เข้าสู่ระบบผ่าน

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย นิยาย บท 18

เว่ยเจี้ยนป๋อรีบไปตัดไม้มาทำคานหาม เหลียนอี้ปิงเองก็รีบกุลีกุจอเข้าไปช่วยอีกแรง ด้วยความร่วมมือของทั้งสองคนไม่นานหมูดำตัวเขื่องก็ถูกมัดเท้าทั้ง 4 ข้างเข้ากับไม้ จากนั้นทั้งสองคนยกขึ้นพาดบ่าทันที

เว่ยเจี้ยนป๋อกับเหลียนอี้ปิงรีบหามหมูดำออกจากป่าทันทีโดยมีเว่ยจื้อโหยวแบกหมูดำที่มีขนาดตัวใหญ่กว่าตัวที่พ่อกับลุงของนางหาม เว่ยจื้อโหยวสาวเท้าเดินออกจากป่าด้วยความเร่งรีบ นางจะรีบออกจากป่าเพื่อที่จะได้นำหมูป่าไปขายในวันนี้ ถ้าหากนำไปขายในวันพรุ่งนี้นางกลัวว่าหมูดำจะไม่สดและกลัวว่าราคาจะไม่ดี

“ท่านพ่อเจ้าคะ ไหวหรือไม่เจ้าคะ แล้วท่านลุงเล่าเจ้าคะไหวไหม”

“ไหว ๆ พวกเราไหว อาโหยวไม่ต้องเป็นห่วง รีบเดินเถอะลูก”

“ท่านพ่อเจ้าคะ ข้าคิดว่าท่านพ่อกับท่านลุงควรจะเดินไปที่บ้านท่านยายเลยนะเจ้าคะ ให้ชาวบ้านได้เห็นว่าวันนี้ท่านพ่อกับท่านลุงได้หมูดำมา เวลาบ้านเรามีเงินขึ้นมาชาวบ้านจะได้ไม่ต้องมาตั้งข้อสงสัย ส่วนข้าจะกลับไปรอที่บ้าน ท่านพ่อค่อยเอาเกวียนมารับหมูดำอีกตัวไปขายด้วยกัน”

“ได้ ตกลงตามนั้น พี่ใหญ่เห็นด้วยหรือไม่ขอรับ”

“ข้าเห็นด้วย เดิมทีชาวบ้านพวกนี้ก็อิจฉาตาร้อนอยู่แล้วจะได้ไม่ต้องมีคนเอาไปพูดในทางที่ไม่ดี”

“เช่นนั้นตกลงตามนี้นะเจ้าคะท่านพ่อ”

เว่ยเจี้ยนป๋อกับเหลียนอี้ปิงช่วยกันหามหมูดำตัวใหญ่เดินกลับบ้านด้วยความเร่งรีบ ระหว่างทางมีชาวบ้านเห็นทั้งสองคนไม่น้อย จากนั้นก็เกิดเสียงซุบซิบนินทากันเกิดขึ้น

บ้างก็อิจฉาในวาสนาของทั้งสองคน บ้างก็อยากจะทำใจกล้าเข้าป่าลึกไปล่าหมูป่ามาขายบ้าง แต่ไม่ว่าใครจะมีความคิดเห็นเช่นไรนับว่าวันนี้สิ่งที่พวกเขาต้องการสำเร็จแล้ว ชาวบ้านพวกนี้เรื่องซุบซิบนินทานั้นไวยิ่งกว่าไฟลามทุ่ง

ใช้เวลาไม่นานทั้งสองคนก็กลับมาถึงบ้าน จากนั้นจึงนำหมูดำไปวางเอาไว้บนเกวียน เหลียนอี้ปิงที่วางหมูลงแล้วเขารีบไปนำล่อทั้งสองตัวมาเทียมเข้ากับเกวียนจากนั้นให้เว่ยเจี้ยนป๋อไปบอกคนในบ้านว่าพวกเขาจะเข้าเมืองไปเอาของไปขายอีกครั้งอาจจะกลับมามืดค่ำ

เพราะครั้งนี้เว่ยจื้อโหยวจะเดินทางเข้าเมืองไปกับท่านพ่อด้วย เว่ยเจี้ยนป๋อที่ห่วงความปลอดภัยของน้องสาวน้องชายลูกเขยจึงได้บอกให้เด็กทั้งสองคนอยู่กินข้าวเย็นเสียที่นี่ รอให้เว่ยจื้อโหยวกลับมาจากในเมืองเสียก่อนจึงค่อยกลับบ้านไปพร้อมกับนาง ซึ่งเด็กทั้งสองคนก็เข้าใจและทำตามด้วยความเต็มใจ

