เย่เซิ่งเทียนนำทรัพยากร ตำราฝึกฝนและเลือดเทพ รวมถึงมอบประสบการณ์การบำเพ็ญตนให้หนิงเจ๋อฮ่าว
วันต่อมา หนิงเจ๋อฮ่าวเข้ามา และพูดด้วยความยินดีปรีดาว่า: “เจ้าเทพ หัวหน้าหวังมาแล้ว”
หัวหน้าหน่วยดำฟ้าสยบ หวังเซียวเซียว
“ให้เธอเข้ามาเถอะ”
เย่เซิ่งเทียนไม่ได้ออกไปต้อนรับเลยด้วยซ้ำ เขาต้องการเห็นปฏิกิริยาของหวังเซียวเซียว
แม้ว่าเขาจะขาดกำลังคนในช่วงนี้ แต่ก็ไม่ต้องการคนที่สองจิตสองใจแบบนั้น
เขายินดีที่จะลุยเดี่ยวด้วยตัวเอง และก็ไม่อยากหาเรื่องให้ตัวเองด้วย
เพราะเช่นนี้ยอมขาดดีกว่ามีของด้อยคุณภาพ!
ถ้าหวังเซียวเซียวพูดอย่างหนึ่งทำอย่างหนึ่งเหมือนตระกูลเหย้ เป็นเพียงพันธมิตรก็พอ เขาไม่ได้แคร์เลย
ไม่นานเท่าไหร่ หนิงเจ๋อฮ่าวพาผู้หญิงคนหนึ่งที่ดูอายุประมาณ 30 ปีมาด้วย
นี่ก็คือหวังเซียวเซียว
เธอสวมชุดสูทสีดำค่อนข้างน่าเกรงขาม ดูภายนอกดูเป็นคนที่เนี้ยบมาก นิสัยของผู้หญิงประเภทนี้ปกติแล้วค่อนข้างจะแข็งแกร่ง
เธอผมสั้นยาวประบ่า สวมแว่นอยู่บนสันจมูก และดวงตาเฉียบคมคู่หนึ่งส่องประกาย
รูปร่างสูงบาง ผิวขาว
ดูจากลักษณะของเธอ ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าดาราสาวเหล่านั้นในวงการบันเทิงเลยแม้แต่น้อย แต่ออร่าของเธอ ดาราสาวเหล่านั้นไม่อาจจะเทียบได้โดยสิ้นเชิง
เย่เซิ่งเทียนตะลึงเล็กน้อย เขาคิดว่าหวังเซียวเซียวเป็นยายแก่คนหนึ่ง ถึงยังไงจะมาเป็นหัวหน้าหน่วยดำผู้ดูแลการลงโทษในฟ้าสยบได้ หรือว่าเป็นผู้แข็งแกร่งแดนทะลุเทพไม่ว่ายังไงก็ไม่มีทางอายุน้อยขนาดนี้
แต่พอคิดดูก็ปกติมาก มาถึงแดนของพวกเขาเช่นนี้ ต้องการรักษารูปลักษณ์ภายนอกนั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างง่าย
เพียงแต่ว่าปกติผู้ชายมักไม่ให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ภายนอก ในขณะที่ผู้หญิงให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ภายนอกมากกว่า
อายุที่แท้จริงของหวังเซียวเซียว เกรงว่าไม่ใช่แค่อายุไม่กี่ร้อยปี
เย่เซิ่งเทียนมองหวังเซียวเซียว อีกฝ่ายก็กำลังมองเขาอยู่
“เจ้าเทพเย่ยังเด็กอยู่เลย อายุเท่านี้ ก็สามารถประสบความสำเร็จเช่นนี้ ทำให้คนอื่นอิจฉาเลยจริงๆ”
หวังเซียวเซียวเอ่ยปากพูดก่อน แถมยังไม่ยอมรับตัวตนของเย่เซิ่งเทียนในฐานะผู้นำแห่งฟ้าสยบ
เย่เซิ่งเทียนกล่าวอย่างสงบ: “หัวหน้าหวังก็ยังเป็นสาวเช่นกัน ถ้าฉันไม่รู้ตัวตนของคุณมาก่อน เกรงว่าจะไม่เชื่อว่าหัวหน้าหวังจะยังเด็กขนาดนี้ ถ้าคุณได้ก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง ดาราสาวเหล่านั้นเกรงว่าจะตกงานกันแล้ว”
หวังเซียวเซียวยิ้ม ผู้หญิงที่ไหนจะไม่ชอบถูกคนอื่นชมว่ายังเด็กล่ะ?
“เจ้าเทพเย่ปากหวานจริงๆ พอแล้ว ฉันก็ไม่จะไม่อุบเรื่องกับคุณแล้ว ฉันจะพูดตรงๆเลยแล้วกัน”
หนิงเจ๋อฮ่าวที่อยู่ข้างๆพูดในใจ ฉันคิดว่าเจ้าเทพเย่เป็นชายทั้งแท่ง คิดไม่ถึงว่าฉันจะมีโลกทรรศน์แคบ ใบหน้าของเจ้าเทพดูเอาจริงเอาจัง พูดอะไรออกมากลับสามารถเอาชนะใจของผู้หญิงได้ คิดไม่ถึงว่าตัวตลกคือตัวฉันเอง มิน่าล่ะฉันอายุแก่ปูนนี้แล้ว ยังโสดอยู่เลย
เย่เซิ่งเทียนพยักหน้า: “คุยกันดูก่อน ธุรกิจจะไม่สำเร็จ แต่การคบค้าสมาคมกันของทั้งสองฝ่ายจะยังอยู่ ถ้าหัวหน้าหวังไม่รังเกียจ ต่อไปพวกเราก็สามารถเรียกว่าพี่น้องกันได้”
หวังเซียวเซียวตกตะลึง กับยิ้มและพูดว่า: “เจ้าเทพเย่เป็นคนที่น่าสนใจ ยังถือว่าฉันเป็นผู้เอาเปรียบอยู่อีกเหรอ?”
เย่เซิ่งเทียนพูดด้วยสีหน้าจริงจัง: “ฉันเอาเปรียบสิ สุดท้ายก็ได้สาวสวยคนหนึ่งมาฟรีๆ”
หนิงเจ๋อฮ่าวเบิกตากว้าง ตกใจอย่างยิ่ง
หัดเรียนรู้ได้แล้วจริงๆ
เจ้าเทพพูดห้วนๆสั้นๆเอง แป๊บเดียวก็สร้างความสัมพันธ์กับหัวหน้าหวังได้แล้ว!
ถ้ากลายเป็นพี่น้องกันจริงๆ หัวหน้าหวังกล้าที่จะปฏิเสธเขาได้อีกเหรอ?
มิน่าล่ะเจ้าเทพอายุน้อยขนาดนี้ ก็เป็นผู้นำเทพสงคราม แถมยังสามารถเท่าเทียมกันกับหยาวเทาและพวกเขาได้อีก
นอกจากความสามารถแล้ว ความฉลาดทางอารมณ์ก็ไม่เป็นสองรองใคร
ไม่แปลกใจเพียงเวลาไม่นาน ก็สามารถโกงทรัพยากรได้จำนวนมาก
และตัวเองเป็นปัญญาชนของตระกูลกู่มานานหลายปี ทำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง!
ถ้าตัวเองหน้าด้านได้สักครึ่งหนึ่งของเขา สถานการณ์ก็คงจะไม่เป็นแบบในตอนนี้ตั้งแต่แรกแล้ว?ถ้าตัวเองสามารถพูดอะไรทำนองนี้ได้ ก็คงได้ไปถึงจุดสูงสุดของฟ้าสยบไปตั้งนานแล้วสินะ?
หวังเซียวเซียวยิ้มแล้วพูดว่า: “งั้นก็ได้ ต่อไปเราก็เป็นพี่น้องกัน ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นน้องชาย คุณอยากจะร่วมงานอะไรกับฉันล่ะ? แม้ว่าฉันจะสนับสนุนคุณ แต่ก็ไม่สามารถสนับสนุนอย่างไม่มีเงื่อนไขหรอกนะ คุณจะให้อะไรฉันได้? พูดตามจริงนะ กัวเจิ้งสัญญากับฉันไว้มากมาย แต่ฉันไม่ชอบท่าทางที่หยิ่งยโสโอหังของเขาเลย”
เย่เซิ่งเทียนยิ้มเบาๆและพูดว่า:: “ฉันสามารถทำให้คุณเป็นเทพได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Mars เจ้าสงครามครองโลก