นายฮ่อ คุณคือความลับที่ฉันบอกไม่ได้ นิยาย บท 240

สือฮว่าเอนหลังพิง ศีรษะพิงพนักเก้าอี้แล้วฟังเสียงโทรศัพท์อย่างเงียบๆ อยากรู้ว่าอีกฝ่ายจะโทรอีกนานแค่ไหน

เธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมานับเวลา เสียงโทรศัพท์ดังไปครึ่งชั่วโมง เสียงโทรศัพท์ถึงหยุดลง

ก็ยังอดทนดี

เธอเยาะเย้ยในใจ เหยียบคันเร่งแล้วขับรถไปโรงพยาบาล

มาถึงนอกห้องไอซียู เธอก็เห็นโจวกุยช่านยืนพิงกำแพงได้อย่างรวดเร็ว

โจวกุยช่านผอมไปมาก ร่างกายของเขาทั้งมืดมนเปราะบาง ดวงตาของเขาจ้องมองสถานการณ์ห้องไอซียู

เมื่อเห็นเธอมา เขาก็ไม่แสดงท่าทางอะไร

สือฮว่าไปเจอหมดและถามเกี่ยวกับสถานการณ์ รู้ว่าร่างกายของหนานจิ่นผิงดีขึ้นก็โล่งใจ

ทันทีที่เธอออกจากห้องทำงานของหมอ เห็นเฉียวหยู

เฉียวหยูยืนอยู่หน้าโจวกุยช่าน ร้องไห้อย่างน่าสงสารมาก

"กุยช่าน คุณไม่ได้กลับบ้านนานแล้ว ฉันต่างหากที่เป็นภรรยาของคุณ ฮึก ฮือ ฉันยังตั้งท้องลูกของคุณนะ ทำไมคุณถึงทำกับฉันแบบนี้"

โจวกุยช่านขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

เฉียวหยูร้องไห้หนักขึ้น เธอนึกว่าเขาจะปฏิบัติกับเธอต่างออกไปเมื่อเธอตั้งท้องลูกของเขา แต่ไม่คิดเลยว่าเขาจะยังเมินเธอ

เธอกำลังร้องไห้ หันหน้าไปก็เห็นสือฮว่า

ผู้หญิงสองคนที่เธอเกลียดที่สุดคือหนานจิ่นผิงและสือฮว่า

น้ำตาในดวงตาของเธอหายไปในทันที และพูดอย่างเย้ยหยัน "ฉันว่าหนานจิ่นผิงคงใกล้ตายแล้วจริงๆนั่นแหละ ฉันช่วยเธอเลือกสุสานไว้แล้ว คนต่ำๆที่ทำลายงานแต่งคนอื่นต้องได้ชดใช้!"

"เพียะ!"

ทันทีที่เธอพูดจบ ก็โดนตบหน้าอย่างแรง

การตบนี้ไม่ได้มาจากสือฮว่า แต่จากโจวกุยช่าน

เฉียวหยูปิดหน้าตัวเอง ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ

แม้แต่สือฮว่าเองก็ยังตะลึง ถึงสือฮว่าจะดูมืดมนแต่เขาก็เป็นเด็กจากตระกูลใหญ่ และพื้นฐานเขายังคงมีนิสัยที่มีความเป็นสุภาพบุรุษอยู่ แต่ตอนนี้เขากลับลงมือกับผู้หญิง?

ทางเดินเงียบลงทันที

โจวกุยช่านค่อยๆ เก็บมือและเหลือบมองไปทางของห้องไอซียู "ออกไปซะ"

เฉียวหยูรู้สึกขาอ่อนแอ เธอก้มหน้าลูบท้องตัวเองด้วยความแค้นที่ซ่อนอยู่ในดวงตา "ฉันพูดอะไรผิดงั้นเหรอ? ตอนแรกที่เธอขับรถชนฉัน ทิ้งฉันไว้กับผลที่ตามมา หลังจากออกจากคุก เธอยังคงทำลายงานของฉัน นี่เพราะพระเจ้าทนดูไม่ได้เธอเลยควรตายไง..."

