ตอนที่ 13 มีรอยนิ้วมือของคุณหนูซู – ตอนที่ต้องอ่านของ นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น
ตอนนี้ของ นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น โดย ชิงเซียวเทียน ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายInternetทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 13 มีรอยนิ้วมือของคุณหนูซู จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
"นี่ก็คือแหวนเพชรของฉัน!"สวีหว่านเอ๋อร์ที่รู้สึกดีใจ และก็มองซูฉิงอย่างดูถูก "ซูฉิง เป็นเธอจริงๆ ด้วยที่ขโมย! ตอนนี้มีทั้งพยานสิ่งของ พยานบุคคลแล้ว เธอยังมีอะไรจะพูดอีกมั้ย!"
พอเห็นแหวนเพชรอยู่ในกระเป๋าของหล่อนจริง ซูฉิงก็ยังคงมีสีหน้านิ่ง ไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบแต่อย่างไร
เพราะนี่คือสิ่งที่หล่อนคาดเดาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว
ตอนที่พนักงานชี้ยืนยันหล่อน ซูฉิงก็รู้ได้เลยว่าแหวนเพชรจะต้องอยู่ในกระเป๋าหล่อนแน่
หล่อนพูดคนใส่ร้ายแล้ว
และก็เห็นได้ชัดว่าคนที่ใส่ร้ายก็คือสวีหว่านเอ๋อ
"ซูฉิง ที่จริงแล้วเธอเอาแหวนเพชรมาคืนฉันพร้อมกับขอโทษฉัน ฉันก็จะไม่ถือสาเอาความแล้ว "หางตาของหล่อนก็เหลือบมองผู้ชายในดวงใจของหล่อนพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ซึ่งแตกต่างจากน้ำเสียงเย่อหยิ่งเมื่อสักครู่ที่พูดตัดสินคนอื่นไปแล้วก่อนหน้านี้มาก
"หว่านเอ๋อร์ เธอใจดีเกินไปแล้ว คนที่เป็นขโมยอย่างซูฉิง จะต้องไม่เป็นภรรยาที่ดีแน่! พวกเราไปแจ้งความเถอะ เรื่องนี้ให้ตำรวจจัดการเถอะ จะได้ยุติธรรม!"ไป๋หลานกับสวีหว่านเอ๋อร์พูดโต้ตอบกันเป็นอย่างดี
สวีหว่านเอ๋อร์พยักหน้า"งั้น ก็ไปแจ้งความเถอะ"
"ซูฉิง เธอทำเองก็รับเอง ขโมยของล้ำค่าขนาดนี้ ไม่ใช่โทษเล็กๆ รอเข้าไปนอนในคุกเถอะ!" ฮ่อเฉียนมองอย่างได้ใจ แล้วก็รีบพูดตัดขาดความสัมพันธ์กับซูฉิง
ซูฉิงยังคงมีสีหน้านิ่งราวกับเมฆลอยอยู่ เหมือนกับว่าคนที่ถูกชี้ตัวไม่ใช่หล่อน
แจ้งความหรอ เหมือนกับความคิดของหล่อนเลย
อยู่ต่อหน้าตำรวจ เพื่อที่จะดูว่าสวีหว่านเอ๋อร์ ยิ่งจะสนุก
"เรื่องอะไร"
น้ำเสียงของผู้ชายที่คุ้นเคยดังขึ้น ทำให้ฉุดความคิดของซูฉิงกลับมา
พอเงยหน้าขึ้น ผ่านม่านตาของหล่อนเป็นเงาของฮ่อหยุนเฉิง
ชุดสูทสั่งตัดที่ดูเหมาะสมทำให้เขาดูมีภูมิฐาน ใบหน้าที่ดูหล่อมาดแมนทรมานใจสาว แววตาแหลมคมทั้งสอง และบวกกับไฟของห้องงานเลี้ยงส่องลงมาที่ตัวของเขา ทำให้เขาดูดีหล่อทำให้คนอดที่จะชื่นชมไม่ได้
"คุณชายฮ่อ!"
กลุ่มคนต่างก็แหวกออกเป็นสองฝั่งและถอยหลีกทางให้เป็นทาง ฮ่อหยุนเฉิงก็ก้าวเดินมาอย่างมั่นคงเพื่อเดินเข้ามาหาซูฉิง
"หยุนเฉิง ซูฉิงขโมยแหวนเพชรของฉัน "สวีหว่านเอ๋อร์พูดฟ้องก่อน แล้วก็ทำเป็นกัดริมฝีปากพูดอย่างน่าสงสาร"เป็นของที่คุณปู่มอบเป็นของขวัญวันเกิดให้กับฉัน"
ฮ่อหยุนเฉิงคิ้วขมวด แล้วก็อ้าปากขึ้นพูด"ไม่ใช่หล่อน"
หึม?
ซูฉิงตกใจ ฮ่อหยุนเฉิง.........เขามาช่วยหล่อนพูดงั้นหรอ
"พี่คะ พี่อย่าให้เธอหลอกนะ! "ฮ่อเฉียนไม่รอให้สวีหว่านเอ๋อร์พูดอีกครั้ง ก็พูดขึ้นก่อน :"มีคนเห็นกับตาว่าซูฉิงขโมยแหวนเพชรของพี่สวีไป และเมื่อกี้ยามได้เจอแหวนเพชรในกระเป๋าของซูฉิง พวกเรามีคนตั้งมากมาย แววตาตั้งหลายคู่ก็มองเห็นกับตา!"
