ช่วงเวลาที่ห่างกว่าหลายเดือน เย่เซิ่งเทียนกลับมาถึงเมืองเฉียนถังอีกครั้ง ฆ่าคนเพื่อสร้างบารมี
เพียงชั่วครู่หนึ่ง คุณเย่ชื่อเรียกขานนี้ เริ่มปรากฏในแวดวงของเมืองเฉียนถังอีกครั้ง
“ช่วงเวลาที่ฉันออกไป ไม่มีใครมุ่งเป้าไปยังบริษัทหัวหยวน?”
เย่เซิ่งเทียนพูดถามอย่างนิ่งๆ
ก่อนที่เขาจะต้องไปจัดการตระกูลลี้ลับ จัดการพวกปัจจัยที่ทำให้กระสับกระส่ายโดยสิ้นเชิง เพื่อให้สภาพแวดล้อมที่เงียบสงบกับคนในครอบครัว
เขาไม่ยินยอม ให้เหตุการณ์ของจ้าวเจิ้งในเมื่อก่อนนั้นเกิดขึ้นอีกแน่
เฉินเฟิงตกใจ เดาได้ว่าเย่เซิ่งเทียนจะทำอะไร นี่มาเพื่อฆ่าผู้คนจำนวนมากเหรอ?
เฉินเฟิงรับรู้ถึงเจตนาฆ่าของเย่เซิ่งเทียน จากตัวของเฮียโก่วและท่านสามแล้ว
ดูเหมือนว่า คนเหล่านั้นที่คิดอยากจะบล็อกการจัดหาวัสดุของบริษัทหัวหยวน ครั้งนี้จะต้องซวยอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว
การสร้างเมืองใหม่เป็นเค้กก้อนใหญ่ชิ้นหนึ่ง จะไม่มีคนอิจฉาได้อย่างไรกัน?
โดยเฉพาะผู้จัดจําหน่ายพวกวัสดุพิเศษ ช่วงเวลานี้ทำให้บริษัทหัวหยวนลำบากใจไม่น้อย
แม้ว่าบริษัทหัวหยวนมีเวินเฉินคอยสนับสนุน แต่ว่าผลประโยชน์มากเกินไปแล้ว พวกผู้จัดจำหน่ายเหล่านั้นไม่คิดว่าตัวเองมีความผิดอะไร
ถึงอย่างไรถ้าหากบริษัทหัวหยวนไม่ยินยอม งั้นอย่างมากก็แค่ไม่ทำงานร่วมด้วย เวินเฉินก็แค่เลขาของเจ้าเทพ แต่ว่าพวกเราจะทำงานร่วมด้วยหรือไม่นั้น นี่เป็นความสมัครใจของตัวเอง ใครก็เข้ามายุ่งไม่ได้
ยิ่งไปกว่านั้น บางองค์กรก็มีการลงทุนจากต่างชาติอยู่เบื้องหลังด้วย ก็ยิ่งทำให้เบื้องหลังแข็งแกร่งยิ่งขึ้น แม้ว่าภายนอกจะไม่กล้าพูดอะไร แต่ก็กระทำการลับหลังไม่น้อย
เฉินเฟิงรีบพูดว่า “เฉาซื่อ กรุ๊ปมีการลงทุนจากต่างประเทศอยู่เบื้องหลัง และมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก เดิมทีคุณหวางซีก็จะเซ็นสัญญากับพวกเขาแล้ว แต่พวกเขากลับคำกะทันหัน แถมยังกดขี่บริษัทอื่นๆ มีกว่าหลายบริษัทที่ถูกบีบออกจากวงการธุรกิจแล้ว บริษัทหัวหยวนจึงทำได้เพียงทำงานร่วมกับพวกเขา”
“ฮุยเถิง กรุ๊ป ว่ากันว่าเปิดโดยญาติของผู้มีอิทธิพลบางคนในรัฐบาลกลาง อาศัยวิธีการที่น่าอับอาย แย่งบางโครงการของบริษัทหัวหยวนไปแล้ว ก่อนหน้านี้ฉันแนะนำคุณหวางซี ไม่ต้องให้ ฉันจะพาคนไปเจรจากับพวกเขา เพียงแต่คุณหวางซีบอกว่าทำแบบนี้จะก่อความวุ่นวายให้กับคุณ ไม่ดีต่อชื่อเสียงของคุณ เพราะงั้นจึงอดทนไว้”
เฉินเฟิงเรื่องบางส่วนที่ตัวเองรู้ออกมาแล้ว ก็พูดเพิ่มอีกหนึ่งประโยคว่า “คุณชายเย่ ฉันสงสัยว่าคุณหวางซีเดาตัวตนของคุณได้ตั้งนานแล้ว เธอปกป้องชื่อเสียงของคุณทุกอย่าง และก็ไม่ให้ลูกน้องช่วยเหลือ บอกว่าทำแบบนั้นไม่เป็นผลดีต่อคุณ”
เย่เซิ่งเทียนตกตะลึง เมื่อกี้เวินเฉินก็พูดประโยคนี้กับเขา หรือว่า หวางซีก็เคยกำชับเวินเฉินเป็นพิเศษงั้นเหรอ?
ถ้าหากซีเอ๋อร์รู้ตัวตนของตัวเองได้ตั้งนานแล้ว งั้นท่าทางที่เธอเสแสร้งว่าไม่รู้เรื่องมาตลอดนั้น ให้อภัยคนที่เคยรังแกเธอมากว่าหลายครั้งเหล่านั้น หรือว่าเป็นกังวลว่าชื่อเสียงของตัวเองจะได้รับความเสียหายงั้นเหรอ?เพราะงั้นถึงจงใจทำให้ตัวเธอเองไม่ได้รับความเป็นธรรม ยอมทนต่อความอัปยศเหล่านั้น?
“นายรู้อะไร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Mars เจ้าสงครามครองโลก
เนื้อเรื่องน่าจะต่อได้อีกนะรีบจบไปหน่อย มีหลายปมเลย ปกแรกเย่หลงตายรึยัง ปมที่2ซือซือทำไม่ถึงลืมเรื่องที่เกิดขึ้น ปมที3หวางซีเป็นสเก็ดวิญาณของใคร หายไปไหนทำไมเห้ยซูหลิงถึงหาเจอ ปมที่4หมิงหยูเลยลูกชายจะช่วยแทบตายไม่กล่าวถึงเลยคือคาฝจมากคนแต่งน่าจะแต่งต่อได้อีกพันตอน...
ฟ้าสยบทำไม่ไม่ช่วย...
ตั้งแต่โดนวางยา..จนถึงตอนเย่เซิงเทียนดูโง่ๆเลย...
เจ้าเทพอะไรดูโง่จัง..โดนจูงจมูกเหนื่อยใจกับคนแต่ง...