สรุปเนื้อหา บทที่42 ชุดฟอร์มทำงาน – moneybags พ่อฉันเป็นเจ้าสัว โดย Light-Knight
บท บทที่42 ชุดฟอร์มทำงาน ของ moneybags พ่อฉันเป็นเจ้าสัว ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Light-Knight อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
บทที่42 ชุดฟอร์มทำงาน
พอจักรชัยเงยหน้าก็เห็นหญิงสาวใส่ชุดฟอร์มสีดำ เรือนร่างอันเย้ายวนดูดีไปหมด ดวงตาของเขามองลงไปบนเนินใหญ่นั้นอย่างไม่รู้ตัว
“ซี๊ด……ผมรู้สึกเหมือนขยับแขนไม่ได้!”
จู่ๆจักรชัยก็ค้อมตัวกอดแขนร้องโอดครวญขึ้นมา
ผู้หญิงคนนั้นตกใจจนไม่ได้ใส่ใจรองเท้าส้นสูงที่กระเด็นกระดอนออกไป เธอรีบเข้าไปพยุงจักรชัย。
“คุณชายจักรชัย รถฉันอยู่ข้างหน้า คุณขึ้นรถไปกับฉันก่อนเถอะค่ะ ฉันจะพาคุณไปโรงพยาบาล ถ้าหากว่าเป็นอะไรไป……”
คำพูดหลังหญิงสาวคนนั้นยังไม่ทันได้พูดต่อ สีหน้าเธอก็ซีดขาวขึ้น แล้วเม้มปากแน่น
จักรชัยเองก็ไม่เกรงใจเช่นกัน เขาเอนซบตัวลงไปบนสาวสวยคนนั้น พยุงปีกตัวเองมุ่งหน้าไปในทางที่เธอนำไป ทันใดนั้น จักรชัยหยุดมองผู้หญิงคนนั้น
“คุณรู้ได้ไงว่าผมชื่อจักรชัย?”น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเคลือบแคลงสงสัย
“คุณชายคะ ฉันเป็นเลขาส่วนตัวที่ประธานพลส่งมา ฉันชื่อว่าจริยา。”
“เลขาส่วนตัว!คุณไม่บอกแต่แรก”
จักรชัยพูดคำนี้ด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา จริยาฟังไม่ชัด จึงมองไปที่เขาเชิงสงสัย
คำพูดแบบนั้นจะให้เธอได้ยินได้ไงล่ะ จักรชัยจงใจยกแขนซ้ายของตัวเองขึ้น ตอนนั้นเขาเจ็บจนกัดฟันกรอด แต่ก็ยังพยายามยกขึ้นสองสามที จนจริยาที่อยู่ข้างๆเห็นสีหน้าอันตึงเครียด“คุณชายคะ อย่าขยับเลย บางทีตอนแรกอาจจะไม่ได้สาหัสอะไร แต่พอคุณทำแบบนี้ มันอาจจะหนักขึ้นนะคะ!”จริยาพูดด้วยน้ำเสียงตึงเครียด เธอรีบเข้าไปพยุงแขนซ้ายของจักรชัย
แต่ว่าแรงเธอจะไปสู้แรงผู้ชายได้อย่างไรล่ะ ดังนั้นเธอจึงต้องโถมตัวเข้าไป จึงจะพยุงปีกเขาไว้ได้
จักรชัยรู้สึกเพียงว่าตัวอ่อนไปหมด เป็นครั้งแรกที่เขาได้ซบลงไปตรงนั้นของผู้หญิง ไม่ต้องบอกก็รู้ได้ว่าในใจมีความสุขขนาดไหน เขารู้สึกตัวเบา เขารู้สึกจมูกร้อนขึ้นมา แล้วเหมือนมีอะไรไหลออกมา
“ร้อนในครับ ร้อนใน ก่อนหน้านี้บำรุงเยอะไปหน่อย!”
จักรชัยสาละวนรีบเอามือออกมาอุดจมูกไว้ เขาหันหลังด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน มือเรียวผอมบางยื่นออกมาอยู่ตรงหน้าเขา
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นมือของใคร ความรู้สึกแบบเมื่อครู่ออกมาอีกครั้ง ในชั่วขณะเลือดกำเดา
ไหลออกมาหนักกว่าเดิม จักรชัยรีบดึงกระดาษมาจากมือนั้น จากนั้นจึงผละมือเธอกลับไปเหมือน
เดิม
“คุณขึ้นรถไปก่อน ให้ผมจัดการให้เรียบร้อยแล้วผมตามขึ้นไป!”
