นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น นิยาย บท 281

"อืม "ซูฉิงนวดขมับ

ไม่รู้ว่าเป็นใคร ที่อยู่เบื้องหลังทำร้ายเธอ

และทันใดนั้นเอง ก็ได้ยินเสียงหลินเหยียนเฟิงมาเคาะประตู"ท่านประธาน ผมเข้าไปได้มั้ยครับ"

ฮ่อหยุนเฉิงส่งเสียงดัง "เข้ามา!"

จากนั้นหลินเหยียนเฟิงก็ผลักประตูเดินเข้ามา แล้วเดินเข้าไปหาฮ่อหยุนเฉิง โค้งคำนับพูด"ท่านประธาน ได้ข่าวมาแล้วครับ"

"เกี่ยวกับคนที่อยู่เบื้องหลังบงการเฉินห้าวตงหรอ"ซูฉิงถามขึ้นมาทันที

"ใช่ครับ คุณซู"หลินเหยียนเฟิงพยักหน้า

"สืบได้ว่าใคร อยู่เบื้องหลังบงการเฉินห้าวตงแล้วงั้นหรอ"ซูฉิงถามด้วยน้ำเสียงร้อนรน

เธออยากจะรู้มาก ว่าใครกันที่เกลียดเธอ ถึงกับจ้างเฉินห้าวตงมาฆ่าเธอ

"เป็นอู๋ชิงหร่านครับ "หลินเหยียนเฟิงพูดเสียงเรียบ

อู๋ชิงหร่าน?

ซูฉิงอึ้ง

เป็นเธอ!

ซูฉิงไม่ใช่ไม่เคยคิดมาก่อน เพราะก่อนหน้านี้อู๋ชิงหร่านจะเกลียดเธอเข้ากระดูกดำเลย หลายครั้งที่ลงมือทำร้ายเธอ

แต่ว่า ตอนนั้นอู๋เจ๋อเฉิงพาตัวอู๋ชิงหร่านกลับไปแล้ว ก็พูดรับประกันกับเธออีกครั้งว่าจะไม่ให้เธอออกมาก่อนเรื่องได้อีก

อีกทั้งซูฉิงก็ไม่คิดว่าจะมีอำนาจมากพอที่จะเรียกเฉินห้าวตงมาได้

หลินเหยียนเฟิงเหมือนจะดูออกว่าซูฉิงกำลังสงสัยอยู่เลยยื่นรูปให้กับซูฉิงดูหนึ่งใบ

ซูฉิงรับมา ก้มมองดูรูป

เป็นรู้ที่อู่ชิงหร่านกับเฉินห้าวตงอยู่ด้วยกันอย่างสนิทชิดเชื้อ

หลินเหยียนเฟิงพูดอธิบายว่า "เมื่อก่อนเฉินห้าวเฟิงเคยตามจีบอู๋ชิงหร่าน เขาได้ดีได้ทุกวันนี้ก็ถือว่าไม่เลวแล้ว แต่ก็ลืมอู่ชิงหร่านไม่ลง ทั้งสองเลยร่วมมือกัน"

"เป็นอย่างนี้นี่เอง"ซูฉิงหรี่ตาลงอย่างรู้แจ้ง

อู๋ชิงหร่านผู้หญิงคนนี้ บ้าไปแล้วจริงๆ!

"แล้วหาตัวอู๋ชิงหร่านเจอมั้ย"ใบหน้านิ่งเครียดของฮ่อหยุนเฉิงถามเสียงขรึม

หลินเหยียนเฟิงส่ายหน้า"ไม่เจอครับ"

"งั้นนายมายืนบื้ออยู่ทำไม ยังไม่รีบไปตามหาอีก"ฮ่อหยุนเฉิงกัดริมฝีปากแล้วพูดเสียงเย็นเยือก

"ครับ ท่านประธาน! " หลินเหยียนเฟิงรับตอบรับคำสั่ง แล้วหันหลังเดินออกไป

แล้วพูดบ่นใจใน ท่านประธานจะต้องไม่ชอบที่เขาไปเป็นก้างขวางคออีกแล้ว.........

ซูฉิงรู้สึกเจ็บที่แขนเล็กน้อย เลยเปลี่ยนท่า จากนั้นก็ยื่นแขนออกมานวด

"ฉันช่วยเธอนวด"ฮ่อหยุนเฉิงมองซูฉิงที่กำลังนวดตัวให้ตัวเองอย่างลำบาก เลยรีบจับมือเรียวยาวของเธอมาแล้วก็ค่อยๆ นวดให้เธอเบาๆ

เขาที่มีท่าทางทำให้อย่างระมัดระวัง เหมือนกับว่าเธอเป็นของล้ำค่าของเขา

ซูฉิงก็อดที่จะหัวเราะขึ้น"นายไม่ต้องระวังขนาดนั้น ฉันไม่ใช่แจกันดอกไม้สักหน่อย"

"แต่ว่าฉันรู้สึกถนุถนอมนี่"เขาพูดออกมาจากจริงจัง

ซูฉิงก็ถึงกับอึ้งพูดไม่ออก ริมฝีปากแดงชมพูเม้มลง

เธอรู้สึกเขิน และก็อยู่ในสายตาของฮ่อหยุนเฉิง

สองตาคู่นี้ที่จ้องตากัน เหมือนอากาศหยุดไว้เพียงเท่านี้

"เอ่อ........"ซูฉิงรู้สึกประหม่า อยากจะเปลี่ยนเรื่อง

แต่เธอที่ยังไม่ทันคิด ยังไม่ทันพูดอะไร ฮ่อหยุนเฉิงก็ยกมือใหญ่ของเขาขึ้นมา แล้วจับเข้าที่ท้ายทอยของเธอ แล้วก็ค่อยขยับเข้ามาจูบริมฝีปากบางของเธอ

ท่าทางที่คล่องแคล่วของฮ่อหยุนเฉิงที่เอาลิ้นสอดเข้าไปในปากของซูฉิงแล้วก็ตวัดพันกัน

เขาไม่ได้รีบร้อนหรือเอาแต่ใจ กลัวว่าแผลที่เธอเจ็บ เลยค่อยๆ อย่างอ่อนโยนมากที่สุด

มีเพียงมือที่จับที่ท้ายทอยของเธอ ส่วนอีกมือก็พยุงหลังของเธอไว้ ให้เธออยู่ในท่าทีสบายที่สุด

ความอ่อนโยนของเขา ทำให้ถึงกับตัวอ่อน.......

และทันใดนั้นเอง แอนโธนี่ก็เปิดประตูเข้ามาอย่างพลการ"พี่ซู ในที่สุดพี่ก็ฟื้นแล้ว สองวันมานี้ผมเป็นห่วงพี่จนกินไม่ได้นอนไม่หลับเลย!"

แอนโธนี่สืบได้เรื่องเกี่ยวกับถังรั่วอิง อยากจะบอกกับซูฉิง แต่กลับติดต่อซูฉิงไม่ได้ เขาเป็นห่วงว่าจะเกิดเรื่องขึ้นกับซูฉิงและพอถามก็ถึงได้รู้ว่าซูฉิงเข้าโรงพยาบาล

และพอได้ข่าวจากโรงพยาบาลว่าซูฉิงฟื้นแล้ว ก็รีบมาทันที

พอผลักประตูเข้ามา ก็เห็นทั้งสองคนจูบกับอย่างดูดดื่ม และยังมีความรู้สึกเหมือนกับคนตกอยู่ในห้วงแห่งรัก

ตอนนี้เขาก็รู้สึกประหม่าขึ้นมาทันที

"เอ่อ......."

แอนโธนี่ที่ตอนนี้เผยหน้าแข็งทื่อ"อะแฮ่ม ขอโทษด้วยครับที่รบกวน ผมมาผิดเวลาแล้ว!"

เขาที่เมื่อกี้เป็นห่วงเกินไปเลยลืมเคาะประตู!

แอนโธนี่ที่พอหันหลังให้เตรียมจะออกไป

ใบหน้าร้อนผ่าวของซูฉิงก็ผลักฮ่อหยุนเฉิงออก มองเข้าด้วยสีหน้าอย่างเอาเรื่อง แล้วรีบเบี่ยงหน้าไปทางอื่น

ซูฉิงมองไปที่หน้าประตู มองเบื้องหลังของแอนโธนี่ที่หันหลังให้เขาแล้วพูดเสียงขรึม"นายยังไม่เข้ามาอีก"

ทำให้เธอรู้สึกอายมากเลย!

แอนโธนี่ถึงได้หันกลับมา แล้วก็ทักทายฮ่อหยุนเฉิง "เรื่องบังเอิญจริงๆครับ ประธานฮ่อ ผมมาหาพี่ซูเพราะมีธุระ"

เขามองซูฉิงแล้วทำหน้าจริงจัง "คุณวางใจเถอะ ครั้งหน้าเข้ามาผมจะเคาะประตูแน่นอน!"