“พี่สะใภ้ ข้ากับพี่ใหญ่จะเข้าเมืองไปอีกรอบนะขอรับ แล้วก็อาโหยวฝากเด็กทั้งสองกินมื้อเย็นที่นี่ด้วย หลังจากกลับจากขายของในเมืองแล้วนางถึงจะมารับทั้งสองคนกลับด้วยตัวเอง หากพวกเรากลับมาไม่ทันมื้อเย็นก็ไม่ต้องรอนะขอรับ ฝากบอกภรรยาข้าด้วย”

“ได้ ๆ เจ้ารีบไปเถอะประเดี๋ยวจะกลับมืดค่ำเอาได้”

เหลียนอี้ปิงขับเกวียนเทียมล่อออกจากบ้านมุ่งหน้าไปยังบ้านของหลานสาวทันที เมื่อมาถึงเว่ยจื้อโหยวยกหมูดำขึ้นวางจากนั้นก็คลุมด้วยเสื่อไม้ไผ่ทับอีกที

เหลียนอี้ปิงเมื่อเห็นหลานสาวนั่งเรียบร้อยแล้วก็ออกเดินทางทันที เขาเร่งล่อให้วิ่งเร็วขึ้นและเจ้าสองตัวก็ไม่ทำให้ผิดหวัง แม้ว่าบนเกวียนจะมีคนถึงสามคนนั่งอยู่และยังมีหมูดำทั้งสองตัวที่น้ำหนักตัวรวมตัวกันได้เกินกว่าพันชั่ง

“หากเรารีบไปตอนนี้เราจะกลับถึงบ้านก่อนเวลากินข้าวเย็น แต่ถ้าหากลูกต้องการซื้อของเราจะกลับบ้านไม่ทันมื้อเย็นแถมยังจะกลับบ้านค่ำมืดและอันตรายมาก”

“ข้าไม่ต้องการซื้ออันใดเจ้าค่ะท่านพ่อ แล้วเมล็ดผักของข้าท่านพ่อซื้อให้ข้าแล้วหรือยังเจ้าคะ”

“พ่อซื้อแล้ว แต่ลืมเอาให้เจ้า เอาไว้กลับถึงบ้านแล้วพ่อจะหยิบมาให้นะ”

“ขอบคุณท่านพ่อเจ้าค่ะ”

ใช้เวลาไม่นานเกวียนเทียมล่อก็มาถึงประตู เมื่อทำการจ่ายเงินค่าผ่านประตูคนละ 2 อิแปะแล้ว เหลียนอี้ปิงก็บังคับเกวียนมุ่งหน้าไปยังเหลาอาหารทันที

เมื่อเสี่ยวเอ้อร์ที่ทำหน้าที่รับซื้อของจากชาวบ้านเห็นเหลียนอี้ปิงขับเกวียนมาแต่ไกล เสี่ยวเอ้อร์ไม่รอช้ารีบวิ่งไปตามหลงจู๊มาทันที หลงจู๊เองพอทราบว่าเหลียนอี้ปิงนำของมาขายอีกรอบเขาก็ออกไปรอด้วยความตื่นเต้น

“คารวะหลงจู๊ขอรับ เหตุใดท่านถึงมาอยู่ตรงนี้เล่า แขกในเหลาไม่ยุ่งหรือขอรับ”

“ไม่เป็นไร มีคนดูแลอยู่ ว่าแต่พวกเจ้ากลับมารอบนี้ได้อะไรดี ๆ มาให้ข้าใช่หรือไม่”

“ย่อมเป็นเช่นนั้นขอรับ”

“เช่นนั้นมีอะไรมา เอาออกมาให้ข้าดูเร็วเข้า”

“นี่ขอรับ” เว่ยเจี้ยนป๋อเลิกเสื่อไม้ไผ่ขึ้น ทำให้หลงจู๊ที่มองมาต้องตกใจตาโตอ้าปากกว้าง

"นะ .นะ… นี่มันหมูป่าดำ หมูป่าดำจริง ๆ ด้วย ขอบใจมาก ขอบใจพวกเจ้าจริง ๆ ถือว่าพวกเจ้าได้ช่วยเหลาอาหารและข้าเอาไว้ได้มาก พวกเจ้าไม่ต้องห่วงข้าย่อมให้ราคาที่น่าพอใจแก่พวกเจ้าได้เลย หมูป่าดำนี้ข้าให้ช่างละ 10 ตำลึงเงิน พวกเจ้าจะว่าอย่างไร"

“ตกลงขอรับหลงจู๊”