"ใช่แล้ว ที่จริงแล้วฉันก็ไม่อยากจะเชื่อว่าคุณหนูซูจะขโมยของได้ เพราะว่าเป็นคู่หมั้นของคุณ แต่ว่า...."
สวีหว่านเอ๋อร์พูดไปครึ่งหนึ่งแล้วก็หยุด แล้วก็เข้าไปใกล้กับฮ่อหยุนเฉิน แล้วก็ทำหน้าตาน่าสงสาร "ทุกคนต่างก็เห็นกันหมด พวกเราทุกคนล้วนเห็นว่าแหวนของฉันอยู่ในกระเป๋าของเธอ แหวนคงไม่มีขาวิ่งเขาไปเองหรอกใช่มั้ย หยุนเฉิง คุณคงไม่แก้ตัวให้กับซูฉิงหรอกใช่มั้ย"
และกลิ่นความแรดนี่ลอยมาแล้ว ซูฉิงยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม เทคนิคการแสดงละครของสวีหว่านเอ๋อร์ ไม่ไปเล่นละครนี่น่าเสียดายมาก ไม่งั้นรางวัลออสก้าคงตกเป็นของเธอแน่
ได้ยินคำของสวีหว่านเอ๋อร์ สายตาที่อ่านไม่ออกของฮ่อหยุนเฉิงก็หันไปมองที่ตัวของซูฉิง แล้วก็ถามเสียงเรียบ"เธอได้เอาไปมั้ย"
ซูฉิงสบตาของเขา ก็ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า"ถ้าหากฉันบอกว่าไม่ นายจะเชื่อฉันมั้ย"
"ฉันเชื่อ " เหมือนกับว่าจะไม่ใช่ความคิดแบบปลอมๆ ฮ่อหยุนเฉิงพูดออกมา
ซูฉิงคิ้วขมวดเป็นปม "ที่จริงง่ายมาก ถ้าหากว่าฉันเป็นคนเอาไปจริงๆ งั้นที่แหวนจะต้องมีรอยมือของฉันสิ ขอแค่ให้ผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบรอยนิ้วมือ ก็จะสามารถรู้ความจริงแล้ว"
"ซูฉิง เธออย่ามาทำเป็นเล่น"สวีหว่านเอ๋อร์มองซูฉิงแล้วก็หันไปมองฮ่อหยุนเฉิง แล้วทำเป็นใจกว้าง "เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เธอเอ่ยขอโทษฉัน ฉันก็จะเห็นแก่หน้าหยุนเฉิงจะไม่ถือสาเรื่องนี้"
ขอแค่ซูฉิงเอ่ยขอโทษเธอ ก็แสดงว่าซูฉิงเป็นคนขโมยแหวนไป และก็ถือเป็นการยอมรับผิดต่อหน้าสาธารณชนว่าตัวเองเป็นขโมย
แม้ฮ่อหยุนเฉิงจะเชื่อหล่อน ขอแค่หล่อนเป็นคนเอ่ยปากพูดออกมาเอง ฮ่อหยุนเฉิงจะต้องผิดหวังมากแน่
และยิ่งไปว่านั้น คุณนายฮ่อจะต้องไม่ยอมรับลูกสะใภ้ที่เป็นขโมยหรอก
หล่อนยังทำเป็นจิตใจดี ทำเป็นใจกว้างให้ภาพพจน์ดูดี และก็ยังทำให้ตนดูดีในสายตาของฮ่อหยุนเฉิงขึ้นมาบ้าง ถือเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นักสองตัว
ซูฉิงมองหล่อนด้วยสายตานิ่ง "ทำไม คุณหนูสวีไม่กล้าตรวจสอบหรอ"
แววตาของซูฉิงเหมือนมองออกทุกอย่างแล้ว สวีหว่านเอ๋อร์ที่ถูกจ้องมองอยู่ก็รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง กัดฟันแล้วพูดขึ้นว่า"ซูฉิง ในเมื่อเธอยังมีหน้าที่อยากจะตรวจรอยนิ้วมือ ฉันไม่ไม่กล้าได้ยังไง"
"ได้สิ งั้นก็เชิญตำรวจมาตรวจสอบจะได้รู้ชัดเจน "ซูฉิงที่นิ่งไม่มีท่าทีตื่นตระหนกเลย
หล่อนไม่เคยแตะแหวนเพชรเลย บนแหวนจะต้องไม่มีรอยนิ้วมือของหล่อนแน่ ขอแค่ตรวจรอยนิ้วมือเพื่อเป็นการยืนยันความบริสุทธิ์ของหล่อนได้แล้ว
"หยุนเฉิง คุณดูสิ ........."ท่านฮ่อใช้สายตามองและถามฮ่อหยุนเฉิง เพราะซูฉิงเป็นคู่หมั้นของเขา
ฮั่วหยุนเฉิงต่อสายโทรออกไป เพียงไม่นานหัวหน้านายตำรวจของสถานีตำรวจมาพร้อมกับเพื่อนร่วมงานก็มาตรวจสอบหลักฐานด้วยตัวเองที่ห้องจัดเลี้ยง
"ประธานฮ่อ นี่คือพนักงานพิสูจน์หลักฐานที่ดีที่สุดของพวกเรา"หัวหน้าตำรวจผลักพนักงานคนนั้นให้ก้าวเดินมาข้างหน้า พร้อมกับโค้งคำนับพูด
ตำรวจที่พนักงานพิสูจน์หลักฐานใช้เวลาตรวจสอบไม่นานก็รู้ผล เขากระแอมลำคอแล้วพูด"ตามผลของการตรวจสอบ บนแหวนมีรอยนิ้วมือของคุณหนูซูครับ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น