แอนโธนี่ไม่พูดก็ดีอยู่แล้ว พอพูดขึ้นมา ก็ยิ่งทำให้ซูฉิงอายยิ่งกว่าเดิม

เธอขยับไปข้างๆ เพื่อรักษาระยะห่างกับฮ่อหยุนเฉิง

ฮ่อหยุนเฉิงมองซูฉิงออก ถึงแม้ว่าใบหน้าจะเรียบเฉย แต่ใบหูกลับแดงระเรื่อ

เขายกยิ้ม ขำเบาๆ นั่งพับแขนโดยไม่พูดอะไร มีเพียงแววตานิ่งลึกที่มองเธอตลอด

"ดื่มนี่เถอะ"แอนโธนี่ก็ไม่พูดเรื่องหน้าอายอีก "นี่คือซุปที่ผมให้คนตั้งใจทำให้พี่ได้บำรุง ให้พี่มีกำลังวังชารับรองว่าได้ผลแน่ "

"ขอบใจนะ"ซูฉิงยกยิ้ม พอดื่มเข้าไป น้ำซุปอุ่นๆ ก็อุ่นผ่านไปถึงลำไส้ที่เย็นมาสองวัน

พอเห็นอาการของซูฉิงดีขึ้นบ้างแล้ว แอนโธนี่ก็นั่งที่เก้าอี้ข้างๆ มองซูฉิงเหมือนจะพูดอะไรแล้วก็หยุด

ซูฉิงก็เข้าใจทันทีว่าเขามีเรื่องอะไรจะพูด

ทั้งสองอยู่ในสายตาของฮ่อหยุนเฉิงตลอด และความหมายก็ชัดเจนว่า หวังว่าเขาจะหลีกทางให้หน่อย

แต่ฮ่อหยุนเฉิงก็ไม่มีทีท่าว่าจะหลีกทางออกไปให้

เขาไม่อยากให้ซูฉิงอยู่กลับผู้ชายสองต่อสองแม้แต่นิดเดียว

ซูฉิงทำได้เพียงกระแอมลำคอแล้วเอ่ยสั่งอย่างเกรงใจ"ฮ่อหยุนเฉิง นายออกไปก่อนได้มั้ย"

"มีเรื่องอะไร ฉันรู้ด้วยไม่ได้หรอ"ฮ่อหยุนเฉิงมองด้วยนิ่ง

ซูฉิงจ้องเขาอย่างไม่สบอารมณ์"ให้นายออกไป นายก็ออกไปสิ!"

เห็นซูฉิงมีท่าทีอย่างนี้ ฮ่อหยุนเฉิงก็จนใจ แล้วก็ยกเท้าลง แล้วเดินล้วงกระเป๋าออกไปจากห้องพักผู้ป่วย "พวกเธอคุยกัน หากมีอะไรก็เรียกฉัน"

ตอนนี้ภายในห้องพักผู้ป่วยก็เหลือเพียงแอนโธนี่ กับซูฉิงเพียงสองคน

แอนโธนี่ก็ถามอย่างเป็นห่วง "พี่ada พี่เป็นอะไรมากมั้ย"

ซูฉิงยิ้ม"ฉันไม่ใช่อาการดีแล้วหรอ"

แอนโธนี่พยักหน้า "พี่ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ก่อนหน้านี้พอรู้ว่าพี่เกิดเรื่อง ผมเป็นห่วงพี่มาก"

"มาหาฉันมีเรื่องอะไร "ซูฉิงเอ่ยถาม

แอนโธนี่หยิบเอาโทรศัพท์ออกมาแล้วเปิดข้อมูล "ผมสืบข้อมูลเกี่ยวข้องกับถังรั่วอิงได้มาบ้าง"

"หรอ"ซูฉิงดีใจ "ข้อมูลอะไร"

"พี่ดูรูปนี้สิ"แอนโธนี่เปิดรูปถ่ายแล้วยื่นให้ซูฉิงดู

ซูฉิงหันไปจ้องดูรูปที่หน้าจอ

ในรูป เป็นหญิงวัยรุ่นอายุประมาณสิบห้าปี และอีกคนเป็นชายวัยรุ่นอายุประมาณ20 กว่าปี

หญิงวัยรุ่นถักผมเปียหางม้า แล้วสวมชุดเดรสสีขาว ซูฉิงดูออกได้ทันทีว่าเป็นถังรั่วอิง

และผู้ชาย......ถ่ายเห็นเพียงด้านข้าง ดูแล้วคุ้นๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น