สตรีมีครรภ์มีแนวโน้มจะคิดเร็วทำเร็ว หากเป็นแต่ก่อน คาดว่าเธอคงหายโกรธไปนานแล้ว

แต่เมื่อคิดว่านี่คือสามีของเธอ และมีเมียน้อยนอนอยู่ข้างใน เธอก็รู้สึกเป็นทุกข์

โจวกุยช่านกระพริบตาดวงตาที่แดงก่ำ และกระตุกยิ้มมุมปากอย่างเย้ยหยัน "คนที่ควรตายคือฉัน เฉียวหยู ถ้าเธอจะเกลียดก็เกลียดฉันเถอะ"

น้ำตาของเฉียวหยูไหลหนักขึ้น ราวกับหัวใจจะขาด

เธอรักโจวกุยช่าน และเธอคิดว่าตราบใดที่เธอปฏิบัติกับเขาเป็นอย่างดีแล้วเขาจะชอบเธอ

ยิ่งไปกว่านั้น เขาพูดในตอนแรกว่าเขาคบกับหนานจิ่นผิง เพียงเพื่อแก้แค้น เพื่อผลักเธอสู่นรก

แต่ทำไมคนสุดท้ายที่ไปนรกกลับเป็นเธอล่ะ?

เธอรอเขามาหลายปีแบบไม่เต็มใจ ทำไม...

โจวกุยช่านหมดความอดทนกับการร้องไห้ของเธอ จะเดินออกไป เฉียวหยูก็รีบวิ่งตาม "กุยช่าน!!"

เธอตะโกนเรียก ดวงตาเจ็บปวดและรอยยิ้มที่ดูไม่จืดก็ปรากฏขึ้น "กุยช่าน คุณยังไม่เข้าใจอีกเหรอ? ตั้งแต่ที่ฉันตั้งท้องลูกคุณ คุณกับหนานจิ่นผิงก็จบกันแล้ว แต่ฉันก็ยอมรับว่าเธอน่าสงสารกว่าฉัน ฉันยังมีพ่อแม่ แต่เธอกลับไม่เหลือใคร คุณปล่อยเธอไปเถอะ ให้เราสามคนเป็นอิสระไง ไม่ดีเหรอ?"

สือฮว่าที่ไม่เคยยอมรับคำพูดของเฉียวหยู แต่คราวนี้เธอรู้สึกว่าเฉียวหยูพูดถูก

หนานจิ่นผิงเป็นดอกโบตั๋นที่สดใส หากยังอยู่กับโจวกุยช่านต่อไปก็จะเหี่ยวเฉาเร็วขึ้นเรื่อยๆ

โจวกุยช่านชะงักฝีเท้าอยู่กับที่ ไม่ได้มีแค่หนึ่งคนที่พูดกับเขาว่าให้เขาปล่อนหนานจิ่นผิงไป

เขาหลุบสายตาลงต่ำ รู้สึกถึงมีรูขนาดใหญ่อยู่ในหัวใจ แม้แต่ดวงตาของเขาก็เริ่มพร่ามัว

"ได้"

เขาพูดด้วยเสียงที่แหบ และก้าวต่อไปโดยทิ้งเฉียวหยูไว้ด้านหลัง

เฉียวหยูขยี้ตา ทั้งร้องไห้ทั้งหัวเราะ และตามเขาไปอย่างระมัดระวัง

สือฮว่าอยู่ที่โรงพยาบาล เห็นทั้งสองจากไปก็ถอนหายใจ

เธอนั่งบนเก้าอี้ต่ออีกหนึ่งชั่วโมง เห็นหมอหลายคนจากปลายทางเดินแล้วเข้าไปยังห้องไอซียู

เธอรีบลุกขึ้นไปดู และเห็นว่าเตียงของหนานจิ่นผิงถูกเข็นออกมา

"คนป่วยฟื้นตัวได้ดี เอาตัวรอดได้ดี เลยสามารถย้ายไปยังห้องผู้ป่วยทั่วไปได้ครับ"

สือฮว่าไม่อยากจะเชื่อ เดินตามหมออย่างเหม่อลอย และเข้าไปในห้องผู้ป่วยอีกห้องที่ว่าง

หนานจิ่นผิงยังอยู่ในหมดสติและสวมหน้ากากออกซิเจนที่ปาก

สือฮว่าจับมือเธอ สัมผัสปลายนิ้วของเธอ และในที่สุดก็หยิบกรรไกรตัดเล็บออกจากกระเป๋า แล้วก้มหน้าลงเพื่อตัดเล็บให้อีกคน

