"เฮ้อ..." ซูฉิงถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ วางปากกาในมือลงบนโต๊ะและอธิบายกับฮ่อหยุนเฉิงอย่างจริงจังและอดทน "พวกนั้นนักข่าวเอาไปเขียนมั่วเอง ฉันไม่เคยพูดเลย นายก็อย่าหึงไปทั่วได้ไหม? ฉันให้ฝ่ายประชาสัมพันธ์จัดการเรื่องนี้แล้ว"
ฮ่อหยุนเฉิงอยู่กับซูฉิงมาตั้งนานขนาดนี้ แน่นอนว่าเขารู้ว่าเธอเป็นคนแบบไหน แต่ที่หึงก็เป็นเรื่องปกติที่เลี่ยงไม่ได้
แต่แฟนเขาก็ได้อธิบายแล้ว ดังนั้นไม่ว่าฮ่อหยุนเฉิงจะไม่ยอมแค่ไหน ก็ต้องอดทนไปก่อน
เขาเม้มปาก หลังจากนั้นก็พูดขึ้น "ก็ได้"
"—แต่ว่า" ฮ่อหยุนเฉิงหรี่ตาก่อนจะพูดเตือนสติ "ซูฉิง ชีวิตนี้เธอต้องเป็นแค่ของฉันเท่านั้น อย่าได้คิดถึงผู้ชายคนอื่นเด็ดขาด! ห้ามไปมองด้วยเข้าใจไหม?"
"..."
ซูฉิงล่ะหมดคำพูดกับแฟนหนุ่งจริงๆ มันทำให้เธอรู้สึกว่าฮ่อหยุนเฉิงเป็นเด็กไม่ดี แต่ก็จะบอกว่าไม่น่ารักก็ไม่ได้
"โอเคๆ ฉันเข้าใจแล้ว ไม่ใช่ว่านายยังมีงานเหรอ? รีบไปทำงานได้แล้วนะ"
หลังจากวางสาย เธอมองข่าวประชาสัมพันธ์บนหน้าจอ ทั้งรู้สึกหมดหนทางและหงุดหงิด เฉินจุนเหยียนพูดแบบนี้ต่อหน้านักข่าวได้ไง!
...
"หลานหลาน ลงมากินข้าวเถอะ"
หลังจากที่ไป๋หลานกลับบ้านก็ขังตัวเองอยู่ในห้องทั้งวัน และไม่ลงมาชั้นล่างจนคนใช้เรียกเธอไปกินข้าว
พ่อลูกนั่งตรงข้ามกัน พ่อไป๋ก็มีสีหน้าจริงจัง และไม่ยอมพูดอะไรกับไป๋หลานเลยสักคำ
ไป๋หลานตักข้าวด้วยตะเกียบเข้าปากเงียบๆ ตอนนี้เธอไม่รู้สึกอยากอาหารเลย ขนาดตอนคีบอาหารก็ยังเขี่ยไปมา
"ไม่กินก็ไสหัวกลับห้องไป" พ่อไป๋มองอย่างเคร่งขรึม แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น เขายังไม่หายโกรธ จะปล่อยให้ลูกสาวสร้างเรื่องต่อได้ยังไง
"ตอนนี้ธุรกิจของบริษัทตระกูลได้ถูกยกเลิกไปหลายงานแล้ว และนั่นเพราะเธอ ถ้าเธอกินได้ก็กินไปดีๆ ซะ อย่ามาวางท่าคุณหนูอะไรนั่น! ตระกูลเราจะล้มละลายก็เพราะเธอ!"
ล้มละลาย?
แม้ว่าไป๋หลานจะมีแต่ความคับข้องใจ แต่เธอก็รู้ว่าเธอทำให้เกิดเรื่องใหญ่ในครั้งนี้ ดังนั้นการที่พ่อไป๋ด่าทอเธอ แต่เธอก็ไม่เถียง ทว่าก็ต้องเบิกตาเมื่อได้ยินคำวาล้มละลาย
เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง ที่ตระกูล...ใกล้จะล้มละลายแล้วงั้นเหรอ?
"มองอะไร? เป็นเพราะเธอนั่นแหละ!"
พ่อไป๋ประสบปัญหามากมายเนื่องจากบริษัท ทั้งยังมีเรื่องของไป่หลานช่วงนี้อีก ไม่ต้องพูดถึงว่าถ้าไม่ใช่เพราะปัญหาของไป๋หลาน บริษัทคงไม่ตกอยู่ในสภาพปัจจุบัน
ยิ่งพูดก็ยิ่งหงุดหงิด เขาทิ้งตะเกียบแล้วนั่งหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่บนเก้าอี้
ไป๋หลานเองก็ไม่มีอารมณ์จะกินก่อนจะดันชามออกไปอย่างเงียบๆ นั่งบนเก้าอี้แล้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะลุกขึ้นพูดว่า "หนูจะออกไปข้างนอก"
"คิดจะทำอะไรอีก? คิดจะหาเรื่องอะไรให้ฉันอีก? ตระกูลเราวุ่นวายไปหมดแล้ว กลับมาซะ!"
พ่อไป๋ที่เห็นไป๋หลานลุกขึ้นก็สติหลุดและตะโกนอย่างโกรธตามหลังลูกสาวไป
ใครจะรู้ว่าเรียกไป๋หลานที่เดินตรงไปที่ประตูกลับมาไม่ได้
เธอไปที่บ้านตระกูลสวี
สวีหว่านเอ๋อร์ที่เห็นเธอก็รู้สึกประหลาดใจ แต่ก็รีบกลับมาแสดงท่าทางปกติอย่างรวดเร็ว เพียงแค่นั่งบนโซฟาและพลิกหน้านิตยสาร
"เธอมาได้ยังไง?"
ไป๋หลานเดินไปหาสวีหว่านเอ๋อร์และจ้องที่เธอโดยไม่พูดอะไรสักคำ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น