ซูฉิงนั่งอยู่ด้านข้างฮ่อหยุนเฉิง หลังจากครุ่นคิดอย่างสงบเป็นเวลาห้านาที เธอก็มีความคิดเกิดขึ้น
แม้ว่าที่นี่จะเป็นป่า แต่ก็อยู่นอกเมือง จึงไม่ควรมีสัตว์ร้ายใด ๆ รวมทั้งซูฉิงยังมีความรู้เกี่ยวกับการเอาชีวิตรอดในป่าไม่น้อย ไม่น่าจะยากสำหรับเธอที่จะออกจากที่นี่คนเดียว
แต่ตอนนี้ฮ่อหยุนเฉิงหมดสติ เธอจะไม่มีวันทิ้งฮ่อหยุนเฉิง
ดังนั้นหากต้องไป เธอต้องทำแพ
แพนี้ไว้ลากฮ่อหยุนเฉิง พอดีกับพื้นที่ของที่นี่ ชืนและลื่นพอที่จะไถลได้ และยังมีเถาวัลย์ให้ใช้อีกจำนวนมาก
ความคล่องตัวของซูฉิงนั้นสูงมาก เธอพบว่ามีกิ่งไม้ร่วงอยารอบๆ จำนวนมาก กิ่งเหล่านี้มีขนาดประมาณแขนของผู้ใหญ่ และความยาวเพียงพอ ใช้เถาวัลย์มัดไว้ด้วยกันก็เพียงพอที่จะรองรับน้ำหนักของฮ่อหยุนเฉิง
เมื่อเธอผูกแพ เธอตระหนักว่าเถาวัลย์นั้นแข็งแร็งมาก ไม่น่าแปลกใจเลยที่รับน้ำหนักพวกเขาได้
นี่ถึงทำให้ซูฉิงวางใจ
แต่สิ่งที่เธอกังวลก็คือในเมื่อเธอและฮ่อหยุนเฉิงถูกพันด้วยเถาวัลย์ไว้จึงรอดตาย เกรงว่าคนบ้าอย่างอู๋ชิงหร่านเองก็คงไม่เป็นไร
ขอแค่อู๋ชิงหร่านยังมีชีวิตอยู่ หลังจากเธอออกไปได้ ไม่มีทางปล่อยอู๋ชิงหร่านไปแน่!
ซูฉิงยับยั้งจิตใจ ก้มหน้าก้มตาผูกแพ
แม้ว่ากิ่งไม้เหล่านี้จะหนา แต่มีความยาวต่างกัน ซูฉิงจำเป็นต้องฝนให้ยาวเท่ากัน เครื่องมือเพียงหนึ่งเดียวคือหิน แต่น่าเสียดายที่หินนั้นทื่อมาก เธอจึงใช้เวลาส่วนใหญ่ในการฝนกับหิน ทำให้นิ้วของเธอเสียดสีกับหินและกิ่งไม้จนได้รับบาดเจ็บ
หน้าผากซูฉิงมีเหงื่อเย็นๆ ผุดขึ้น กัดฟันทำต่ออย่างแน่วแน่
ฮ่อหยุนเฉิงสละชีวิตเพื่อเธอได้แล้วทำไมเธอจะทำไม่ได้?
ใช้เวลาไปประมาณชั่วโมงกว่า นิ้วทั้งสิบของซูฉิงฝนจนเลือดออก ในที่สุดก็ต่อแพเสร็จ
เธอใช้กำลังทั้งหมดนำฮ่อหยุนเฉิงไปวางบนแพร จากนั้นใช้เถาวัลย์มัดเขาให้ติดกับตัวแพ
เมื่อทำแบบนี้ขณะซูฉิงลากแพ เขาจะได้ไม่ไถลลงมาเพราะแรงสั่นสะเทือน
หลังจากทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ซูฉิงก็ไปยังที่ที่เธอสามารถมองเห็นท้องฟ้าเพื่อคำนวณเวลา อีกประมาณสามหรือสี่ชั่วโมงฟ้าจะมืด พอดีบนท้องฟ้ายังสามารถมองเห็นแสงตะวันรอน ทำให้ซูฉิงวิเคราะห์ทิศทางได้
ซูฉิงคำนวณไว้ว่าหากโชคดี เธอจะสามารถพาฮ่อหยุนเฉิงออกจากป่าผืนนี้ก่อนฟ้ามืด
แต่ถ้าหากโชคไม่ดี
……
ซูฉิงหยุดคิดในใจ ผูกปลายเถาวัลย์ด้านหนึ่งไว้ที่เอว และเดินไปยังทิศที่เธอเลือกอย่างยากลำบาก
ทว่าซูฉิงประเมินน้ำหนักรวมของแพและฮ่อหยุนเฉิงต่ำไป รวมแล้วถึงร้อยกิโลกรัม กินแรงอย่างมากเมื่อเธอลากมัน
แต่ซูฉิงกัดริมฝีปากแน่น กัดจนเลือดออก ในปากคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นเลือด เธอยังคงแน่วแน่อย่างมาก
ราวกับได้รับการสนับสนุนจากเจตจำนงอันแข็งแกร่ง ชูชิงก็ก้าวไปทีละก้าว
ไม่รู้ว่าเมื่อไรที่ซูฉิงมองสิ่งที่เห็นเบื้องหน้าไม่ชัดเจน ท้องฟ้าที่ไม่ทราบเวลาก็มืดสนิทลง
หรือพวกเขาจะต้องตายในสถานที่แบบนี้หรือ?
ไม่ ไม่ได้!
เธอจะปล่อยให้ฮ่อหยุนเฉิงตายไม่ได้!
ซูฉิงยิ่งหมดแรงไปเรื่อยๆ รองเท้าที่เธอสวมเมื่อตอนตกจากหน้าผานั้นก็ไม่รู้ว่าร่วงตรงไหนไปนานแล้ว
เธอเลยเท้าเปลือยเปลา ตลอดทาง เท้าของเธอก็ถูกเสียดสีจนไร้ความรู้สึก
เรี่ยวแรงที่สูญเสีย สายตาที่พร่าเบลอ ทั้งยังกระหายน้ำอย่างที่สุด ค่อยๆ ทรมานซูฉิงทีละนิด
เธอกัดฟันมุ่งมั่นต่อ
ปึก
เธอบังเอิญสะดุดก้อนหินที่ใต้เท้าของเธอ ทั้งตัวล้มลงไปกับพื้น
ซูฉิงล้มลงกับพื้น มองไปทางฮ่อหยุนเฉิงที่ยังคงหมดสติใบหน้าไร้สีเลือดบนแพ ความสิ้นหวังที่เธอไม่เคยพบพานมาก่อน แพร่ไปทั่วทุกเซลล์ในร่างกายของเธอ
ซูฉิงเลียริมฝีปากที่แตกและซีดขาวของเธอเบา ๆ พยายามลุกขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น