อ่านสรุป บทที่ 35 เฉยเมย จาก moneybags พ่อฉันเป็นเจ้าสัว โดย Light-Knight
บทที่ บทที่ 35 เฉยเมย คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายใช้ชีวิต moneybags พ่อฉันเป็นเจ้าสัว ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Light-Knight อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
บทที่ 35 เฉยเมย
จักรชัยเดินตามหลังดอกเหมยไปยังร้านLVอย่างเงียบๆ ยังดีที่ภายในร้านนี้ใหญ่มาก ดอกเหมยก็ช้อปปิ้งจากด้านซ้ายแถวแรก และอลินดาที่เพิ่งพูดคุยกลับอยู่ห่างออกไปมาก แถวตรงกลางยังมีตู้โชว์
แต่เสียงของอลินดากลับดังไปทั่วร้าน
แม้แต่ดอกเหมยยังมองไปฝั่งนั้นด้วยความไม่ค่อยพอใจ
จำรัสยืนอยู่ที่เดิมอย่างกระอักกระอ่วนใจ สีหน้าบนใบหน้าดูไม่ดี แต่ยังคงอดทนเกลี้ยกล่อมอลินดา
ยังไงซะคนมองเยอะขนาดนี้ อลินดาสามารถเอะอะโวยวายได้ แต่เขาทำไม่ได้ นี่ถ้าหากถูกใครพบเข้า หลังจากนี้ยังจะอยู่ร่วมในสังคมได้ยังไง
“ไม่ใช่ว่าคุณไม่รู้ เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น แล้วต้องมาอารมณ์เสียกับผมตอนนี้ เข้าใจหน่อยไม่ได้หรอ?” จำรัสลดเสียงลง แต่ก็ยังทำให้จักรชัยได้ยินชัดเจน
จำรัสถึงตอนนี้ก็ยังไม่อยากเข้าใจ ได้มาอยู่ในกำมือ ทำไมถึงปล่อยให้คนอื่นซื้อไป แม้แต่พ่อของเขาก็ต้องยิ้มกว้างกับราคาเดิมที่ขายต่อ
แต่ดันเป็นเขาที่รับชอบเรื่องนี้ ถึงแม้ว่าไม่รู้ว่าระหว่างทางเกิดอะไรขึ้นกันแน่
แต่ทุกคนมาซื้อที่ดินผืนนี้โดยไม่มีเหตุผล ต้องมีสาเหตุแน่นอน จำรัสพ่อของเขานำปัญหาเรื่องนี้มาลงที่เขากะทันหัน
นี่ถ้าหากว่าลงมือเร็วอีกหน่อย ทั้งหมดก็ผลักดันเสร็จแล้ว สถานที่นี้แน่นอนว่าไม่ใช่ของพวกเขาตระกูลแจ่มจรัสแล้ว
ดังนั้นเงินเก็บของจำรัสไม่มีแล้ว แม้แต่บัตรเครดิตก็ถูกยึด ทั้งตัวนอกจากเงินสดที่เหลืออยู่น้อยนิดนั้น ไม่ต้องพูดถึงกระเป๋าของLVเลย แม้แต่ไปทานข้าวร้านอาหารเล็ก เกรงว่ายังยากเลย
“ฉันไม่สน ทั้งที่คุณรับปากฉันแล้ว และอีกสักพักต้องออกไปกินข้าวกับเพื่อนแล้ว ถ้าพวกเธอถามขึ้นมา ขายหน้าฉันแย่เลย!”
อลินดากอดแขนของจำรัสไว้ตลอดออดอ้อนอยู่ตรงนั้น น้ำเสียงนั้นทำให้จักรชัยรู้สึกขนลุก
นี่ถ้าหากปล่อยไว้เมื่อก่อนละก็ จำรัสจะได้รับประโยชน์มาก เดาว่าอดทนได้ไม่นานก็ซื้อกระเป๋านี้แล้ว แต่ตอนนี้ความจริงแล้วเขาโดนบังคับ ถึงแม้ว่าเขาอยากจะซื้อก็ไม่มีเงิน เห็นท่าทางที่ไม่ยอมฟังของอลินดา จำรัสอยากจะตบหน้าจริงๆ
“อลินดา ตอนนี้เป็นช่วงเวลาพิเศษ รอพ่อของผมอารมณ์ดีก่อน คุณอยากได้อะไรเมื่อไหร่ก็ได้ ทำไมต้องเป็นตอนนี้ด้วยล่ะ?”
“วันนี้คุณไม่ยอมซื้อให้ฉันวันหน้าคุณจะยอมซื้อให้ฉันได้ยังไง? ฉันไม่สน ถ้าหากว่าวันนี้คุณไม่ซื้อกระเป๋าใบนี้ให้ฉัน พวกเราใครก็อย่าหวังว่าจะได้ไป!”
อลินดาเหมือนจะทุ่มสุดตัว บั้นท้ายนั่งบนเก้าอี้ในร้านแล้วก็ไม่ยอมลุกขึ้น
จักรชัยทั้งสามคนแน่นอนว่าก็เห็นฉากนี้ มัลลิกาใช้มือโบกไปมาตรงหน้าของจักรชัย ขัดจังหวะสายตาของเขา
“ยังไง นั่นเป็นแฟนเก่านายหรอ? ไม่แปลกใจทำไมเท้าเล็กๆนี้ถึงไม่ขยับ” พูดจบก็จูงแขนของจักรชัยไปที่เคาร์เตอร์ ในมือยังถือกระเป๋าLVรุ่นใหม่ล่าสุด
ดอกเหมยก็เดินตามหลังทั้งสองคนไม่ใกล้ไม่ไกลนัก แล้วมองอลินดาด้วยสายตาดูถูก ในจุดที่ทั้งสองคนมองไม่เห็น
เมื่อตอนที่พวกเขาเดินผ่านอลินดาด้านนั้น มัลลิกาวางกระเป๋าที่อยู่ในมือเธอไว้บนมือของจักรชัย โดยตั้งใจถือกระเป๋าใบนั้นที่อลินดาถูกใจขึ้นมา ดูเหมือนจะชอบเอามากๆ
“กระเป๋าใบนี้กับผู้ช่วยของฉันน่าจะชอบจึงหยิบมาด้วยใช่มั้ย?” คำพูดนี้เป็นคำถามของจักรชัย
จักรชัยในตอนนี้สมองไม่ทำงาน ไม่เข้าใจว่าเธอต้องการทำอะไร เขาเพียงแค่พยักหน้าตอบสนอง
อลินดาในเวลานี้ถึงตระหนักว่ากระเป๋าของเธอได้ถูกคนอื่นหยิบไปแล้ว จึงรีบพรวดพราดไปตรงหน้าพนักงานขายทันที
“กระเป๋าใบนี้ฉันเล็งไว้แล้ว พวกคุณขายให้คนอื่นได้ยังไง?”
“จำรัส คุณรีบไปจ่ายเงินสิ ยืนบื้อทำอะไรอยู่?”
จำรัสหายใจเข้าลึกๆ พยายามข่มความโกรธที่อยู่ในใจ อลินดาต้องกดดันให้เขาสิ้นหวังทุกครั้งจริงๆ
ถ้าหากว่าไม่เห็นจักรชัยล่ะก็ ไม่ว่ายังไงเขาก็จะไม่ซื้อกระเป๋าใบนี้ แต่ตอนนี้เพื่อรักษาหน้าของเขา กระเป๋าใบนี้ไม่ซื้อไม่ได้
ทำได้เพียงกัดฟันหยิบเงินหนึ่งหมื่นที่ต้องเอาให้พ่อของเขาออกมาจากในกระเป๋า แม้ว่ากลับไปจะโดนด่า ก็คุ้มค่า
“ขออภัยคุณชาย กระเป๋าใบนี้ราคาหนึ่งหมื่นหกพันหกร้อยหกสิบหกค่ะ”
เป็นอีกครั้งที่จำรัสรู้สึกถึงความโหดร้ายของชีวิตเขา เงินก็หยิบออกมาแล้ว เขาไม่สามารถบอกว่าเงินไม่พอที่จะหยิบออกมาอีกแล้ว! คิดอยู่นาน ทำได้เพียงมองไปที่อลินดา ไม่ได้พูดออกมาตรงๆ แต่แววตานั้นควรแสดงออกมาอย่างไรก็ได้แสดงออกไปชัดเจนแล้ว
อลินดาเหมือนจะยังไม่มีท่าที เหมือนกับว่ามองไม่เห็น
เป้าหมายของมัลลิกาก็สำเร็จแล้ว แน่นอนว่าเธอจะไม่เสียเวลาอยู่ที่นี่กับพวกเขาอีกต่อไป หันไปพยักหน้าให้กับพนักงานขาย
อลินดาดูหน้าเศร้าไม่พอใจ พูดยังไงก็ไม่ยอมให้
ชั่วขณะ ทั้งสามคนก็ยืนอยู่ที่เดิม บรรยากาศกระอักกระอ่วนมาก พนักงานขายก็ละอายที่จะตรงเข้าไปคว้า ทำได้เพียงโน้มน้าวต่อไป แต่อลินดาเหมือนผู้หญิงดุร้าย จับกระเป๋าไว้แน่นตรงหน้าอกของตนเอง พูดยังไงก็ไม่ยอมลามือ
“ถ้าหากว่าคุณต้องการซื้อจริงๆ งั้นตอนนี้คุณก็ไปชำระบัญชี ฉันก็จะไม่ต้องการจากคุณแล้ว แต่ถ้าหากไม่ได้ก็รบกวนคุณปล่อยมือด้วย มิฉะนั้นพวกเราก็สามารถเรียกรปภมาได้!”
อลินดาได้ยินคำพูดของมัลลิกาก็รู้สึกโกรธ ชี้ไปที่จักรชัยแล้วเดินไปตรงหน้าเธอ
“ฉันจะบอกอะไรคุณให้ ตระกูลพวกเขาต้องชดใช้เงินบางส่วน แต่มากสุดวันนี้สามารถซื้อกระเป๋าใบหนึ่งให้คุณได้ รอจนถึงวันพรุ่งนี้มะรืนนีัคุณอาจจะมีสิ่งที่อยากได้แล้วก็ได้ ตระกูลของพวกเขาเป็นชาวนา ต่อให้เปลี่ยนยังไงก็เป็นแค่คนไร้จุดหมาย"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: moneybags พ่อฉันเป็นเจ้าสัว