ในฐานะแพทย์นิติเวช เยี่ยนเว่ยฉือไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าวันหนึ่งนางจะถูกส่งไปผลิตทายาท
ใช่แล้ว ผลิตทายาท!
นางต้องมีทายาททางสายเลือดคนสุดท้ายกับซ่างกวนซี องค์รัชทายาทผู้ถูกทอดทิ้งแห่งแคว้นจิ่วหลีที่จะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน
นางเป็นแพทย์นิติเวชจากศตวรรษที่ยี่สิบเจ็ด ผู้ซึ่งเดินทางข้ามเวลามาเมื่อหนึ่งชั่วยามก่อน
ยังไม่ทันที่วิญญาณจะเข้ากันกับร่างกายได้ดี นางก็ได้สวมชุดแต่งงานแบบลวก ๆ และถูกส่งตัวเข้าคุกหลวง
“เชิญทางนี้ องค์รัชทายาทกำลังรอเจ้าอยู่ข้างใน!” เสียงเหยียดหยามของขันทีดังเข้ามาในโสตประสาทของนาง
เมื่อเยี่ยนเว่ยฉือมองไปยังห้องขังตรงหน้า พบว่าภายในคุกใหญ่โตนี้ มีเพียงเงาร่างสีขาวนอนขดตัวอยู่บนกองฟางแห้ง
เขาคือพระโอรสของอดีตฮองเฮา องค์รัชทายาทซ่างกวนซีผู้ไร้ค่าน่ะหรือ?
ก่อนที่เยี่ยนเว่ยฉือจะได้ครุ่นคิดอย่างกระจ่างแจ้ง ทันใดนั้นก็มีแรงผลักมหาศาลจากด้านหลังผลักส่งนางเข้าไปในห้องขัง ก่อนจะมีเสียงดังตามมา!
ปัง! แกร๊ง!
ประตูห้องขังถูกลงกลอนจากด้านนอก ขันทีที่พานางมายืนอยู่ด้านนอกห้องขังพลางพูดว่า “เจ้ามีเวลาสองชั่วยาม เจ้าจะรอดหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าจะมีทายาทกับฝ่าบาทสำเร็จหรือไม่”
เยี่ยนเว่ยฉือยืนอยู่ในจุดที่ห่างจากซ่างกวนซีมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ พลางมองบุรุษตรงหน้าที่กำลังหายใจแผ่วเบาด้วยความประหม่า
เขาใกล้จะตายอยู่รอมร่อ แล้วจะทำเรื่องอย่างว่าได้อย่างไรกัน?
“ไม่รีบมาปรนนิบัติข้าเล่า?” จู่ ๆ ซ่างกวนซีก็พูดขึ้นด้วยเสียงแหบแห้ง ทำเอาเยี่ยนเว่ยฉือถึงกับตื่นตระหนกจนลืมหายใจอยู่ครู่หนึ่ง
เขาค่อย ๆ พลิกตัวหันมาเผชิญหน้ากับเยี่ยนเว่ยฉือ
ซ่างกวนซีในเวลานี้ผมเผ้ารุงรัง มีหนวดเคราเต็มใบหน้า เยี่ยนเว่ยฉือดูไม่ออกเลยแม้แต่นิดว่าเขาคือบุรุษที่รูปงามที่สุดในแคว้นจิ่วหลี
ทว่ามีเพียงดวงตาคู่นั้น ที่ยังคงสว่างไสวอย่างน่ากลัว
ซ่างกวนซีมองไปที่เยี่ยนเว่ยฉือและพูดเสียงเย็น “แม้ข้าจะโดดเดี่ยวและตกอับเพียงนี้ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่สตรีเช่นเจ้าจะมารังเกียจกัน”
รูม่านตาของเยี่ยนเว่ยฉือขยายกว้าง นางพูดด้วยความเหลือเชื่อ “ตะขอเกี่ยวไหปลาร้า? พวกเขาใช้วิธีลงโทษเช่นนี้กับท่านเลยหรือ?”
ซ่างกวนซีเห็นสตรีที่นอนทับอยู่บนตัวกำลังจ้องหน้าอกของตน ก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
เขาดึงเสื้อมาปิดอย่างมิดชิดพลางพูดด้วยความโกรธ “มองอะไร!”
เยี่ยนเว่ยฉือสะดุ้งอยู่ครู่หนึ่งแล้วหัวเราะเบา ๆ “นี่ แล้วเมื่อครู่ใครดึงข้าเข้ามาเล่า? มาอายตอนนี้ไม่สายไปหน่อยหรือ?”
“เจ้า...” ซ่างกวนซีอยากจะก่นด่า แต่แล้วเขาก็คิดว่าตัวเองกำลังจะตายอยู่แล้ว เหตุใดจะต้องโกรธด้วย?
เยี่ยนเว่ยฉือมองซ่างกวนซีอย่างประเมิน และเมื่อเห็นว่าเขาเงียบ นางก็พูดขึ้นว่า “เรื่องกำลังภายใน ข้าคงสู้ไม่ได้ แต่เท่าที่เห็นตอนนี้หากเป็นเรื่องความแข็งแรงของร่างกาย ท่านดูไม่ไหวแล้วล่ะ เป็นอย่างไรบ้างเพคะองค์รัชทายาท จะทรงทนไหวหรือ?”
เยี่ยนเว่ยฉือเลิกคิ้วเยาะเย้ย ทำให้ซ่างกวนซีกัดฟันด้วยความโกรธ “ไสหัวออกไปจากตัวข้าซะ!”
เยี่ยนเว่ยฉือไม่สะทกสะท้านทั้งยังยิ้มหยัน “ไสหัวออกไปจากตัวท่านหรือ? หากวันนี้ข้าไม่ได้มีทายาทกับท่าน กลับออกไปก็ต้องตายอยู่ดี ให้ข้าออกไปตาย สู้ให้ท่านตายก่อนดีกว่า ท่านวางใจได้ ข้าเชี่ยวชาญเรื่องนี้ดี ถึงอย่างไรก็ต้องทำให้ท่านสุขสมก่อนตายแน่นอน!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท