มหาเทพ แห่ง สงคราม นิยาย บท 1993

“ผู้ช่วยที่รับผิดชอบการส่งงานคือผู้ช่วยเฟลมมิ่ง และเขาทำงานให้กลับผู้ดูแลแอมโบรส เข้าส่ายหน้าทันทีที่ได้ยินว่าผมไปที่นั่นเพื่อแลกเปลี่ยนผลึกวิญญาณระดับต่ำห้าร้อยชิ้นเป็นคะแนนสะสม เขาบอกว่าสิทธิประโยชน์นี้ไม่ครอบคลุมกับศิษย์ภายนอกที่พึ่งเข้ามาใหม่รอบนี้ และสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเขาพูดแบบนั้น” บรู๊คกล่าว

เฟนด์ขมวดคิ้ว เขานึกถึงสิ่งที่โนเอลเคยพูดกับเขาก่อนหน้านี้และยังไม่สามารถเข้าใจได้ว่าเกิดอะไรขึ้น บางทีโนเอลอาจกำลังพยายามบอกเขาว่าตำหนักสองกษัตริย์กำลังปฏิบัติต่อศิษย์ภายนอกที่เข้ามาใหม่กลุ่มนี้แตกต่างจากศิษย์ภายนอกกลุ่มที่เข้ามาก่อนหน้านี้ทั้งหมด ประกอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับคะแนนสะสมเฟนด์ได้แต่บอกกับตัวเองว่านับจากนี้ไปเขาควรจะระมัดระวังให้มากขึ้น

เป็นไปได้ไหมว่าแม้แต่ฝ่ายบริหารก็จงใจดูแคลนศิษย์ภายนอกกลุ่มใหม่? หากเป็นกรณีนี้ ก็ไม่น่าแปลกใจที่เหล่าศิษย์รุ่นเก่าจะดูถูกเหล่าศิษย์ภายนอกกลุ่มใหม่เสียเหลือเกิน อย่างไรก็ตามเฟนด์ไม่คิดว่าเป็นเพราะเหตุนี้ ท้ายที่สุดแล้วตำหนักสองกษัตริย์ยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นสำนักอันดับหนึ่งในรัฐเวสต์ เซอร์ซีอีกด้วย พฤติกรรมเช่นนี้จะทำให้เหล่าศิษย์เกิดคำถามและสร้างความขุ่นเคืองใจให้กับเหล่าศิษย์ภายนอกกลุ่มใหม่

เฟนด์ชี้ไปที่คะแนนสะสมจำนวนห้าสิบแต้มที่เพิ่มลงในป้ายหยกประจำตัวของเขาและถามว่า "ถ้าสิทธิประโยชน์นี้ถูกยกเลิกไปแล้ว แล้วคุณได้คะแนนพวกนี้มาได้ยังไง?"

“ต้องขอบคุณผู้ดูแลแอมโบรสในเรื่องนี้ ผมกำลังจะยอมแพ้เพราะผู้ช่วยเฟลมมิ่งเอาแต่ยืนกรานว่าสิทธิประโยชน์นั้นถูกยกเลิกไปแล้ว แต่พอผู้ดูแลเห็นป้ายหยกประจำตัวของคุณในมือของผม ตอนที่ผมกำลังจะจากมา เขาก็ถามผมอย่างตื่นเต้นว่าผมไปทำอะไรที่นั่น ผมก็ได้อธิบายทุกอย่างให้เขาฟัง และเขาก็ตำหนิผู้ช่วยเฟลมมิ่งที่พูดจาไร้สาระในทันที และเพราะแบบนั้นผมถึงจัดการเรื่องคะแนนมาได้”

เส้นบนหน้าผากของเฟนด์ลึกยิ่งขึ้น แอมโบรส อดัมส์สร้างความประทับใจให้กับเขา เหตุผลที่แอมโบรสช่วยอำนวยความสะดวกให้เฟนด์แบบนี้ต้องเป็นเพราะเฟนด์ช่วยเขาจัดการกับเซฟ ผู้ซึ่งเป็นที่รู้กันไปทั่วว่าพวกเขาเป็นศัตรูคู่อาฆาตกัน ถึงกระนั้น หากสิทธิประโยชน์ถูกยกเลิกไปแล้วจริง ๆ สิ่งที่แอมโบรสทำย่อมเป็นการละเมิดกฎ และอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับคะแนนสะสมพวกนี้ก็ถือเป็นเรื่องร้ายแรง

แอมโบรสไม่คิดฝ่าฝืนกฎอย่างโจ่งแจ้งเพียงเพื่อช่วยเฟนด์ นอกจากนี้ เขายังกล่าวว่าผู้ช่วยเฟลมมิ่งกำลังพูดเรื่องไร้สาระ เพื่อเป็นการบอกว่าสิทธิประโยชน์ดังกล่าวไม่ได้ถูกยกเลิกแต่อย่างใด ต้องมีเหตุผลว่าทำไมผู้ช่วยเฟลมมิ่งถึงพูดเช่นนั้น แต่การพยายามเดาถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ทั้งหมดทำให้เฟนด์ปวดหัว เขารู้สึกราวกับว่ามีแอ่งกาวหนา ๆ ไหลลื่นอยู่ในสมองของตัวเองอย่างไรอย่างนั้น

เรื่องทั้งหมดเริ่มซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ ไม่น่าแปลกใจที่โนเอลบอกให้เขาวางเรื่องที่ยังค้างคาใจลงเสีย เพราะท้ายที่สุดแล้ว การเพิ่มระดับพลังยุทธก็ถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ดังนั้น ด้วยการได้รับคะแนนสะสมที่จำนวนห้าสิบแต้มในป้ายประจำตัวมาเช่นนี้ เขาจึงรีบไปที่หอเจตสิกอีกครั้ง ในขณะที่ปกติแล้วโนเอลจะนั่งอยู่หลังโต๊ะตัวยาวด้วยใบหน้าที่เฉยเมย เขาก็กลับมามีชีวิตชีวาขึ้นได้เล็กน้อยเมื่อเขาเห็นเฟนด์เข้ามาในสถานที่

นอกจากนี้ เช่นเคย เขาเป็นฝ่ายถามเฟนด์ว่าชายหนุ่มอยากอยู่ที่นั่นกี่วัน ซึ่งเฟนด์ก็ตอบออกไปด้วยการชูนิ้วทั้งห้าออกมา จากนั้น เขาก็วางป้ายหยกประจำตัวไว้บนโต๊ะ โนเอลถอนหายใจและพูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความชื่นชม “ฉันไม่รู้ว่าจะให้คำแนะนำอะไรกับอัจฉริยะอย่างนายได้อีก ความสามารถของนายช่างน่าอิจฉาจริง ๆ นายนึกไม่ออกแน่ว่าคนอื่น ๆ จะตกใจขนาดไหนหากพวกเขารู้ว่านายเข้าไปยังประตูเรียงเนตรที่ความยากระดับสี่”