล้วนเป็ นความงดงามในใจ ของใต้เท้าอิ่นกวานเสมอ
เหมือนเขาได้ถือถ้วยใบเล็ก ฤดูใบไม้ผลิอบอุ่นดอกไม้เบ่งบาน อากาศสดชื่นปลอดโปร่ง วันนี้ไม่มีเรื่องราวใด สงบสุขปลอดภัย
กับเรื่องราว ไม่ถามผลเก็บเกี่ยวถามถึงแค่การหว่านไถ ไม่ แสวงหาสิ่งที่อยู่นอกกายกับจิตใจ มานะฝึกตน มีศีลสมาธิและปัญญา ขอพรจากสวรรค์
……
ทั้งสองท่านถึงถูกชะตากับผู้น้อยค่อนข้างมาก ยังพูดคุยกับข้าน้อย อยู่พักใหญ่…”
คาพูดที่สุภาพเป็ นทางการ ล้วนเป็ นถ้อยคาที่เฉียนโหวเอ๋อร ์อ่าน เจอจากในต าราเบ็ดเตล็ดและในหนังสือนิยาย จะเหมาะสมหรือไม่ สมควรพูดหรือไม่ ล้วนต้องอาศัยโชคแล้วล่ะ!
หวังเพียงว่าอย่าได้เดือดร ้อนติดร่างแหไปด้วยก็พอ ด้วยแขนขา ที่เล็กบางของเขาผอมจนหนักแค่ไม่กี่ตาลึง ยัดซอกฟันยังไม่พออิ่ม เลย
หยวนอิ๋งมีสีหน้าอ่อนโยน ได้ยินแล้วก็พยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม
อยู่ดีๆ ก็มีเพื่อนบ้านที่เป็ นสานักอักษรจงแห่งหนึ่งเพิ่มมา สาหรับ ราชวงศ์ต้าหยวนแล้วแทบไม่ต่างจากฟ้ าผ่าจากพื้นดิน
หากหยวนอิ๋งจาไม่ผิด ในประวัติศาสตร ์ของใบถงทวีป ตอนที่ได้ ครอบครองส านักวิถีกระบี่แห่งหนึ่งก็เป็ นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสามสี่พันปี ก่อนแล้วกระมัง?
ในเมื่อไม่ว่าจะเป็ นโชคหรือเคราะห์ล้วนหลบไม่พ้น หยวนอิ๋งเคย อ่านรายงานเกี่ยวกับนครแห่งนี้มาอย่างละเอียด หลังจากชั่งน้าหนักดี แล้วจึงยืนกรานจะมาเยือนด้วยตัวเองสักรอบ
หยวนอิ๋งยิ้มเอ่ย “เฉียนจวิ้น ไม่ต้องตื่นเต้น ไหนลองเล่ามาสิว่า คืนนั้นเขียนชื่อทั้งสองท่านพูดคุยอะไรกับเจ้าไปบ้าง?”
ฮ่องเต้หนุ่มบอกให้คนให้ยกม้านั่งยาวอีกสองตัวมาจากห้องโถง ใหญ่ ยิ้มเอ่ยว่า “พวกเรานั่งลงคุยกันเถอะ”
เฉียนโหวเอ๋อร ์กลืนน้าลาย นั่งบนม้านั่งยาวแค่ครึ่งกัน หยวนอิ๋ง หลุดหัวเราะอย่างอดไม่อยู่ “เฉียนจวิ้น ดื่มเหล้าหรือไม่?”
เฉียนโหวเอ๋อร ์ลังเลเล็กน้อย หางตาเหลือบมองวังม่านเมิ่งแวบ หนึ่ง เห็นนางทาท่าเหมือนคนนอกสถานการณ์ กูไหน่ไนของข้า เจ้า ไร ้คุณธรรมขนาดนี้เชียวหรือ?
หงโฉวกุมหมัดเอ่ย “เรียนฝ่ าบาท เฉียนจวิ้นดื่มเหล้าได้ แต่ไม่ อาจดื่มมากเกินไป ดื่มเหล้าครึ่งจินคือดีที่สุด
หยวนอิ๋งยิ้มพลางพยักหน้ารับ “ถ้าอย่างนั้นก็เอาเหล้ามากาหนึ่ง เฉียนจวิ้นตัดสินใจเองแล้วกันว่าจะดื่มมากแค่ไหน”
หยวนอิ๋งพูดกับกู่ชิวว่า “การกระทาของพวกเจ้าในนครแห่งนี้ ข้า ล้วนได้เห็นแล้ว กูชิวเจ้าก็มารับหน้าที่ดูแลศาลเทพอภิบาลเมือง ประจาเขตการปกครองแห่งนี้ชั่วคราวก่อนแล้วกัน รอให้วันใดข้า สร ้างเมืองหลวงขึ้นมาใหม่อีกครั้ง…ช่างเถอะ เรื่องของวันหน้าก็ค่อย ว่ากันวันหน้า ข้าจะไม่พูดจาเกินตัวไปก่อนแล้ว”
กูชิวพยักหน้ารับเงียบๆ
เดิมทีหยวนอิ๋งอยากบอกว่าให้กูชิวย้ายไปรับตาแหน่งที่ศาลเทพ อภิบาลเมืองประจ าเมืองหลวง เพียงแต่หยวนอิ๋งไม่เคยถนัดเรื่องการ ซื้อใจคน จึงได้แต่พูดอย่างครึ่งๆ กลางๆ เท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!