หลังเปิดผ้าคลุมหน้า ผิวพรรณของกู้ชิวเหลิ่งเรียบเนียนและขาวยิ่งนัก ริมฝีปากชมพูเหมือนดอกท้อ ใบหน้าที่ไม่ได้แต่งหน้า คิ้วดำเหมือนหมึก ดวงตาสว่างและงดงาม แม้จะดูยังเด็ก แต่ก็ยังเรียกได้ว่าเป็นหญิงงามล่มเมืองคนหนึ่ง
กู้ชิวเหลิ่งอุทาน รีบปิดหน้าด้วยความตื่นตระหนกและพูดว่า:"ลูกแต่งหน้าเบามาพบท่านอ๋องรองไม่สะดวกนัก แต่......แต่น้องสามมาเปิดผ้าคลุมหน้าของข้าทำไม? "
รอยยิ้มบนใบหน้าของกู้ชิวเยว่ยังคงแข็งทื่อ หันไปมองฮูหยินใหญ่ที่นั่งอยู่บนที่นั่งสูงโดยไม่รู้ตัว เห็นฮูหยินใหญ่ก็ทำหน้าตกตะลึง แต่คนที่ประหลาดใจที่สุดคือแม่นมโจว ใครจะไปคิดว่ากู้ชิวเหลิ่งจะไม่แต่งหน้า ท่าทางแสร้งทำเป็นหวาดกลัวของกู้ชิวเหลิ่งตอนอยู่ในหน้าประตูนั้น กลับเป็นการแกล้งทำ
สีหน้าของกู้หนานเฉิงสับสน และทันใดนั้นเขาก็นึกถึงผู้หญิงที่มีหน้าตาและความสามารถยอดเยี่ยมที่สุดในยุคนั้น แม้แต่ลูกที่คลอดออกมาก็อ่อนโยนน่ารักผิวขาวดั่งหยก แต่ตั้งแต่ที่หญิงคนนั้นเสียไป ลูกสาวคนนี้ก็ค่อยๆกลายเป็นเหมือนคนธรรมดาและเป็นโรคพูดติดอ่าง แต่ตอนนี้เมื่อมองดูลูกสาวคนนี้อีกครั้ง ก็รู้สึกว่านางคล้ายกับแม่ของนางมากขึ้น ราวกับว่าวินาทีต่อมา หล่อนก็จะยิ้มปรากฏตัวมาอยู่ตรงหน้าเขา
เมื่อรู้สึกถึงความเสียสติไม่อยู่กิริยาของกู้หนานเฉิง ฮูหยินใหญ่ก็ไอเบาๆ และพูดอย่างเหมือนตำหนิหน่อยว่า:"เยว่เอ๋อร์ ทำไมเจ้าถึงได้ไร้มารยาทต่อพี่รองเจ้าได้ถึงเยี่ยงนี้? ท่านอ๋องยังอยู่ เจ้าก็กล้าบังอาจได้เช่นนี้! "
กู้ชิวเยว่กระทืบเท้าอย่างไม่เต็มใจ กู้ชิวเหลิ่งก็ปิดผ้าคลุมหน้าอีกครั้ง ในดวงตานั้นเต็มไปด้วยความหวัดกลัว แต่สายตากลับมองไปมาบนตัวของกู้หนานเฉิงและอวี่เหวินเจี๋ย
สีหน้าของอวี่เหวินเจี๋ยเป็นเหมือนปกติ ราวกับว่าไม่เห็นนาง ส่วนกู้หนานเฉิงก็เริ่มคิดไปไกล เหมือนกับว่าต้องการเห็นร่างของผู้หญิงอีกคนผ่านจากตัวนาง
กู้ชิวเซียงจับผ้าเช็ดหน้าไว้อย่างแน่น กลัวว่าอวี่เหวินเจี๋ยจะปฏิบัติต่อกู้ชิวเหลิ่งแตกต่างออกไปเพราะหน้าตาของหล่อน แต่ต่อมาก็พบว่าอวี่เหวินเจี๋ยไม่คิดที่จะเหลียวมองกู้ชิวเหลิ่งแม้แต่นิดเลย นางถึงค่อยรู้สึกโล่งใจลง
กู้ชิวเยว่ยืนอยู่ข้างฮูหยินใหญ่ราวกับว่าทำอะไรผิด หากไม่ใช่เพราะรู้ว่าฮูหยินใหญ่มีเพียงลูกสาวอย่างกู้ชิวเซียงคนนี้คนเดียว คนอื่นคงคิดว่ากู้ชิวเยว่เป็นลูกของฮูหยินใหญ่ไปแล้ว
ในความทรงจำของกู้ชิวเหลิ่ง กู้ชิวเยว่ก็เป็นผู้หญิงที่ฉลาดน่ารักมาโดยตลอด ต่อให้เป็นบุตรีอนุ ก็สามารถใช้ชีวิตอยู่ในจวนโหวขนาดใหญ่แห่งนี้ได้อย่างตามใจ ซึ่งต่างกับกู้ชิวเหลิ่งมากนัก เหตุผลก็เป็นเพราะนางพูดเก่ง ค่อยเอาใจฮูหยินใหญ่และกู้ชิวเซียงอยู่เสมอ
ในขณะที่กู้ชิวเหลิ่งกำลังได้กินเศษอาหารเย็นๆ กู้ชิวเยว่ก็กำลังกินอาหารเสริมรังนกที่ด้อยกว่ากู้ชิวเซียงเพียงเล็กน้อยแล้ว
ในที่สุดกู้หนานเฉิงก็ถามฮูหยินใหญ่ด้วยความอย่างสงสัยว่า: "เจ้าพูดในจดหมายว่า เจ้าได้เปลี่ยนลานแห่งหนึ่งให้เหลิ่งเอ๋อร์แล้ว?"
ฮูหยินใหญ่ลุกขึ้นยืนและพูดด้วยความเคารพว่า:"ตอนนี้เหลิ่งเอ๋อร์ก็สิบสี่ปีแล้ว ข้าคิดว่าเรือนจั๋วยู่ก่อนหน้านี้นั้นเรียบง่ายเกินไป ดังนั้นข้าจึงตัดสินใจเปลี่ยนมันเอง"
ฮูหยินใหญ่ไม่ได้พูดถึงเซียวอวิ๋นเซิงแม้แต่คำหนึ่ง ท่าทางเหมือนเป็นแบบอย่างของภรรยาและแม่คนดีที่คิดเพื่อลูกสาวทั้งนั้น
กู้ชิวเซียงยิ้มและพูดว่า:"น้องรองก็ใกล้จี๋จี*แล้ว เรื่องการแต่งงานก็ใกล้เข้ามาแล้ว สิ่งล้ำค่าทั้งสี่ในห้องหนังสือที่ท่านอ๋องหกส่งมาเมื่อครั้งที่แล้วนั้น ข้าคิดว่าน้องรองก็ควรเรียนรู้ตัวหนังสือแล้ว ดังนั้นข้าจึงส่งไปที่ลานของนาง ในอนาคตก็จะได้ช่วยท่านอ๋องหกดูแลเรื่องในจวนได้บ้าง"
กู้หนานเฉิงกล่าวอย่างปลาบปลื้มว่า: "สิ่งล้ำค่าทั้งสี่นั้นเป็นของขวัญวันเกิดที่ท่านอ๋องหกส่งให้เจ้า ครั้งที่แล้วข้าเห็นเจ้าดีใจยิ่งนัก คราวนี้ยอมส่งให้น้องสาวเจ้า ช่างใจกว้างยิ่งนัก"
"ตัวหนังสือของคุณหนูใหญ่มีชื่อเสียงยิ่งนัก ให้คุณหนูรองใช้ช่างน่าเสียดายไปหน่อย"
อวี่เหวินเจี๋ยเหมือนพูดจามั่วซั่ว แต่ก็ได้เปลี่ยนจุดสนใจจากเรื่องงานแต่งของกู้ชิวเหลิ่งมาเป็นเรื่องตัวหนังสือและภาพวาดแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลำนำยอดหญิงจอมพิษ
เสียดายได้อ่านแค่ 102 ตอน ขอแอดมินมาช่วยอัพเดทตอนเพิ่มได้ไหมคะ...