เข้าสู่ระบบผ่าน

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย นิยาย บท 15

กวางตัวใหญ่เสี่ยวเอ้อร์นำไปชั่งน้ำหนักได้ถึง 500 ชั่ง พร้อมกับนำเขาที่ตัดออกมาส่งให้กับเว่ยเจี้ยนป๋อ กวาง 500 ชั่งที่ลูกสาวแสนบอบบางแบกออกมาจากป่า เว่ยเจี้ยนป๋อคิดแล้วให้เจ็บปวดนักเขาเองก็รักลูกสาวมาก เหตุใดลูกสาวเขาถึงทำงานหนักขนาดนี้ คิดแล้วช่างปวดใจนัก

“นี่ขอรับเขากวางของพวกท่าน ส่วนนี่เป็นเงิน 500 ตำลึงเงิน เป็นตั๋วแลกเงินใบละ 100 ตำลึง 5 ใบ พวกท่านตรวจดูก่อน”

“ขอบใจเจ้ามาก เช่นนั้นข้าสองคนลานะขอรับหลงจู๊”

“อืม อย่าลืมนะ หากมีของดีอย่าลืมนึกถึงเหลาของข้า”

“ขอรับพวกเราไม่ลืมท่านแน่ ๆ ขอรับ” เหลียนอี้ปิงรับคำหนักแน่น

“พี่ใหญ่เรารีบเอาเขากวางนี่ไปขายก่อนเถอะขอรับ จะได้รีบกลับบ้านประเดี๋ยวจะมืดค่ำไปเสียก่อน”

“ตกลง”

ทั้งสองคนนำเขากวางมาขายให้กับโรงหมอตามคำแนะนำของหลงจู๊ เขากวางที่พวกเขานำมาเป็นเขากวางอ่อนที่ที่โรงหมอต้องการมานาน เขากวางอ่อนสามารถนำมาเพิ่มในเทียบยาได้หลายขนานและเขากวางอ่อนหายากไม่ใช่ว่าใครก็จะสามารถหาเขาที่ไม่อ่อนเกินไปและแก่เกินไป เขากวางที่ทั้งสองคนนำมานับว่าเหมาะสมมาก

“เขากวางอ่อนนี้มีขนาดใหญ่สมบูรณ์ดีมาก อีกทั้งยังหายากมากพวกเจ้าช่างโชคดีจริง ๆ ที่สามารถหาเขากวางที่มีอายุพอเหมาะแก่การทำยาอีกทั้งเขาใหญ่และยาวขนาดนี้ โรงหมอของเราเองก็โชคดีเช่นกันที่พวกเจ้านำเขากวางนี้มาขายให้เรา ต่อไปจะได้มียาดี ๆ เอาไว้รักษาผู้คน”

“ขอรับ เราเองก็โชคดีเช่นเดียวกันขอรับ” เว่ยเจี้ยนป๋อ

“เช่นนั้นเขากวางทั้งสองข้างนี้ ข้าให้ข้างละ 5 ตำลึงทอง เจ้าจะตกลงขายหรือไม่”

“ข้ายินดีขายขอรับ”

“เช่นนั้นรอสักครู่ ข้าจะไปเอาเงินที่ห้องบัญชีมาให้ เจ้าจะรับเป็นก้อนเงินหรือตั๋วเงินดีล่ะ”

“ขอเป็นตั๋วแลกเงินขอรับ”

“ได้ เจ้ารอสักครู่”

หลังจากได้รับเงินค่าเขากวางแล้ว ทั้งสองคนไม่รอช้ารีบบังคับเกวียนมุ่งหน้ากลับบ้านทันที เงิน 20 ตำลึงทองยังนอนร้อนอยู่ในอกเสื้อของเว่ยเจี้ยนป๋อ เขาไม่คิดว่าภายในวันเดียวกันนี้ลูกสาวของเขาจะสามารถทำเงินได้มากมายขนาดนี้ เงินที่ได้จากการขายปลาเมื่อเช้านี้ 10 ตำลึง และเงินที่ได้จากการขายไก่ป่าและกระต่ายป่าอีก 1 ตำลึง

“เร่งฝีเท้าหน่อยขอรับพี่ใหญ่ ข้าใจคอไม่ดี”

“ได้ ข้าเองก็ไม่ต่างจากเจ้าเช่นเดียวกัน”

เมื่อทั้งสองคนเดินทางกลับมาถึงหมู่บ้านถึงได้ถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้นพวกเขาบังคับเกวียนไปที่บ้านของเว่ยจื้อโหยวทันที

“อาโหยว พ่อกลับมาแล้ว”

“ท่านพ่อ ท่านลุง มาเหนื่อย ๆ มานั่งกินน้ำก่อนเจ้าค่ะ ข้าจะไปยกน้ำมาให้”

“ขอบใจเจ้ามาก”

ทั้งสองคนนั่งรออยู่ที่โต๊ะใต้ต้นไม้ใหญ่หน้าบ้าน ใช้เวลาไม่นานเว่ยจื้อโหยวก็ยกน้ำที่นางแอบผสมน้ำแร่เอาไว้ออกมาให้ท่านพ่อและท่านลุงของนางดื่ม

“เป็นเช่นไรเจ้าคะท่านพ่อ ท่านลุง ขายได้ราคาดีหรือไม่เจ้าค่ะ”

“ได้ราคาดีมากเลยล่ะอาโหยว อีกทั้งพวกเรายังเอาเขากวางไปขายที่โรงหมอด้วยล่ะ ได้ราคาดีมากเลยล่ะ”

“จริงหรือเจ้าคะท่านพ่อ เช่นนั้นก็ดีมากเจ้าค่ะเอาไว้ข้าจะไปล่ามาอีก”

“เจ้ายังจะเข้าป่าไปอีกหรือ ลุงว่าเอาเช่นนี้ดีหรือไม่ ลุงกับพ่อของหลานจะรีบเอาปลาไปส่งแต่เช้ามืด จากนั้นกลับมาค่อยเข้าป่าเป็นเพื่อนเจ้า ในระหว่างที่เจ้ารอปลูกผักที่สวน งานที่แปลงนาก็ไม่มีอะไรแล้วท่านป้าสะใภ้กับท่านแม่ของเจ้าสามารถดูแลไหว ทั้งยังมีน้อง ๆ ของเจ้าอีก”

“เอาเช่นนั้นก็ได้เจ้าค่ะ”

“นี่เป็นเงินที่ขายได้ทั้งหมดของวันนี้ 10 ตำลึงค่าปลา 2 ตำลึง ค่าไก่และกระต่ายของเจ้า 5 ตำลึงทองสำหรับกวาง และนี่อีก 10 ตำลึงทองที่ได้จากการขายเขากวาง” เว่ยเจี้ยนป๋อ ทำการแจกแจงถึงที่มาของรายได้วันนี้

“เช่นนั้นก็คนละ 5 ตำลึงทอง กับอีก…” เว่ยจื้อโหยวยังพูดไม่จบเหลียนอี้ปิงก็เอ่ยปากขัดหลานสาว

“เจ้าจะแบ่งเงินค่าขายกวางให้พวกเราไม่ได้ เจ้าเป็นคนล่ามา”

“ไม่ได้นะเจ้าคะท่านลุง เราตกลงกันแล้วว่าจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน หากเป็นเช่นนี้ครั้งหน้าข้าไม่กล้ารบกวนท่านพ่อกับท่านลุงแล้ว”

“เจ้าพูดอะไรจะรบกวนได้ยังไง พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกันนี่ก็พ่อของเจ้า ลุงเองก็เป็นลุงแท้ ๆ ของเจ้า หากเราแบ่งกันเช่นนี้ไม่ใช่ว่าข้าสองคนเอาเปรียบเจ้าหรือ”

“ไม่เจ้าค่ะ ข้าเต็มใจ เพราะเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ต่อไปนี้พวกเราจะอยู่ดีกินดี มีอนาคตที่ดีไปด้วยกัน ท่านลุงกับท่านพ่อเก็บเงินเอาไว้เถอะนะเจ้าคะ จะได้มีเงินซื้อที่ดินเพิ่ม ต่อไปเราจะปลูกผัก ผลไม้ และข้าว จะได้ไม่ต้องซื้อกิน หน้าหนาวเราจะได้ไม่ขาดแคลนอาหาร ข้าอยากให้ท่านพ่อส่งน้องชายทั้งสองเรียนหนังสือด้วยเจ้าค่ะ ส่วนข้าจะให้อาซวนไปเรียนด้วยเช่นเดียวกัน”

“เช่นนั้นก็ตกลงตามที่อาโหยวว่าเถอะขอรับพี่ใหญ่ หลานมีใจกตัญญูท่านก็รับเอาไว้เถอะ”

“เช่นนั้นลุงจะรับเอาไว้ก็ได้ ขอบใจเจ้ามากนะอาโหยว”

“ข้าเต็มใจเจ้าค่ะ ต่อไปพวกเราจะอยู่ดีกินดี ท่านพ่อกับท่านลุงรู้ราคาหมูป่าดำหรือไม่เจ้าคะ”

“พ่อไม่รู้ว่าราคาเท่าไหร่ แต่แพงกว่าเนื้อกวางเพราะหมูป่าดำดุร้ายมาก และพวกมันอาศัยอยู่แต่ในป่าลึก ไม่เคยมีใครล่าได้นานแล้ว”

“นี่อาโหยวที่เจ้าถามมานี่ หรือว่าเจ้าคิดจะเข้าไปล่าหมูป่าดำหรือ”

“ใช่แล้วเจ้าค่ะท่านลุง วันนี้ข้าลองไปดูมาแล้ว พรุ่งนี้เราจะไปล่ามันกันเจ้าค่ะ ท่านลุงเชื่อมือข้าได้เลย”

“เจ้าแน่ใจหรือลูกว่าจะไหว”

ในตอนที่เดินมาถึงแปลงนาของครอบครัว ท่านแม่และทุกคนกำลังขึ้นจากแปลงนาเพื่อที่จะกลับบ้านเพราะวันนี้มีเด็กทั้งสองคนมาช่วยงานทำให้งานถอนหญ้าออกจากแปลงนาที่เหลืออยู่เสร็จเรียบร้อยพอดี พรุ่งนี้ก็จะเป็นวันว่างเพราะงานในแปลงนาไม่มีอะไรให้ทำแล้ว

“ท่านแม่ ท่านป้าจะกลับแล้วหรือเจ้าคะ”

“อาโหยวมาได้เช่นไรลูก”

“ข้ามารับน้อง ๆ เจ้าค่ะ เลยถือโอกาสเดินมาหาท่านแม่กับท่านป้าด้วย”

“ต้องขอบใจน้องทั้งสองของเจ้าวันนี้ช่วยงานแม่กับป้าของเจ้าได้มาก ทำให้งานถอนหญ้านี้เสร็จแล้วล่ะ พรุ่งนี้ก็ไม่มีอะไรทำแล้ว”

“เช่นนั้นพรุ่งนี้ ท่านแม่กับท่านป้าอยู่บ้านช่วยทำเสื้อผ้าใหม่ให้กับทุกคนได้หรือไม่เจ้าคะ รวมถึงของข้าและของอาซวนกับอาเฟยด้วย ข้าจะให้ท่านพ่อซื้อผ้ากลับมาด้วยพรุ่งนี้”

“ได้สิ แม่จะทำให้เต็มที่ ขอบใจเจ้าด้วยนะอาโหยวลูก”

“นั่นสิป้าเองก็ขอบใจเจ้าด้วยนะอาโหยว”

“ขอบใจทำไมกันเล่าเจ้าคะ พวกเราล้วนเป็นครอบครัวเดียวกัน ข้าจะให้ท่านพ่อส่งน้องรองกับน้องเล็กเข้าโรงเรียนด้วยรวมถึงอาซวนก็ต้องไปเรียนด้วยเช่นเดียวกัน ถ้าหากอาเฟยอยากเรียนเราค่อยหาว่าที่ไหนรับนักเรียนหญิงบ้าง”

“จริงหรือขอรับพี่ใหญ่ ที่พวกเราจะได้เรียนหนังสือกันแล้ว” เว่ยหย่งหมิง

“จริงสิ พี่ใหญ่เคยโกหกเจ้าหรือ”

“เย้ ๆ ข้าดีใจที่สุดเลย จะได้เรียนหนังสือแล้ว”

“พี่สะใภ้ข้าค่อยเรียนจากน้อง ๆ เอาก็ได้เจ้าค่ะ หากข้าไปเรียนแล้วใครจะช่วยงานท่าน”

“ข้าทำได้ งานที่บ้านมีอะไรให้ทำกัน หากอยากเรียนก็ไปเรียน ไม่ต้องห่วงเรื่องทางบ้านหรอก”

“เจ้าค่ะ ข้าขอบคุณพี่สะใภ้มากเจ้าค่ะ”

“ไป ๆ ไม่ต้องขอบคุณแล้วมันเป็นหน้าที่ของข้าที่จะต้องทำอยู่แล้ว ตอนนี้พวกเรากลับบ้านกันเถอะ ท่านแม่ ท่านป้า ข้าพาน้อง ๆ กลับบ้านก่อนนะเจ้าคะ”

“ไปเถอะลูก ค่อย ๆ เดินล่ะ”

เว่ยจื้อโหยวพาน้องชายน้องสาวเดินกลับบ้านด้วยใบหน้าเปี่ยมสุข นางคิดว่าต่อไปนี้ครอบครัวกำลังจะดีขึ้น อีกไม่นานนางจะต้องสร้างบ้านหลังใหม่ให้เสร็จก่อนหน้าหนาวที่จะถึงนี้แน่ ๆ

พรุ่งนี้ตอนเข้าป่านางจะหาดูว่าในป่าพอจะมีต้นงิ้วหรือไม่ หากมีนางจะเก็บเอาฝักงิ้วมาแกะเอานุ่นไว้ทำหมอน ผ้าห่ม ฟูกนอน คงนอนสบายขึ้นกว่านี้ ระหว่างเดินกลับบ้าน ทั้งสามคนเดินคุยกันมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เว่ยจื้อโหยวที่กำลังอารมณ์ดีกลับมาต้องอารมณ์เสียเพราะตอนนี้มีคนมาดักหน้าของนางสามพี่น้อง

“เจ้าเป็นใคร แล้วต้องการอะไรถึงต้องมาขวางทางข้า”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย