สรุปเนื้อหา บทที่ 33 บริษัทตระกูลสุนทรวรรณ – moneybags พ่อฉันเป็นเจ้าสัว โดย Light-Knight
บท บทที่ 33 บริษัทตระกูลสุนทรวรรณ ของ moneybags พ่อฉันเป็นเจ้าสัว ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Light-Knight อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
บทที่ 33 บริษัทตระกูลสุนทรวรรณ
โทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะทันใดนั้นก็ดังขึ้น พอดูบัญญพนต์ก็เป็นเบอร์ของนภนต์ เลยรับสาย
"ประธานบัญญพนต์ ไม่ทราบว่าคุณต้องการผืนดินนั้นแล้วมีประโยชน์อะไร?"
นภนต์ถามอย่างระมัดระวัง ไม่ใช่ว่าต้องถามประโยคนี้
เพียงแต่ก่อนหน้านี้ได้แบ่งที่ดินผืนนี้ให้กับริษัทตระกูลสุนทรวรรณแล้ว ปัจจุบันนี้ตระกูลหัสบดินทร์ก็ต้องการกะทันหัน ทำให้เขารับมือไม่ทัน ต้องดูว่ายังมีทางหนีทีไล่สำหรับเรื่องนี้รึเปล่า
“ผู้จัดการนภนต์ ถามคำนี้หมายความว่าไม่อยากให้หรอ?” บัญญพนต์สองขานั่งไขว่ห้างบนโต๊ะทำงาน มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ไว้ มืออีกข้างกลับเล่นมีดพับสวิส ท่าทางเกียจคร้าน
นภนต์พอได้ยินน้ำเสียงของบัญญพนต์ ในใจรู้สึกตื่นตระหนกทันที ไหนเลยจะรับผิดชอบถามเรื่องเหล่านี้ไหว รีบตอบตกลงอย่างรวดเร็ว
ถึงแม้ว่าตระกูลสุนทรวรรณนี้ไม่ใช่จะแตะต้องได้ง่ายๆ แต่ก็ไม่เท่าตระกูลหัสบดินทร์
นภนต์ยังรู้ชัดว่าอันไหนสำคัญกว่ากัน
“อารอน ผมได้รับรายงานว่ากองกำลังชั่วร้ายได้ปรากฎตัวท่ามกลางสถานการณ์การรื้อถอนเมืองเก่า คุณจะอธิบายเรื่องนี้ให้กับผมอย่างไร?”
หลังจากนภนต์วางสายของบัญญพนต์ก็รีบโทรออกหาอีกสายทันที
ด้านปัญหาของการรื้นถอน ตระกูลสุนทรวรรณได้มีการใช้กองกำลังชั่วร้ายหรือไม่นภนต์ไม่ได้เห็นกับตา แต่เท่าที่เขารู้จักตระกูลสุนทรวรรณ เรื่องนี้ไม่ใสสะอาดอย่างแน่นอน ก่อนหน้านี้ก็เพราะตระกูลหัสบดินทร์ไม่ได้สนใจที่ดินผืนนี้ ตระกูลสุนทรวรรณก็ส่งของกำนัลมาไม่น้อย เขาจึงเลือกทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น
แต่ปัจจุบันนี้นี่กลับกลายเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการจัดการกับพวกเขา
“ผู้จัดการเรื่องนี้ผมไม่รู้จริงๆ ไม่แน่ว่าอาจจะมีคนใส่ร้าย เดี๋ยวผมจะส่งคนไป!”
อารอนเป็นหัวหน้าหน่วยปราบปรามพิเศษ คนๆหนึ่งบริหารจัดการเกือบครึ่งหนึ่งของการกระทำของเมือง ยากที่จะหลีกเลี่ยงมีเมืองที่ถูกละเลย ด้วยเกรงว่าผู้จัดการนภนต์ไม่ปล่อยเรื่องนี้ เขาจึงรีบส่งคนออกไปทันที
การกระทำทั้งหมดกำลังดำเนินการอย่างมีระเบียบ จักรชัยก็ไม่รู้ว่าหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาเพิ่งจะลืมตาก็ร้องเรียกชื่อของน้ำทิพย์
ดูแล้วมีเพียงแค่เขาคนเดียวในห้อง จักรชัยจึงนึกขึ้นมาได้ว่าเกิดเรื่องขึ้นเมื่อคืน รีบวิ่งออกไปทันที น้ำทิพย์ได้ย้ายจากห้องผ่าตัดไปที่ห้องไอซียูแล้ว ทั่วทั้งร่างกายเธอในเวลานี้เต็มไปด้วยผ้าพันแผล
“ตอนนี้อาการเป็นอย่างไรบ้าง?”
กรชวัลอยู่ในห้องผู้ป่วยของน้ำทิพย์ตอนที่จักรชัยปรากฏตัวอยู่ข้างนอก จึงรีบเดินมาหา เขารู้แจ้งอย่างชัดเจนว่า จักรชัยใส่ใจผู้หญิงคนนี้มากแค่ไหน
“พวกเราได้พยายามเต็มที่แล้ว ทำทุกอย่างที่ทำได้ แทบจะไม่สามารถรักษาจังหวะการเต้นของหัวใจเธอได้ ส่วนที่เหลือยังต้องพบแพทย์สองสามคนเพื่อตรวจดูร่างกายอีกครั้ง!”
จักรชัยพยักหน้า แล้วก็ไม่ได้พูดอะไรอีก จึงยืนอยู่ด้านนอกอย่างเงียบแบบนั้นมองดูน้ำทิพย์ที่อยู่บนเตียง มีแพทย์ผมสีขาวสองคนเดินเข้ามา ทั้งสองคนก้มหน้า ไม่รู้ว่ากำลังพูดคุยอะไรกัน
เพียงแค่เห็นทั้งสองคนมองไปที่น้ำทิพย์เป็นครั้งคราวมีร่องรอยของการดูถูกอยู่ในสายตา จึงทำให้จักรชัยรู้สึกอารมณ์ไม่ดี กรชวัลก็สังเกตเห็นสิ่งนี้อย่างชัดเจน
จึงไออย่างกระอักกระอ่วนเล็กน้อย เดิมทีคิดอยากจะเตือนแพทย์สองคนนั้นสักหน่อย
แต่ใครจะไปรู้ว่าแพทย์สองคนนั้นไม่เพียงแต่ไม่รับรู้ ในทางกลับกันยังเดินมาตรงหน้าของกรชวัล
“ดิ๊ง คุณมีข้อความใหม่!”
โทรศัพท์มือถือดังขึ้นในเวลานี้พอดี จักรชัยเปิดดู เป็นลุงหยวนส่งมา มีเพียงแค่สี่คำสั้นๆ “งานเสร็จสมบูรณ์”
ตอนนี้จักรชัยอยากไปดูสีหน้าของสรวิชญ์ว่าจะเป็นยังไง เนื้อเข้าปากเสือแล้ว ไม่รู้ว่าทำให้โกรธแล้วจะเป็นยังไงบ้าง
จักรชัยดับบุหรี่มวนสุดท้ายที่อยู่ในมือตนเอง แล้วมองไประยะไกล
“สรวิชญ์ นี่มันแค่เริ่มต้น ฉันจะทำให้แกได้ลิ้มลองรสชาติของการถูกต้อนให้จนมุมทีละนิดทีละนิด”
พอถึงบ่ายสองโมง กรชวัลวิ่งไปเรียกจักรชัยตรงเวลา มองไปยังทั้งหกคนที่กำลังนั่งอยู่ในห้องประชุมอย่างเฉื่อยชา
สถานะที่เขาเป็นนายน้อยของตระกูลหัสบดินทร์ยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ คนเหล่านี้ก็ปฏิบัติต่อเขาด้วยท่าทีเช่นนี้กลับเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิด
แต่ในฐานะแพทย์ ตอนที่หารือสถานการณ์ของคนไข้ ยังคงมีท่าทีแบบนี้ จักรชัยจำเป็นต้องสงสัยในความสามารถของคนเหล่านี้
“พวกคุณใครสามารถให้คำตอบผมที่แม่นยำ ผมต้องการให้ผู้หญิงที่อยู่บนเตียงลุกยืนขึ้นมาได้ ถ้าหากว่าทำสำเร็จ คนละหนึ่งล้าน แต่ถ้าหากว่าทำไม่สำเร็จ ผมก็จะทำให้พวกคุณเสียชื่อเสียง!”
จักรชัยน้อยมากที่เขาจะใช้สถานะของตนเองไปข่มคนอื่น แต่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับชีวิตของน้ำทิพย์ เขาก็คงไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้หรอก
“หนุ่มน้อย ไม่ต้องพูดใหญ่เกินไป นายรู้ไหมว่าเด็กสาวคนนั้นสถานการณ์เป็นยังไง? ศีรษะลงพื้นก่อน กะโหลกศีรษะร้าว เลือดคลั่ง เพียงแค่กำจัดภาวะเลือดหยุดนิ่ง จึงเป็นขั้นตอนใหญ่ มันเป็นเพียงความแตกต่างของเส้นผม จึงมีความเป็นได้ที่จะทำให้คนนี้นอนอยู่บนเตียงตลอดไป"
ในเมื่อพูดขนาดนี้แล้ว งั้นก็แสดงว่ายังมีความหวัง จิตใจของจักรชัยกระโดดโลดเต้นตามคำพูดของคนนี้อย่างตื่นเต้น
“ถ้าหากให้คุณหนึ่งล้าน ให้คุณผิดพลาดน้อยลงหน่อย คุณจะยินยอมไหม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: moneybags พ่อฉันเป็นเจ้าสัว