พูดจบ จักรชัยจึงเดินไปทางทะเลสาปจำลอง จะไม่พูดก็ไม่ได้ หมู่บ้านนี้มีระดับพอสมควร แม้แต่อาคารขายก็มีต้นไม้ล้อมรอบ รอบๆบริเวณมีทะเลสาปน้อยใหญ่เต็มไปหมด
ความสนใจค่อยๆเบนกลับไปที่บ้านตัวเอง ความรู้สึกแรกค่อยๆหายไป เลือดกำเดาก็หยุดไหลแล้ว
เมื่อกลับไปที่รถอีกครั้ง จริยานั่งหน้าแดงก่ำอยู่ตรงที่นั่งคนขับ ทำไมจักรชัยถึงเลือดกำเดาไหล ในใจเธอชัดเจนดี จะให้เธอเชื่อได้อย่างไรว่าร้อนใน ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ตามขึ้นรถมาอย่างว่าง่าย เธอได้แต่ลอบมองไปที่เขาสองสามที เขาถูกสายตาเธอจ้องมองจนแข็งทื่อไปหมด จักรชัยจึงจุดบุหรี่ขึ้น
“ตอนนี้ผมทำงานอยู่ คุณพ่อส่งคุณมาทำอะไรน่ะ”
ด้วยความที่เกรงว่าตัวเองจะทำอะไรเปิ่นๆแบบเมื่อกี้ออกไปอีก เขาจึงรีบหาหัวข้อสนทนาเพื่อ
เบี่ยงเบนความสนใจ
“เพราะว่าประธานพลทราบว่าคุณชายซื้อคฤหาสน์มาหลังหนึ่ง และคิดว่าคุณชายก็เป็นคุณชายของตระกูลหัสบดินทร์ เลยอยากให้ฉันพาคุณชายทำความรู้จักกับธุรกิจของบริษัทค่ะ จากนั้นก็ให้เข้าไปทำงานในบริษัท ส่วนคฤหาสน์นี้ก็ให้ทิ้งไว้เป็นสินทรัพย์ ให้คุณชายกลับไปอยู่ที่บ้านค่ะ”
ไม่ได้กินข้าวมาทั้งวัน
เพิ่งนั่งลงตรงนั้น ก็นึกถึงคฤหาสน์สองหลังที่ซื้อวันนี้ ถ้าเป็นเมื่อก่อน เรื่องพวกนี้มอบหมายให้น้ำทิพย์ไปทำได้สบาย แต่ว่าน้ำทิพย์ยังคงอยู่ในโรงพยาบาล เรื่องพวกนี้เลยไม่มีใครช่วยเขา สายตาเขาจึงต้องตกอยู่ที่จริยาอย่างช่วยไม่ได้
“ในเมื่อคุณเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของผม ถ้าอย่างนั้นเวลามีเรื่องอะไร ผมก็มอบหมายให้คุณไปทำได้ใช่ไหม”
จริยายังไม่มีปฏิกิริยากับคำพูดของจักรชัยในตอนต้น แต่พอนึกถึงคำพูดที่ยศพลเรียกเธอไป
พูดในห้องทำงาน“รอบตัวลูกจักรชัยไม่มีใครที่พอใช้ได้เลย เขาเองก็ไม่ค่อยรู้เรื่องกิจการของตระกูลหัสบดินทร์ ถ้าหากว่าเขาเกิดไปเจอปัญหาอะไรเข้า เธอก็ช่วยเขาแก้ไขหน่อยก็แล้วกัน ถ้าแก้ไขไม่ได้ก็มาหาฉัน!”
คิดมาถึงตรงนี้ จริยาจึงพยักหน้าอย่างจริงจัง
“ประธานพลเคยพูดแบบนี้ คุณชายมีอะไรให้ฉันรับใช้คะ”
จักรชัยเองก็ไม่เกรงใจแล้ว จึงบอกจุดประสงค์ที่ซื้อคฤหาสน์สองหลังนั้น จริยาฟังจบจึงหยิบสมุดโน๊ตเล่มเล็กๆเล่มหนึ่งขึ้นมา แล้วจดลงไป
จากนั้นจึงโทรศัพท์ต่อหน้าจักรชัย ดูเหมือนกำลังมอบหมายบางอย่าง หลังจากที่วางสายโทรศัพท์จึงมองไปทางจักรชัย
“อีกสักครู่ก็จะมีคนในนามของน้ำทิพย์ ไปช่วยบ้านตระกูลแจ่มจรัสย้ายเข้าไปในคฤหาสน์ที่คุณชายซื้อไว้”จริยาพูดอย่างเอาการเอางาน ราวกับกำลังรายงานให้จักรชัยฟังอย่างไรอย่างนั้น
พยักหน้าอย่างพึงพอใจอย่างสุดขีด จริยาเป็นเลขาโดยสายเลือดจริงๆ เขายังไม่ทันได้พูดอะไร เธอก็รู้แล้วว่าต้องใช้นามของน้ำทิพย์ในการย้ายบ้านตระกูลแจ่มจรัส
“ที่แท้อยู่ตรงนี้เอง หาง่ายดี”
เสียงที่ดีใจระคนตื่นเต้นดังขึ้นข้างหูจักรชัย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: moneybags พ่อฉันเป็นเจ้าสัว