Mars เจ้าสงครามครองโลก นิยาย บท 927

สรุปบท บทที่ 927 คนตระกูลเหย้ที่แปลกประหลาด: Mars เจ้าสงครามครองโลก

ตอน บทที่ 927 คนตระกูลเหย้ที่แปลกประหลาด จาก Mars เจ้าสงครามครองโลก – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 927 คนตระกูลเหย้ที่แปลกประหลาด คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต Mars เจ้าสงครามครองโลก ที่เขียนโดย หลงเซียว-มังกรคำราม เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

เหล่าอู๋หวาดกลัวอยู่ตลอดทาง มักจะรู้สึกว่าเย็นยะเยือกที่ช่วงหลังลำคอ เหมือนว่าเย่เซิ่งเทียนจะหักคอเธออยู่ตลอดเวลาอย่างไรอย่างนั้น

แม้ว่าเย่เซิ่งเทียนจะไม่ได้ทำอะไรเลย แต่เธอก็ยังคงรู้สึกเย็นยะเยือกที่แผ่นหลังอยู่ดี

เมื่อมาถึงที่แล้ว เย่เซิ่งเทียนกับเหย้ซูหลิงก็ลงจากรถ เหล่าอู๋จึงพบว่าแผ่นหลังของตัวเองนั้นเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ

เธอสาบานว่า ต่อไปจะไม่ออกจากบ้านแล้ว!

ถ้าหากอยู่ในบ้าน เธอยังคงต้องตายไป เธอเองก็ยอมแล้ว

ตระกูลเหย้อยู่ในภูเขาใหญ่ลูกหนึ่ง ที่ราวกับเป็นดินแดนสุขาวดี

ภูเขาใหญ่แถบนี้ เป็นเขตต้องห้าม มีค่ายกลโบราณปกคลุม นอกจากว่ามีคนในพื้นที่นำทาง มิเช่นนั้นใครก็ไม่สามารถพบเจอสถานที่แห่งนี้ได้ ซึ่งภายในภูเขาลึกและป่าทึบแห่งนี้ คิดไม่ถึงว่าจะมีคฤหาสน์ที่ใหญ่โตหลังหนึ่งแบบนี้ได้

เย่เซิ่งเทียนแอบทอดถอนหายใจ การเป็นอยู่ของตระกูลลี้ลับนี้ ช่างไม่ธรรมดาเสียจริง

หากว่าตนเองมาหาตระกูลลี้ลับเพียงลำพัง คงจะหาไม่เจออย่างแน่นอน

เย่เซิ่งเทียนพูดล้อเล่นขึ้นว่า: “ตระกูลอย่างพวกเธอนี้ เคยไปทำเรื่องอะไรที่ผิดต่อศีลธรรมมาหรือเปล่า เพราะต่างก็แอบซ่อนตัวกันอยู่ในที่ลึกลับทั้งนั้น”

“คนอย่างนายก็พูดแต่ในสิ่งที่ไม่ดีและย่ำแย่ พวกเราเพียงแค่หลบหลีกความยุ่งยากวุ่นวายก็เท่านั้น”

เหย้ซูหลิงพูดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์

“คุณหนู”

ยามเฝ้าประตูสองคนกล่าวทักทายขึ้นด้วยความเคารพ ในขณะเดียวกันก็จ้องมองมายังเย่เซิ่งเทียนด้วยสายตาที่แปลกประหลาด

นี่ถือเป็นครั้งแรกที่คุณหนูพาผู้ชายกลับมาที่ตระกูล

ชายหนุ่มคนนี้มันไม่กลัวตายหรืออย่างไร ถึงได้กล้าใกล้ชิดสนิทสนมกับคุณหนูขนาดนี้

เย่เซิ่งเทียนในเวลานี้ มีใบหน้ารูปโฉมที่เปลี่ยนแปลงไปโดยสมบูรณ์

เดิมทีใบหน้าของเขามีเค้าโครงที่แข็งทื่อ แต่ตอนนี้กลับกลายมาเป็นลักษณะที่อ่อนโยน เหมือนกับเด็กหนุ่มหน้าตาดีผิวขาวใส ซึ่งก็คล้ายกับชายหนุ่มที่เกาะผู้หญิงกิน

เหย้ซูหลิงพยักหน้าและพูดว่า: “ท่านผู้นี้คือหยวนเย่ ต่อไปก็คือคุณผู้ชายของที่นี่”

“สวัสดีคุณผู้ชาย”

ยามเฝ้าประตูทั้งสองคนกล่าวทักทายขึ้นอย่างยิ้มแย้ม แต่สายตาก็ยังคงแสดงความประหลาดใจออกมา

หยวนเย่ผู้นี้ช่างเป็นชายที่องอาจกล้าหาญยิ่งนัก ถึงกล้าที่จะจัดการกับนางปีศาจคนนี้ได้อยู่หมัด

ขณะที่ทั้งสองคนกำลังพูดพึมพำ ก็เห็นเหล่าอู๋ที่สีหน้าขาวซีดเดินเข้ามา จึงรีบเปลี่ยนเรื่องพูดทันที

ในขณะเดียวกัน เย่เซิ่งเทียนยิ่งรู้สึกว่ามีอะไรที่ผิดปกติ

เมื่อคนตระกูลเหย้พบเห็นเขา เหมือนว่ากำลังมองมาที่สัตว์ประหลาดอย่างไรอย่างนั้น ซึ่งสายตาเหล่านั้นช่างน่าแปลกประหลาดยิ่งนัก

สิ่งที่ทำให้เขาแปลกใจขึ้นอีกก็คือว่า พวกคนเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะไม่แสดงอาการรังเกียจว่าเป็นศัตรูหรือแสดงท่าทีดูถูกเหยียดหยาม แต่กลับกลายเป็นแสดงท่าทีที่เหมือนกันออกมา นั่นก็คือดีใจเมื่อเห็นผู้อื่นเป็นทุกข์

เหย้ซูหลิงจ้องมองไปยังพวกคนเหล่านั้นอย่างโหดเหี้ยม พวกคนเหล่านั้นจึงรีบแยกย้ายกันไป

แต่สิ่งที่ทำให้เย่เซิ่งเทียนยิ่งกลัดกลุ้มหนักขึ้นอีกก็คือ จากนั้น คนของตระกูลเหย้ก็ปรากฏตัวขึ้นทีละคนทีละคน เหมือนกับว่ามีการนัดหมายกันไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว

หากหนึ่งหรือสองคนก็ถือว่าพบกันโดยบังเอิญ แต่เวลานี้มันช่างเหมือนว่าตั้งใจออกมาร่วมมุงดูเรื่องราวที่ตื่นเต้น

“หลิงเอ๋อร์ คิดไม่ถึงว่าเธอจะพาผู้ชายคนหนึ่งกลับมาด้วย ไม่ง่ายเลยนะไม่ง่ายเลย”

คุณป้าคนหนึ่งที่กำลังอุ้มเด็กน้อยมองไปยังเย่เซิ่งเทียนด้วยท่าทางที่แปลกประหลาด และพูดขึ้นว่า: “เจ้าหนุ่ม มาถึงแล้วก็อย่าไปกลับออกไปเลย นายวางใจได้ เมื่อเป็นผู้ชายของหลิงเอ๋อร์แล้ว พวกเราจะไม่ทำให้นายผิดหวังแน่นอน มีเงื่อนไขอะไรก็เสนอออกมาได้เลย”

เย่เซิ่งเทียนสีหน้าท่าทางกลัดกลุ้ม มันแตกต่างกับที่เขาจินตนาการเอาไว้มากทีเดียว

ทำไมถึงรู้สึกว่าพวกคนเหล่านี้เหมือนว่าในที่สุดสามารถส่งเทพแห่งความชั่วร้ายกลับออกไปได้แล้วอย่างไรอย่างนั้น?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Mars เจ้าสงครามครองโลก