เพราะเธอก้มหน้า เลยมองไม่เห็นที่หางตาของหนานจิ่นผิงมีน้ำตาค่อยๆไหลออกมาแล้วซ่อนเข้าไปในเส้นผม

หลังจากตัดมากว่าสิบนาที สือฮว่าก็เก็บกรรไกรตัดเล็บ

"จิ่นผิง ไว้วันหลังฉันจะมาเยี่ยมเธอใหม่นะ"

เธอพูดกับตัวเอง ตบมือของหนานจิ่นผิงเบาๆแล้วลุกขึ้นก่อนเดิรออกจากห้องไป

ทันทีที่เธอเดินออกจากโรงพยาบาล เธอได้เจอกับสวี่ฉางอันที่ใบหน้าซีดเซียว

สวี่ฉางอันไม่ได้เห็นเธอ ปิดปากและไอตลอดเวลา อีกทั้งยังก่มหน้าราวกับว่าเขาไม่สนใจผู้คนที่ผ่านไปมามากนัก

สือฮว่าเห็นเขาแบบนั้นก็ไม่ได้ทักทาย

แต่ในขณะเวลาผ่านไป ร่างกายของสวี่ฉางอันก็สั่นก่อนล้มลง นอนราบกับพื้นและไม่ขยับตัว

สือฮว่าชะงักฝีเท้านิ่งในทันที และนั่งลงโดยไม่รู้ตัว "สวี่ฉางอัน?"

สวี่ฉางอันไม่ตอบสนอง สือฮว่าแตะที่หน้าผากของเขา อุณหภูมิสูงมาก ไม่รู้จริงๆว่าเขามาทำอะไรที่นี่กันแน่

เธอรีบเรียกหมอให้คนมาช่วยพยุงอีกคนเข้าไป

โชคดีที่เป็นแค่ไข้หวัดตามฤดูกาล ไม่ได้เป็นอะไรมากนัก

สือฮว่าถอนหายใจและไม่ได้คิดจะอยู่ต่อ แต่ถึงแม้ว่าสวี่ฉางอันจะยังไม่ได้สติ แต่ยังคงกำแขนเสื้อของเธอไว้แน่น

เธอดึงหลายครั้ง แต่อีกฝ่ายไม่ยอมปล่อย มันแรงจนข้อต่อเริ่มเปลี่ยนเป็นสีขาว

สือฮว่าโกรธ แต่กลับทำอะไรไม่ได้ ในสถานการณ์แบบนี้ ไม่สามารถยืนเคียงข้างได้

เธอนั่งลงอย่างท้อแท้ ทั้งใบหน้าโกรธ

"น้ำ..."

สวี่ฉางอันพึมพำและขนตายาวๆของเขาสั่น

สือฮว่าขมวดคิ้ว เห็นริมฝีปากแตกของเขาก็หยิบน้ำจากด้านข้างและช่วยพยุงเขาขึ้นมา "สวี่ฉางอัน อ้าปาก"

มือของอีกคนยังคงดึงแน่น เห็นคราบเลือดบนริมฝีปากที่แตก

สือฮว่ารู้สึกว่าวันนี้เธอออกมาอาจจะไม่ได้อ่านดวง ท่าทางของอีกฝ่ายเป็นแบบนี้ก็ไม่สามารถตอบสนองได้

เธอค่อยๆ นำแก้วจ่อปากของเขาอย่างระวังและค่อยๆรินน้ำลงไป เพื่อให้เขาได้ลิ้มรสความชื้น

เธอประคองเขาด้วยมือเดียวก็กินแรงอยู่แลว ยังโดนเขาดึงแขนเสื้ออีก การเคลื่อนไหวก็ยิ่งเฉื่อยมากขึ้น ดังนั้นการป้อนน้ำจึงเป็นเรื่องยากมาก

เป็นเพราะเธอจดจ่อมากจนไม่เห็นฮั่วฉวนซีซึ่งยืนอยู่ที่ประตู

คิ้วของฮ่อฉวนสือมืดมน และดูฉากนี้อย่างเงียบๆ โดยไม่ส่งเสียงอะไร

แม้แต่หนานสือที่กำลังจะพูดออกมาก็โดนสายตาเขาห้าม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายฮ่อ คุณคือความลับที่ฉันบอกไม่ได้