เช้าวันต่อมาเว่ยจื้อโหยวลุกจากที่นอนในเวลาเดิม จากนั้นนางล้างหน้าล้างตาไปตรวจดูกับดักที่วางเอาไว้ ส่วนท่านพ่อกับท่านลุงมาถึงแล้วและกำลังนำปลาขึ้นจากหลุมกับดัก เมื่อนำปลาขึ้นจากหลุมกับดักครบทุกหลุมแล้วก็พอดีกับที่เว่ยจื้อโหยวเดินกลับมาจากไปตรวจดูกับดัก วันนี้นางโชคไม่ดีเท่าไหร่ ได้ไก่ป่ามาเพียง 7 ตัวเท่านั้น

หลังจากส่งไก่ป่าที่ได้มาวันนี้ให้กับท่านพ่อแล้วเว่ยจื้อโหยวก็เข้าครัวไปทำอาหารรอน้อง ๆ เช่นเคย จากนั้นนางจึงไปตรวจดูเมล็ดผักที่นางแช่น้ำแร่เอาไว้ ปรากฎว่าเมล็ดผักเริ่มแตกหน่อแล้วนั่นย่อมหมายถึงว่าผักสามารถปลูกได้แล้ว

ยามเหม่าน้องทั้งสองตื่นขึ้นมาและจัดการตัวเองเรียบร้อยแล้ว จึงได้มาล้อมวงกินมื้อเช้าด้วยความหิวโหย เมื่อวานพวกนางมัวแต่ตื่นเต้นที่ล่าหมูดำได้และนำไปขาย นั่นย่อมหมายถึงว่าบ้านของพวกนางตอนนี้ไม่ขาดแคลนเงินทอง

“พี่สะใภ้ เราจะเริ่มจากตรงไหนก่อนขอรับ”

“อาซวนเอาเมล็ดผักที่ข้าแช่น้ำเอาไว้ไปลงปลูกในแปลงก่อน”

“ขอรับพี่สะใภ้เชื่อใจข้าได้เลย รับรองข้าจะทำให้เต็มที่”

“เดี๋ยวก่อนอาซวน ข้าปลูกเองดีกว่า เจ้ากับอาเฟยไปตักน้ำมารดผักดีกว่า ข้าปลูกไม่นาน เรามีเมล็ดที่สามารถปลูกได้ไม่มาก เดี๋ยวปลูกเสร็จแล้วข้าจะไปช่วยตักน้ำมารดอีกแรง”

“เจ้าค่ะพี่สะใภ้”

“ขอรับ ข้าเข้าใจแล้ว”

ตลอดทั้งเช้า ทั้งสามคนช่วยกันปลูกผักและรดน้ำผัก จากนั้นเว่ยจื้อโหยวจึงไปตัดไม้ไผ่เพื่อมาสร้างเล้าไก่ นางตั้งใจว่าจะเลี้ยงไก่เอาไว้กินไข่ นางตั้งใจจะเลี้ยงไก่ป่ามานานเพียงแต่นางยังไม่ได้สร้างเล้าไก่เพียงเท่านั้น

วันนี้เมื่อมีเวลาว่างนางจึงสร้างเล้าไก่จากไม้ไผ่ โดยที่มีน้อง ๆ ทั้งสองคนช่วยเป็นลูกมือ ส่วนทางด้านท่านพ่อและท่านลุงเมื่อกลับจากส่งปลาในเมืองและแวะเอาเงินส่วนแบ่งมาให้นางแล้วทั้งสองคนก็ไปทำเรื่องติดต่อขอซื้อที่ดินที่บ้านของหัวหน้าหมู่บ้านทันที

การซื้อที่ดินเป็นไปอย่างราบรื่น ที่ดินหมู่ละ 3 ตำลึงเงิน ท่านพ่อของนางซื้อมา 20 หมู่ เป็นเงินเพียง 60 ตำลึงเงินเท่านั้น ส่วนท่านลุงซื้อเพิ่มอีก 20 หมู่เช่นเดียวกัน

หลังจากจัดการเรื่องที่ดินเรียบร้อยแล้วตอนนี้ถึงเวลาที่จะหาคนมาแผ้วถางที่ดินที่ซื้อมาใหม่ ท่านพ่อจึงถามหัวหน้าหมู่บ้านว่าพอจะหาคนมาช่วยแผ้วถางที่ดินผืนใหม่ของพวกเขาหรือไม่ โดยพวกเขาจ้างวันละ 50 อิแปะ

ค่าจ้าง 50 อิแปะถือว่ามากพอ ๆ กับการจ้างงานในเมืองเลยก็ว่าได้ หัวหน้าหมู่บ้านรับปากว่าพรุ่งนี้จะพาคนไปส่งยังที่ดินผืนใหม่ด้วยตัวเอง หลังจากท่านพ่อกล่าวขอบคุณหัวหน้าหมู่บ้านพร้อมค่าน้ำชาแก่หัวหน้าหมู่บ้านแล้วพวกเขาจึงเดินทางกลับบ้านทันที

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย