ตลอดเวลาสามวันที่ผ่านมาเว่ยจื้อโหยวปลูกผักในที่ดินรอบ ๆ บ้านของนาง และปลูกผลไม้ที่นางขุดเอาต้นเล็ก ๆ กลับมาจากป่า ตอนนี้นางเริ่มว่างงานอีกแล้ว
เว่ยจื้อโหยวเดินไปบ้านท่านยายดูว่าพอจะมีอะไรให้นางช่วยหรือไม่ ตอนนี้ที่ดินที่ท่านลุงกับท่านพ่อซื้อมาใหม่นั้นได้จ้างชาวบ้านมาช่วยกันแผ้วถางเรียบร้อยแล้ว รวมไปถึงล้อมรั้วรอบที่ดินทั้งหมดด้วย
ท่านพ่อเข้าไปติดต่อช่างในเมืองมาสร้างบ้านและจ้างชาวบ้านบางส่วนด้วยเช่นเดียวกัน เว่ยจื้อโหยวเองก็อยากจะสร้างบ้านใหม่เพียงแต่ว่าตอนนี้คงไม่เหมาะเท่าไหร่ รอให้บ้านท่านพ่อสร้างเสร็จเสียก่อนนางค่อยสร้างบ้านของตัวเอง
เว่ยจื้อโหยววางแผนที่จะทำกำแพงดินล้อมรอบบ้านและที่ดินทั้ง 3 หมู่ ส่วนที่ดินที่นางต้องการซื้อเพิ่มนางต้องการจะล้อมรั้วให้สูงขึ้นกว่าเท่าตัว เพราะนางกลัวคนบ้านเฉียนเข้ามาขโมยพืชผลในสวนของนาง
“ท่านแม่ ท่านยายมีอันใดให้ข้าช่วยหรือไม่เจ้าคะ”
“ไม่มีอันใดให้เจ้าช่วยแล้ว เจ้ากลับไปนอนพักผ่อนที่บ้านเถอะ ส่วนผ้าที่พ่อเจ้าซื้อมาเมื่อคราวก่อนประเดี๋ยวแม่กับป้าสะใภ้ของเจ้าจะตัดชุดให้เจ้ากับน้องสามีของเจ้าก่อน”
“ขอบพระคุณท่านแม่เจ้าค่ะ แล้วท่านพ่อกับท่านลุงเล่าเจ้าคะไปที่ใดแล้ว"
“ไปสอบถามเรื่องที่จะส่งเด็ก ๆ เข้าเรียนในเมืองน่ะสิ ส่วนอาเฟยก็ให้พวกน้องชายของเจ้าสอนนางในตอนที่พวกเขากลับมาก็แล้วกัน ส่วนงานเย็บปักแม่กับท่านยายท่านป้าของเจ้าจะช่วยสอนนางให้เอง เจ้าไม่ต้องกังวลนะ”
“เจ้าค่ะท่านแม่ ขอบคุณนะเจ้าคะ แล้วน้องรองกับน้องเล็กเล่าไปที่ใด ท่านตาด้วย ข้ามาทีไรไม่เคยพบท่านตาสักครั้ง”
“ท่านตาของเจ้าพาน้องทั้งสองของเจ้าไปดูที่ดินที่ซื้อมาใหม่เช่นไรเล่า”
“ไม่ต้องไปถามหาตาแก่หรอกอาโหยว ตาแก่ไม่เคยมีที่ดินมากขนาดนี้ก็ตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ พอเช้ามาก็ลากหลานทั้งสองคนออกจากบ้านไปแล้ว”
“อ่อ เป็นเช่นนั้นหรือเจ้าคะ ท่านแม่ ท่านยายเช่นนั้นข้ากลับก่อนนะเจ้าคะ ประเดี๋ยวข้าจะให้อาเฟยมาเรียนรู้งานเย็บปักกับท่าน”
“ได้ ๆ เจ้ากลับไปเถอะ เดินดี ๆ ล่ะ”
“เจ้าค่ะท่านแม่”
เว่ยจื้อโหยวกลับมาถึงบ้านก็พบว่าน้องทั้งสองคนออกไปดูแลแปลงผักหลังบ้าน นางจึงตามออกไปและเรียกอวิ๋นเฟยให้ไปเรียนรู้งานเย็บปักที่บ้านท่านยายของนาง อีกทั้งบอกเรื่องเรียนหนังสือให้กับอวิ๋นซวนได้รับรู้ด้วย
“อาเฟย อาซวนมานี่หน่อยข้ามีเรื่องจะพูดกับพวกเจ้า”
“พี่สะใภ้มีเรื่องอันใดหรือขอรับ”
“อันดับแรก อาเฟย ต่อไปนี้กลังจากเสร็จงานในบ้านแล้วเจ้าไปเรียนเย็บปักกับท่านแม่ของข้า ส่วนอาซวนเตรียมตัวเข้าเรียนหนังสือในเมืองได้เลย วันนี้ท่านพ่อและท่านลุงเข้าไปสอบถามที่สถานศึกษาแล้ว”
“ขอบคุณขอรับพี่สะใภ้”
“ไม่เป็นไร มันเป็นหน้าที่ของข้าที่ต้องดูแลพวกเจ้าแทนพี่ใหญ่ของพวกเจ้า ส่วนอาเฟยค่อยเรียนรู้จากอาซวนตอนเขากลับมาบ้านในวันหยุดเข้าใจหรือไม่”
“เข้าใจเจ้าค่ะพี่สะใภ้ เช่นนั้นข้าขอไปบ้านท่านยายเหลียนเลยนะเจ้าคะ”
“ไปเถอะ ๆ อาซวนอยู่เฝ้าบ้านหากไม่ใช่ท่านพ่อกับท่านลุงอย่าได้เปิดประตูบ้านรับใครเข้าใจหรือไม่ พี่สะใภ้จะเข้าป่าเสียหน่อย”
“ขอรับพี่สะใภ้ ข้าจะเฝ้าบ้านให้เอง”
“ดีมาก เอาไว้ข้าจะหาหมามาเลี้ยงสัก 2 ตัว จะได้เอาไว้เฝ้าบ้าน”
“ดียิ่งขอรับ ข้าเองก็อยากเลี้ยงมากเลย แต่ว่าเมื่อก่อนแม้แต่ข้าวจะกินยังไม่มีพี่ใหญ่เลยไม่ให้เลี้ยงขอรับ”
“เอาเถอะ ๆ ต่อไปนี้ชีวิตพวกเจ้าจะดีขึ้น เชื่อข้าหรือไม่”
“ข้าย่อมเชื่อพี่สะใภ้อยู่แล้วขอรับ”
“ปึ๊ก” เสือสาวตัวใหญ่ล้มลงขาดใจตาย มันตายทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ตัวและไม่เข้าใจ แค่มันต้องการไล่ที่พวกหมาป่าเหตุใดมันต้องตาย
ส่วนเสือขาวที่กำลังพัวพันอยู่กับหมาป่าอีกตัวก็หยุดต่อสู้ทันทีที่เห็นเพื่อนของมันล้มลง หมาป่าทั้งสองตัวเองก็แทบจะหมดแรงแล้วเช่นเดียวกัน มันทั้งสองตัวบาดเจ็บสาหัสมาก เสือขาวไม่มีทางเลือกมันรีบวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว หากมันยังรั้งที่จะต่อสู้ไม่เลิกมันคิดว่ามันคงจะต้องตกตายไปเหมือนเช่นเพื่อนของมัน
หลังจากเสือขาวหนีไปแล้ว นางรีบเดินไปเก็บเสือขาวและโยนเข้าไปในมิติ ส่วนพ่อแม่หมาป่าที่ได้รับบาดเจ็บหนักก็ล้มลงตรงนั้น เว่ยจื้อโหยวเห็นแล้วอดสงสารไม่ได้
“เฮ้อ นี่ลูกของพวกเจ้าข้าเอามาคืนให้ แล้วนี่จะทำเช่นไรต่อ พวกเจ้าไหวรึเปล่า” เว่ยจื้อโหยวถามออกไปทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามันฟังนางไม่รู้เรื่อง
“เลือดไหลขนาดนี้จะทำยังไงล่ะทีนี้ ประเดี๋ยวกลิ่นเลือดของพวกเจ้าก็ดึงดูดสัตว์ตัวอื่นมาพอดี พวกเจ้ามีบ้านอยู่แถวนี้หรือไม่ข้าจะไปส่ง โอ๊ะ ข้าลืมไปพวกเจ้าเป็นหมาป่าพูดไม่ได้”
เว่ยจื้อโหยวไม่มีทางเลือกนางเอาน้ำแร่ออกมาล้างแผลให้พ่อแม่หมาป่าจากนั้นก็ให้มันทั้งสองตัวกินน้ำแร่ นางกลัวว่าหากทิ้งเอาไว้เช่นนี้พวกมันคงได้ตายยกครัวเป็นแน่ เมื่อไม่มีทางเลือกนางจึงได้จับพวกมันทั้งครอบครัวยัดเข้ามิติไป ให้พวกมันอยู่ในนั้นไปก่อน
“ต้องหาใส่สมุนไพรรักษาแผลก่อนไม่รู้ว่าป่าแถวนี้จะมีหรือไม่ เอาไว้รักษาพวกมันจนหายแล้วค่อยปล่อยกลับเข้าป่าก็แล้วกัน”
ครอบครัวหมาป่าหลังจากที่ถูกจับโยนเข้ามาในมิติอันแห้งแล้งแล้ว นอกจากน้ำแร่แล้วก็ไม่มีสิ่งอื่น ผลไม้ที่นางปลูกเอาไว้ยังไม่ออกดอกออกผลคงต้องรอไปอีกสักระยะ ก่อนอื่นคงต้องหาอาหารโยนเข้าไปให้พวกมันได้กินด้วย ช่างวุ่นวายจริง ๆ
เว่ยจื้อโหยวเดินกลับออกจากป่าช้า ๆ ไม่รีบร้อน ระหว่างทางเจอกระต่ายนางก็ล่ากระต่ายเจอไก่ป่าก็ตามล่าไก่ป่า เพื่อนำไปเป็นอาหารให้หมาป่า
การเข้าป่าของนางในวันนี้ไม่นับว่าขาดทุนเท่าไหร่ อย่างน้อย ๆ เสือขาวตัวนี้น่าจะขายได้ราคางาม นางเห็นว่าได้เวลาออกจากป่าแล้วจึงได้หันหน้าเดินออกจากป่า แต่ระหว่างทางที่เดินกลับบ้านนั้นนางยังเก็บผักป่าหาสมุนไพรไปด้วย
และในตอนนี้นางได้เริ่มหิวขึ้นมาอีกครั้ง จึงได้หาที่นั่งพักเพื่อกินอาหาร เว่ยจื้อโหยวนั่งพักได้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งจากนั้นก็เอาซาลาเปาที่เตรียมมาจากบ้านออกมานั่งกิน
นางกินไปสอดส่ายสายตามองไปรอบ ๆ ไม่นานซาลาเปาในมือก็หมดลง นางดื่มน้ำแร่ในมิติทำให้ร่างกายหายเมื่อยล้าไปทันที เว่ยจิ้อโหยวลุกขึ้นเตรียมตัวที่จะกลับบ้านแต่สายตาของนางหันไปเห็นบางสิ่งบางอย่างเข้าเสียก่อน
ไม่รอช้าเว่ยจื้อโหยวรีบสาวเท้าเข้าไปทันทีเพื่อดูให้แน่ใจว่าสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้านี้มันคืออะไรกันแน่ หากว่ามันใช่ในสิ่งที่นางคิดเอาไว้วันนี้ก็เท่ากับว่าโชคหล่นทับหัวนางแล้ว

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย