ลิขิตรัก ในกรงแค้น นิยาย บท 24

“ขอโทษนะพริม ที่รบกวนเธอแต่เช้า”

“ไม่เป็นไรหรอกน่า เรื่องเล็กน้อย แล้วเธอแจ้งทางหอพักแล้วใช่ไหม” หญิงร่างอวบเอ่ยถาม พร้อมมือทั้งสองยังคงพับเสื้อผ้าของเพื่อนใส่กระเบาใบใหญ่อย่างคล่องแคล่ว

“จัดการหมดแล้วล่ะ” นันทิชาเก็บเสื้อผ้าด้วยรอยยิ้ม และแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความหวัง เธอมีความสุขมากที่สุดในเวลานี้ พริมมองเพื่อนด้วยความยินดี ที่ได้เห็นสองพ่อลูกมีโอกาสได้กลับมาอยู่พร้อมหน้ากันอีกครั้ง เพราะเข้าใจดีว่านันทิชาโหยหาครอบครัวของเธอมาตลอด การที่ได้เห็นเพื่อนรักมีความสุขมันเป็นสิ่งที่เธอยินดีเป็นอย่างยิ่ง ใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่นักสองสาวจึงพากันลงมาจากหอพักพร้อมกับกระเป๋าใบใหญ่ ผู้เป็นบิดานั่งรออยู่ด้านล่างยิ้มรับอย่างดีใจ

“เสร็จแล้วหรือลูก” ชายชราเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอบอุ่น

“เสร็จแล้วค่ะพ่อ เดี๋ยวทิชาจะพาพ่อไปซื้อเสื้อผ้า เสร็จแล้วเราไปหาอะไรอร่อยๆ กินกันนะคะ” ชายชราที่ใส่เสื้อผ้ามอซอ ยิ้มพยักหน้าจ้องมองลูกสาวด้วยความปลื้มใจ ก่อนที่ทั้งสามคนจะเดินออกไปหาร้านเสื้อผ้าต่อในทันที นันทิชาและพริมพาชายชราไปยังห้างหรูย่านหนึ่ง ที่ไม่ไกลเท่าไหร่นักเกือบยี่สิบปีทุกอย่างแปลกหูแปลกตาไปมาก ชายชราหันมองดูเมืองที่เขาเคยอาศัยซึ่งเดี๋ยวนี้เปลี่ยนไปจนแทบจำไม่ได้ เขาจ้องมองตึกใหม่ๆ สวยๆ ด้วยความเงอะงะ เทคโนโลยีต่างๆ ทันสมัยราวกับหลุดมาอยู่ในโลกอนาคต เพียงแค่เวลาไม่กี่ปีเท่านั้นทำไมกรุงเทพถึงเปลี่ยนแปลงไปได้มากมายขนาดนี้ อยู่ๆ ก็นึกเสียดายเวลาขึ้นมาว่าเขาจะมีชีวิตเฝ้าดูลูกสาวได้อีกนานเท่าไหร่

“พาพ่อมาทำไมที่นี่ อาหารคงแพงน่าดู” เขาพูดเมื่อหญิงสาวพาเขาเข้ามาร้านอาหารแห่งหนึ่ง หลังจากซื้อเสื้อผ้าใหม่กันเสร็จแล้ว

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เราไม่ได้กินกันทุกวันเสียหน่อย อีกอย่างทิชาอยากทำให้พ่อค่ะ” นันทิชาจับมือบิดาของเธอแล้วพาเดินตรงไปเข้าในร้านที่มีพนักงานยืนต้อนรับอยู่

“ไม่ต้องกลัวหรอกค่ะลุงดิน ทิชาเก็บเงินได้เยอะเลยก็ลูกสาวลุงน่ะ งกมากเลยนะคะ” พริมกระซิบข้างหูชายชราอีกครั้งอย่างเบาเพื่อไม่ให้เพื่อนรู้ว่าแอบพูดจิกเธอ ก่อนที่ชายชราจะหันมายิ้มเนื่องจากเห็นด้วยกับพริมทุกประการ สาวร่างอวบกับชายชราพากันหัวเราะคิกคักอยู่ด้านหลัง ส่วนคนที่ถูกนินทากลับไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย หญิงร่างอวบจอมเพี้ยนกับบิดาของนันทิชาดูเข้าขากันได้อย่างดีทีเดียว

“มีอะไรหรือคะแทน คุณอิ่มแล้วหรือคะ” ม่านฟ้าสังเกตเห็นแทนคุณหยุดทานอาหารพร้อมกับวางช้อนลง สายตาคมกริบของชายหนุ่มจ้องมองออกไปด้านนอกร้าน ราวกับมีบางสิ่งบางอย่างกำลังดึงความสนใจเขาออกไป

“ปะ เปล่าครับ ม่านรอผมอยู่นี่นะ เดี๋ยวผมมา” ชายหนุ่มรีบลุกออกจากโต๊ะอาหารทันที แล้ววิ่งออกนอกร้านไปด้วยความรีบร้อน

“แทนคะ” ม่านฟ้าไม่ทันได้เอ่ยปากห้าม ร่างสูงก็วิ่งหายวับไป ปล่อยให้หญิงสาวนั่งสงสัยอยู่ที่โต๊ะอาหารเพียงลำพัง

ชายหนุ่มวิ่งมาหยุดที่มุมหนึ่งของห้าง สายตาคมกริบยังคงพยายามจับตามองกลุ่มคนคุ้นเคยที่หายเข้าไปในร้านอาหารฝั่งตรงข้าม แทนคุณหรี่ตามองย้ำอีกครั้ง พลันสองเท้ารีบก้าวเดินตามไปต่อ เพื่อจะได้เห็นชายชราชัดเจนยิ่งขึ้น จังหวะนั้นหัวใจของเขารัวถี่ เมื่อเห็นหน้าตาของชายชราอีกครั้ง ซึ่งชัดเจนจนชายหนุ่มต้องเบิกตากว้าง แทบหยุดหายใจตรงนั้น

แม้ชายชราจะดูเปลี่ยนไปมากตามกาลเวลา แต่ชายหนุ่มจำได้ไม่เคยลืม ภาพความจำย้อนกลับไปเมื่อเขาอายุเพียงเก้าขวบ ความเจ็บปวดจากการเสียผู้เป็นบิดาและมารดาที่เสียชีวิตอย่างอนาถ “นายดิน โชติมา” ผู้ซึ่งเป็นผู้ต้องหาขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิต คำพูดนี้ดังก้องอยู่ในหัว ชายหนุ่มยืนดูเมื่อคนกลุ่มนั้นพูดคุยหัวเราะกันอย่างมีความสุข น้ำตาของเขาเริ่มเอ่อใกล้ล้นออกมาอย่างไม่ตั้งใจ สองมือกำแน่นจ้องเขม็งไปยังชายสูงอายุ ภาพความจำย้อนกลับไปวันที่เขาเจอป้ายชื่อพนักงานของนันทิชา “นันทิชา โชติมา” คิดหรือว่าเกือบยี่สิบปีที่ถูกตัดสินมันจะชดใช้กับสิ่งที่ผมต้องสูญเสียทุกอย่างไป วันนี้คุณยังกลับมามีความสุขกับลูกของคุณได้อย่างไม่อาย นี่หรือโทษทัณฑ์ที่คุณได้รับเพียงเท่านี้เองหรือ ความเจ็บปวดที่เคยถูกฝังกลบไปแล้วเกือบมิดหัวใจ แต่ภาพที่เขาเห็น เป็นตัวกระตุ้นและดึงความเจ็บปวดนั้นขึ้นมาอีกครั้ง หัวใจถูกบีบไปด้วยความแค้นที่เหมือนจะจางหาย หากแต่วันนี้เขาพิสูจน์แล้วว่ามันไม่เคยจางหายไปไหน เพียงแต่มันหลบอยู่ภายใต้ก้นบึ้งของหัวใจเพราะเวลาเท่านั้นเอง มือหนากำขึ้นทุบไปที่กำแพงสุดแรงที่มีสองถึงสามครั้ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลิขิตรัก ในกรงแค้น