นี่ควรจะเป็นพิธีหมั้นที่มีชีวิตชีวาและยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก แต่ก็จบลงอย่างเงียบ ๆ แบบยังไม่ทันได้เริ่มด้วยซ้ำ
หัวใจของซูฉิงรู้สึกไม่สบายใจราวกับว่าถูกค้อนทุบ
"ซูฉิง เธอมันยัยเลว ทำร้ายคุณปู่จนไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดียังไง สะใจแล้วใช่ไหม?" ฮ่อเฉียนที่สวมส้นสูงชี้หน้าด่าซูฉิง
"ซูฉิง หากเกิดอะไรขึ้นกับชายชราล่ะก็ เราบ้านตระกูลฮ่อจะไม่ปล่อยเธอไปแน่!" แม่ฮ่อเองก็ไม่ลืมซ้ำเติม ทั้งยังยกมือตบไปยังหน้าซูฉิง
นัยน์ตาของซูฉิงนิ่งลง เธอจับมือแม่ฮ่อก่อนจะผลักกลับ "คุณปู่ฮ่อมีอาการหัวใจวาย ฉันเองก็รู้สึกเสียใจมาก แต่คุณกล้าพูดว่าที่อาการป่วยของคุณปู่ฮ่อไม่เกี่ยวกับพวกคุณงั้นเหรอ? เมื่อกี้ใครกันล่ะที่เอาแต่พูดกระตุ้นเขา?"
"กล้าดียังไงมาแก้ตัว!" ฮ่อเฉียนรีบเข้าประคองแม่ฮ่อ "คุณน้าไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ?"
เหล่านักข่าวไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ ต่างพากันมารุมบ้อมและคอยถามคำถามซูฉิง:
"คุณซูคะ ไม่ทราบว่าคุณคิดยังไงกับอาการป่วยของท่านผู้เฒ่าฮ่อคะ?"
"คุณซูคะ ไม่ทราบว่าคุณมีแผนในอนาคตยังไงบ้างคะ?"
"คุณซูคะ คุณช่วยบอกเหตุผลที่คุณกับประธานฮ่อยกเลิกการหมั้นได้ไหมคะ?"
"..."
ซูฉิงขมวดคิ้วและดันนักข่าวออกอย่างไม่สบอารมณ์ "ขอโทษนะคะ ฉันไม่รับการสัมภาษณ์ค่ะ!"
ดวงตาของฮ่อเฉียนเป็นประกาย นี่ไม่ใช่โอกาสที่ดีที่จะป้ายสีซูฉิงหรอกหรือ?
เธอรีบกวักมือเรียกนักข่าว "พวกคุณมาสัมภาษณ์คุณน้ากับฉันได้นะคะ"
นักข่าวที่ทำอะไรไม่ได้จึงทยอยไปรุมล้อม
ฮ่อเฉียนกระแอมในลำคอและกล่าวว่า "ทุกท่านเองก็ได้เห็นแล้ว วันนี้คุณปู่ของฉันมีอาการหัวใจวาย และทั้งหมดเป็นเพราะซูฉิงไปกระตุ้นค่ะ!
ในนามของบ้านตระกูลฮ่ ฉันขอแจ้งให้ทุกท่านทราบว่าบ้านตระกูลฮ่อของเราไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้หญิงที่ชั่วร้ายอย่างซูฉิง!"
เหล่านักข่าวต่างพากันพยักหน้า
ซูฉิงที่ถูกกล่าวหา เธอไม่ต้องการฟังอีกต่อไปจึงแสยะยิ้ม "ฮ่อเฉียน เธอเป็นเพียงลูกสาวบุญธรรมที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบ้านตระกูลฮ่อ แล้วเธอมีสิทธิ์อะไรเป็นโฆษกบ้านตระกูลฮ่อ?"
เมื่อถูกซูฉิงเปิดเผยว่าเธอเป็นเด็กที่ถูกรับเลี้ยงต่อหน้าสาธารณชน ใบหน้าของฮ่อเฉียนก็ซีด เธอหันมองและต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ซูฉิงกลับเมิน
หลังจากพูดจบ ซูฉิงก็ออกไปทันที
ยวี๋น่าและเฉินจุนเหยียนพากันเดินเข้ามา "ซูฉิง ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?"
"พวกเธออย่าตามฉันมา ให้ฉันอยู่คนเดียวสักพักนะ" ซูฉิงเงยหน้าขึ้นมองพวกเขาและพูด
เธอรู้ว่ายวี๋น่าและเฉินจุนเหยียนห่วงใยเธอ
แต่ ณ เวลานี้ เธอแค่อยากจะอยู่คนเดียว
ว่ายวี๋น่าและเฉินจุนเหยียนมองหน้ากันและต้องการจะพูดอีกหน่อย ทว่าใบหน้าซูฉิงกลับนิ่งขรึม "ไม่ต้องกังวล ฉันสบายดี ฉันแค่อยากอยู่เงียบๆ"
"แต่ว่านะซูฉิง..."
เฉินจุนเหยียนคิดจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ยวี๋น่าก็ดึงเขาไว้ "เอาเถอะ ให้ซูฉิงเธออยู่เงียบๆ สักพักแล้วกัน"
คืนนี้มีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย เป็นคนอื่นก็คงรับไม่ไหว
แต่ยวี๋น่าเชื่อในตัวซูฉิงว่าสามารถจัดการทุกอย่างได้ดี
ซูฉิงเดินออกจากประตูโรงแรมไปในสายตาที่ประหม่าและวิตกกังวลของเฉินจุนเหยียน
เดินคนเดียวบนถนน ไฟนีออนริมถนนเปลี่ยนสีและส่องแสงไปยังซูฉิง
ความคิดของซูฉิงนั้นค่อนข้างวุ่นวาย
เธอไม่รู้ว่าคืนนี้เธอทำอะไรผิดหรือเปล่า ถ้าเธอไม่ประกาศยกเลิกงานหมั้นต่อหน้าสาธารณะ คุณปู่อาจจะไม่มีอาการหัวใจวายจนตอนนี้นอนรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล
แต่ว่าแม้ว่าเธอจะไม่ประกาศยกเลิกการหมั้น ฮ่อหยุนเฉิงก็ยังตัดสินใจเหมือนเดิม
เพราะถังถังของเขากลับมาแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น