กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 976

รอกระทั่งคนทั้งสามออกไปจากห้องบัญชี ผู้ฝึกตนเฒ่าที่นั่งอยู่ บนเก้าอี้อันดับหนึ่งของท่าเรือปี้เฉิงก็ถามเสียงเบาว่า “น้องเจี่ย คุณชายท่านนี้คือ?”

เจี่ยเฉิงลูบหนวดยิ้มกล่าว “ไม่ขอปิดบัง แน่นอนว่าเขาต้องเป็ น เจ้าขุนเขาเฉินของภูเขาลั่วพั่วพวกเราแล้ว พวกเจ้าอาจจะยังไม่รู ้ว่า ชีวิตนี้เจ้าขุนเขาเฉินให้ความเคารพนับถือนักบัญชีเป็ นที่สุด เป็ นเหตุ ให้ครั้งนี้เรือมาจอดเทียบท่า ต่อให้เจ้าขุนเขาเฉินจะมีกิจธุระรัดตัวแต่ กระนั้นก็ยังจะต้องมาพบหน้าพี่ชายทั้งหลายให้จงได้ เมื่อครู่ระหว่างที่ เดินทางกันมา เจ้าขุนเขาเฉินยังพูดด้วยว่าตัวเองเป็ นคนร่วมอาชีพ กับพวกเจ้าครึ่งตัว ข้าก็เลยฉวยโอกาสนี้พูดถึงประวัติของทุกท่าน คร่าวๆ เจ้าขุนเขาเฉินตั้งใจฟังอย่างมาก แล้วก็จดจาไว้ในใจ เรียบร ้อยแล้ว ส่วนเรื่องที่ว่าเหตุใดถึงไม่ได้บอกกล่าวสถานะ แน่นอน ว่าไม่ใช่เพราะเจ้าขุนเขาบ้านข้าวางมาด แต่เพราะเจ้าขุนเขาเป็ นคน ที่อาบน้าร ้อนมาก่อน คุ้นเคยกับลูกคิดและสมุดบัญชีเป็ นอย่างดี รู ้ดี ที่สุดว่าเรื่องของการคิดบัญชีเป็ นงานละเอียดอ่อน ไม่ยินดีจะให้ทุก ท่านต้องเสียสมาธิไปกับการโอภาปราศรัยให้เสียเวลา”

จ้งชิวดื่มชาเงียบๆ ไม่เอ่ยอะไร

จางเจียเจินก้มหน้าคิดบัญชี แต่ในใจรู ้สึกนับถืออย่างถึงที่สุด

เดิมทีโจวหมี่ลี่ไม่คิดจะลงมาจากเรือ รู ้สึกว่าฟุบตัวอยู่บนราวรั้ว ชมทัศนียภาพก็พอแล้ว เพียงแต่เจ้าขุนเขาคนดีบอกว่าอยากกิน อาหารมื้อดึก นางจึงแอบลองชั่งน้าหนักถุงเงินของตัวเองดู ลูกน้องใต้ บังคับบัญชายังมีทหารเป็ นพันม้าเป็ นหมื่น จะแพ้ให้กับกับแกล้มบน โต๊ะตัวหนึ่งได้หรือ? ไม่มีทาง แต่นางก็ยังทิ้งคานหาบสีทองชิ้นนั้นไว้ บนเรือเฟิงยวน

ดังนั้นคืนนี้แม่นางน้อยชุดดาจึงสะพายหีบไม้ไผ่ ในมือถือไม้เท้า เดินป่า เดินอยู่ตรงกลางสุด ฮ่า เป็ นจิ้งจอกที่แอบอิงบารมีเสือ

ด้านหนึ่งคือเจ้าขุนเขาคนดีที่ปักปิ่นหยกบนศีรษะ สวมชุดกว้า ตัวยาวรองเท้าผ้าสะพายกระบี่

อีกด้านหนึ่งคืออวี๋หมี่ที่สวมชุดคลุมตัวยาวสีขาวหิมะ รูปโฉม งดงามอย่างถึงที่สุดสะพายกระบี่ แล้วยังพกน้าเต้าเลี้ยงกระบี่ที่มีชื่อว่า หาวเหลียงไว้ที่เอว

คนหนึ่งก้าวเดินอย่างผ่อนคลาย มีมาดของปรมาจารย์ อีกคน หนึ่งท่วงท่าเกียจคร ้านเนื้อหนังมังสาโดดเด่น

ใครเห็นก็รู ้ว่าไม่ควรไปมีเรื่องด้วย

ต่อให้เป็ นยามค่าคืน บนถนนของท่าเรือปี้เฉิงก็ยังคงมีผู้คนเดิน สวนกันขวักไขว่ เบียดเสียดกันแออัด หลายคนรู ้สึกสงสัยใคร่รู ้ใน สถานะของ “แม่นางน้อย” อยู่หลายส่วน คงไม่ใช่บรรพจารย์เฒ่าใน จวนเซียนบางแห่งที่ฝึ กตนประสบความสาเร็จจึงสามารถกลับคืน

รูปลักษณ์จากแก่มาเป็ นเด็กได้กระมัง? อยู่ข้างนอก จะดีจะชั่วก็ต้องมี ความสามารถในการ “มองลมปราณ” อยู่สองสามแบบ ลักษณะของ เสื้อผ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งชุดคลุมอาคม รวมไปถึงเครื่องประดับที่ สามารถเป็ นหน้าเป็ นตาของพรรคหรือจวนเซียน…ล้วนมีข้อพิถีพิถัน อย่างมาก

เฉินผิงอันเอ่ยสัพยอก “ดูท่าน่าจะเป็ นเพราะอยู่ห่างจากแจกัน สมบัติทวีปมาไกลเกินไป เดินอาดๆ อยู่บนถนนแบบนี้ ทั้งยังไม่ได้ร่าย เวทคาถาอ าพรางตา ถึงกับไม่มีใครจ าเซียนกระบี่ใหญ่หมี่ได้”

โจวหมี่ลี่ถาม “เจ้าขุนเขาคนดี อวี๋หมี่อยู่นอกบ้านมีชื่อเสียงมาก เลยหรือ?”

หมื่อวี้รู ้ได้เลยว่าท่าไม่ดีแล้ว ก าลังจะอธิบาย เฉินผิงอันกลับพยัก หน้าเอ่ยขึ้นมาแล้วว่า “ชื่อเสียงของเซียนกระบี่ใหญ่หมี่โด่งดังมาก เลยล่ะ เอาเป็ นว่าข้าเทียบกับเขาไม่ได้แน่นอน”

โจวหมี่ลี่เอ่ยเสียงเบา “ใช่แล้วๆ ได้ยินพี่หญิงหลวนเล่าให้ฟัง บอกว่าตอนที่อยู่จวนไช่เฉวี่ยของอุตรกุรุทวีป อวี๋หมี่ของพวกเราเป็ น ที่นิยมของผู้คนมาก ทุกครั้งที่เดินอยู่บนถนนล้วนจะต้องมีพวกพี่สาว เทพธิดามาทักทายอวี๋หมี่เสมอ ได้รับการต้อนรับอย่างมากเลยล่ะ”

เฉินผิงอันเหล่ตามองเซียนกระบี่ใหญ่หมี่ ยิ้มเอ่ยว่า “อ้อ?” หมื่อวี้อธิบาย “ข้าอยู่ที่จวนไช่เฉวี่ย เจอใครก็ล้วนไม่พูดไม่จา” ใต้เท้าอิ่นกวานหัวเราะเสียงเย็น “เฮอะ”

ใบหน้าของหมี่ลี่น้อยเต็มไปด้วยความสงสัย อวี๋หมี่เจ้าอยู่ที่จวน ไช่เฉวี่ยวางมาดขนาด นี้เลยหรือเหตุใดถึงไม่ทาตัวให้เข้ากับคนอื่น ง่ายๆ ไม่น่านะ ข้าจะช่วยไกล่เกลี่ยจะช่วยแก้ไขให้เจ้าอย่างไรดี แม่ นางน้อยจึงได้แต่แสร ้งท าเป็ นเลอะเลือนด้วยการร ้องว่า “อ๋า?”

หมื่อวี้จนใจยิ่งนัก

เฉินผิงอันยิ้มถาม “จะแวะซื้อเมล็ดแตงไปด้วยเลยไหม?”

โจวหมี่ลี่รีบส่ายหน้าปฏิเสธ “สถานที่ที่กลิ่นอายเซียนเข้มข้น เช่นนี้ ซื้ออะไรก็ห้ามซื้อของที่สามารถหาซื้อได้ตามตลาดเด็ดขาด อยากเป็ นหมูที่ถูกเชือดหรือไร ซื้อเมล็ดแต่งต้องไปซื้อที่ร ้านในเมือง หงจู๋ ข้าสนิทกับพวกเขา เป็ นลูกค้าเก่าแล้ว ซื้อเยอะยังจะได้ลดราคา ด้วย!”

เฉินผิงอันพยักหน้า “เชี่ยวชาญ”

เดิมทีก็ตั้งใจมากินอาหารมื้อดึกอยู่แล้ว โจวหมี่ลี่สอดมือใส่ไว้ใน ชายแขนเสื้อ ลูบคลาถุงเงินที่หนักอึ้งอีกครั้ง ยิ้มกว้างเอ่ยว่า “วันนี้ข้า เลี้ยงเอง!”

แล้วก็เลือกเหลาสุราแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้เคียง บนผนังด้านหลังโต๊ะ คิดเงินมีป้ ายไม้ที่เขียนชื่ออาหารแนะนาแขวนไว้เต็มผนัง โจวหมี่ลี่ เห็นแล้วก็ชอบมาก แต่พอเห็นราคาที่อยู่ในเครื่องหมายวงเล็บ…

โจวหมี่ลี่เกาแก้ม สูดลมหายใจเข้าลึกหนึ่งครั้ง ช่างเถิดๆ เงินทอง เป็ นของนอกกาย ไปเถอะๆ หลังจากย้ายบ้านแล้วก็หาคนดีๆ จากลา กันวันนี้ หากมีวาสนาก็ค่อยมาพบกันใหม่ในยุทธภพ

หลังจากสั่งอาหารนั่งลงเรียบร ้อยแล้ว หมื่อวี้อดกลั้นอยู่นาน สุดท้ายก็ทนไม่ไหวถามว่า “หมี่ลี่น้อย เจ้าก็ชอบกินปลาด้วยหรือ?”

ตอนอยู่บนภูเขาลั่วพั่ว พ่อครัวเฒ่าก็เคยทาอาหารที่ทาจาก วัตถุดิบในแม่น้าอยู่บ้างเพียงแต่ว่าทุกครั้งที่นาขึ้นวางบนโต๊ะ หมี่อวี้ก็ จะอดมองหมี่ลี่น้อยหลายครั้งอย่างอดไม่อยู่ทุกครั้งนางก็ขยับตะเกียบ เหมือนกัน เพียงแต่มองไม่ออกว่าชอบหรือไม่ชอบ ถึงอย่างไรทุกครั้ง ที่กินปลาล้วนไม่คายก้าง ผลคือวันนี้หมี่ลี่น้อยใจป้ามาก สั่งอาหารมา เต็มโต๊ะ สองจานในนั้นยังเป็ นปลา จานหนึ่งนึ่งน้าใสอีกจานตุ๋นน้า แดง

หมี่ลี่น้อยกะพริบตาปริบๆ

เฉินผิงอันเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “หมี่ลี่น้อยอยู่ที่ทะเลสาบคนใบ้ ทุกวันหากไม่กินปลากินกุ้งจะให้กินอะไร ดื่มน้าอย่างเดียวจะอิ่มหรือ ค าถามนี้ก็ช่างถามมาได้ หมื่อวี้เจ้าคงไม่ใช่…”

จากนั้นเฉินผิงอันกับหมี่ลี่น้อยก็พูดขึ้นพร ้อมกันว่า “คนโง่หรอก กระมัง”

แม่นางน้อยนั่งอยู่บนมานั่งยาว กุมท้องหัวเราะก๊าก ตลกเกินไป แล้ว

หมื่อวี้ก็หลุดหัวเราะพรีดอย่างอดไม่อยู่

ก็ถูกนะ หมี่ลี่น้อยยังพกปลาแห้งตัวเล็กไว้ถุงหนึ่งติดตัวอยู่ตลอด ด้วยนี่นา

โจวหมี่ลี่แอบขยิบตาให้หมี่อวี้ บัญชีเลอะเลือนก่อนหน้านั้น เจ้า ขุนเขาคนดีต้องได้เอามาเปิดดูเป็ นแน่

เฉินผิงอันขอจอกเหล้ามาอีกหนึ่งใบ ให้หมี่ลี่น้อยได้ดื่มเหล้า เล็กน้อยดับกระหาย

โหยวมาที่เหลาสุราด้วย ในเหลาสุราเกิดเสียงฮือฮาทันใด
ผู้ฝึกตนห้าขอบเขตบนของใบถงทวีปในทุกวันนี้ ล้าค่าหายาก ดุจขนหงส์เขากิเลน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!