ฮ่อหยุนเฉิงก้าวออกไปข้างหน้า ใช้มือยันกำแพง ขังซูฉิงไว้ตรงกลาง ริมฝีปากเม้มเล็กๆ น้ำเสียงเย็นยะเยือก "ซูฉิง เธอเป็นคู่หมั้นของฉันฮ่อหยุนเฉิง อยู่ต่อหน้าฉัน ยังกล้าออกเดทกับผู้ชายอื่นอย่างโจ่งแจ้ง?"
ฮ่อหยุนเฉิงแผ่ไอเย็นออกมา ทำให้บรรยากาศร้านอาหารถูกแช่แข็งทันที
เมื่อสบเข้ากับสายตาโกรธเคืองของผู้ชายตรงหน้า ซูฉิงก็ไม่เกรงกลัวที่จะตอบกลับว่า "ทำไม นายใช้เวลาทั้งคืนกับสวีหว่านเอ๋อร์ได้ ค่ำคืนอันสุดแสนโรแมนติก แล้วฉันจะมากินข้าวกับเฉินจุนเหยียนไม่ได้งั้นเหรอ?"
เมื่อคิดถึงโทรศัพท์เมื่อคืน คิดถึงท่าทางมีชัยซูหว่านเอ๋อรในโทรศัพท์ ในใจซูฉิงก็เหมือนถูกยัดด้วยฝ้าย อึดอัดจนสับสน
ฮ่อหยุนเฉิงด้ยินดังนั้น ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง
อยู่กับสวีหว่านเอ๋อร์ทั้งคืน คืนโรแมนติก?
นี่มันเรื่องไร้สาระอะไร?
"เธอรู้ไดยังไง ว่าเมื่อคืนฉันอยู่กับสวีหว่านเอ๋อร์?" ฮ่อหยุนเฉิงถามด้วยแววตาลุ่มลึก
ซูฉิงจ้องเขาอย่างอารมณ์เสีย "ถ้าไม่อยากให้คนรู้เรื่องตนเอง แล้วไปเรื่องพรรคนั้นทำไมกัน จะมาสนทำไมว่าฉันรู้ได้ยังไง!"
พยักหน้าเล็กน้อย เห็นแค่ดวงตาคู่งามของผู้หญิงตรงหน้าเขา ใบหน้าที่งดงามของเธอก็เต็มไปด้วยความหึงหวง ราวกับภรรยาตัวน้อยที่โกรธเคืองและหึงหวงหลังจากจับชู้สามีได้คาเตียง
ฮ่อหยุนเฉิงหัวเราะ ยกมุมริมฝีปากที่น่ามองขึ้น จงใจลากเสียงยาว "ซูฉิง เธอกำลังหึงเหรอ?"
แม้จะเป็นประโยคคำถาม แต่น้ำเสียงของเขามั่นใจอย่างมาก
หึงหวง?
ทำไมเธอต้องหึงด้วย?
ฮ่อหยุนเฉิงไม่ได้เป็นอะไรกับเธอสักหน่อย!
"ไม่ใช่" ซูฉิงจ้องเขา "ฮ่อหยุนเฉิง นายเป็นอะไรกับฉัน? ทำไมฉัต้องหึงด้วย นายอยู่กับสวีหว่านเอ๋อร์แล้วเกี่ยวอะไรกับฉัน? นายประธานฮ่อเจ้าชู้สง่างาม ซ้ายโอบขวากอด ผู้หญิงเป็นพรวน มีความสัมพันธ์อะไรกับฉํนด้วยหรือ?"
เห็นท่าทางน่าหยอกเย้าของผู้หญฺงตรงหน้า ฮ่อหยุนเฉิงก็อารมณ์ดีขึ้นมา
ดวงตาล้ำลึกจ้องมองปากเล็กๆที่พร่ำไม่หยุดของซูฉิง ฮ่อหยุนเฉิงก็โน้มตัวลงไปจูบปิดปากเธอไว้ ให้เธอกลืนคำพูดทั้งหมดกลับลงไป
"อื้อ…" ได้รับอุณหภูมิที่ร้อนแรงมาจากริมฝีปากของฮ่อหยุนเฉิง หัวใจของ Shu Qing ก็เต้นเร็วโดยไม่มีเหตุผล
ในชั่วขณะนี้เอง ราวกับมีกระแสน้ำเชี่ยวกรากไหลวนในตัวซูฉิง ใบหน้าของเธอแดงแจ๋ แม้แต่ลมหายใจก็ติดขัด
จิตใต้สำนึกซูฉิงสับสนปหมด คิดจะผลักฮ่อหยุนเฉิงออก แต่ก็ถูกเขาดันจนติดกับกำแพง จนขยับไม่ได้
"อย่าขยับ" เสียงแหบต่ำของฮ่อหยุนเฉิงดังขึ้น ในดวงตาที่ลึกล้ำของเขา มีราคะหนาทึบที่พลุ่งพล่านราวกับเปลวไฟที่ลุกโชน
ลิ้นใหญ่ๆของเขาเปิดปากของซูฉิงออก แล้วเข้าไปข้างใน
ในใจมีระลอกน้ำกระเพื่อมอยู่ สมองบของซูฉิงราวกับถูกชัตดาวน์แล้วเธอก็หยุดดิ้นไปอย่างดื้อๆ
เสียงหายใจสอดประสาน จูบของฮ่อหยุนเฉิงราวกับพายุที่บ้าคลั่ง ทั้งครอบงำ อบอุ่น เอื่อยเฉื่อย และยากจะถอยห่าง
อุณหภูมิในห้องอาหารพุงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในอากาศก็อบอวลไปด้วยเสน่ห์
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ นานจนซูฉิงคิดว่าตนเองกำลังจะขาดอากาศหายใจ ฮ่อหยุนเฉิงจึงถอนจูบร้อนที่ทั้งบ้าอำนาจและลึกซึ้งออก
"ฮ่อหยุนเฉิง นาย นายมันอันธพาล!" ซูฉิงได้สติ จ้องผู้ชายตรงหน้าอย่างทั้งอายทั้งโกรธ
สวรรค์! เมื่อกี้เธอทำอะไรอยู่?
ทำไมไม่ผลักเขาออก!
ฮ่อหยุนเฉิงหัวเราะอย่างแผ่วเบา เอนตัวแนบข้างหูของเธอแล้วกระซิบว่า "ฉันไม่มีความสัมพันธ์อะไรกับสวีหว่านเอ๋อร์ เมื่อคืนเป็นวันครบรอบการตายของพ่อฉัน ฉันไปเคารพเขาที่สุสาน เผลอดื่มเมาไปโดยไม่ทันระวังสวีหว่านเอ๋อร์พาฉันไปที่บ้านของเธอ แค่นั้น ฉันไม่ได้มีอะไรกับเธอ"
ซูฉิงอึ้งไปเล็กน้อย
นี่ฮ่อหยุนเฉิง...กำลังอธิบายให้เธอฟัง?
ได้สติกลับมา ซูฉิงก็แค่นเสียงเย็น "นายจะมีหรือไม่มีอะไรกับสวีหว่านเอ๋อฉันก็ไม่ได้อยากรู้"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น