ทุกคนต่างพากันเงียบกริบ
หลี่จุ่นไม่พูดไม่จา
หลี่เฉียนยิ้มอยู่ที่มุมปาก แต่รอยยิ้มที่มุมปากของหลี่จ้งชัดเจนมากกว่า คล้ายกับว่าดีใจอย่างยิ่งที่เห็นผู้อื่นตกอยู่ในความลำบาก
หลี่เจิ้งมองดูหลี่เฉียนแวบหนึ่ง จากนั้นก็หันมองไปที่หลี่จุ่น และครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ ก่อนที่จะพยักหน้าพูดว่า
“ถ้าเป็นเช่นนี้แล้ว เจ้าหก งั้นเจ้าก็แต่งบทกลอนมาหนึ่งบทเถอะ ให้เหล่าพี่ๆทั้งหลายได้เรียนรู้ฝึกฝนการแต่งบทกลอนไปด้วย ”
“เสด็จพ่อทรงปรีชายิ่งนัก! หลี่เฉียนโค้งคำนับและถอยหลัง ใบหน้าเต็มไปด้วยความพอใจ”
หลี่จ้งก็เอ่ยปากพูดเสียงดังว่า “จิ่งอ๋อง เชิญ!”
หลี่จุ่นแสดงสีหน้าไร้ความรู้สึก หันไปทางหลี่เจิ้งและโค้งคำนับช้าๆก่อนจะพูดว่า
“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท”
เมื่อได้ยินหลี่จุ่นเรียกตนเองว่า “ฝ่าบาท” แต่ไม่ใช่เสด็จพ่อ สีหน้าของหลี่เจิ้งก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยอย่างสังเกตเห็นได้ไม่ชัดเจน ยังคงยิ้มเบาๆพร้อมกับพยักหน้า
“ฝ่าบาท หม่อมฉันยังไม่เคยได้เห็นหลี่จุ่นแต่งบทกลอนด้วยตาตนเองมาก่อน วันนี้จะมีบุญวาสนาได้เห็นแล้วเพคะ”
ฮองเฮาที่นั่งอยู่ข้างๆหลี่เจิ้งเผยเสียงหัวเราะอ่อนใสนุ่มนวล ใบหน้าที่งดงามมีเพียงรอยเหี่ยวย่นจางๆดั่งหางปลา แสดงออกถึงกิริยาที่เปี่ยมด้วยประสบการณ์น่าเกรงขาม
เสียงหัวเราะของฮองเฮาทำให้หลี่จุ่นเกิดความสนใจ จึงเงยหน้าขึ้นมอง และเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังมองเขาอยู่เหมือนกัน แต่แววตานั้นกลับพิลึกชอบกล คล้ายกับว่ากำลังแสดงความสงสาร
สงสารข้าหรือ?
นี่คือแผนอะไร?
หลี่จุ่นแอบพยักหน้าเบาๆ
“จิ่งอ๋อง เชิญ!” หลี่เฉียนยิ้มและพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว
หลี่จุ่นก็ไม่พูดอะไรให้เสียเวลา เดินไปข้างหน้า มองเห็นต้นหลิวที่อยู่ข้างสระน้ำพริ้วไหวอยู่ท่ามกลางสายลม
เวลานี้ สายตาทุกคู่ต่างจดจ่อรวมกันอยู่บนตัวของหลี่จุ่น
บางคนรู้สึกตื่นเต้น บางคนก็รอดูความสะใจ บางคนก็ทำสีหน้าเฉยชา
หลี่เหวินจวินคือคนนั้นที่รู้สึกตื่นเต้น
หลี่เหวินจวินฉลาดปราดเปรื่อง หลี่เฉียนและพวกต่างอดใจรอไม่ไหวแล้วที่จะให้หลี่จุ่นรีบแต่งกลอนขึ้นมา เหมือนกับว่าได้เตรียมการมาแล้วล่วงหน้า ที่จะให้หลี่จุ่นตกหลุมพรางกับดักที่ได้วางแผนเอาไว้อย่างชั่วร้าย
องค์ชายสี่ที่อยู่ข้างๆหลี่จุ่นได้หันไปมองหน้ารัชทายาทอยู่แวบหนึ่ง ขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นก็หันไปมองหลี่จุ่นที่กำลังเดินไปอีกด้าน ด้วยสายตาที่กำลังครุ่นคิดบางอย่าง
“พี่สาม พี่ห้า ข้าคิดว่าแค่แต่งกลอนนั้นช่างน่าเบื่อเกินไป ให้พวกเรามาตั้งรางวัลกันหน่อยดีกว่า”
หลี่จุ่นในชุดสีขาวทั้งตัว ยืนอยู่บนพื้นหญ้า ท่ามกลางสายลมที่พัดผ่าน ผมหน้าม้าก็ได้พริ้วไหวเบาๆ ทำให้ดูดีมีสง่าราศี
เมื่อได้ยินดังนั้น หลี่เฉียนขมวดคิ้วเบาๆ หลี่จ้งก็มีสีหน้าเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย
พวกเขาชำเลืองมองรัชทายาทชั่วครู่ และเห็นว่ารัชทายาทไม่มีการแสดงสีหน้าแต่อย่างใด สองพี่สองก็หันมาสบตากันขึ้นมา
“จิ่งอ๋อง เสด็จพ่อแค่ให้เจ้าเริ่มต้นแต่งหัวข้อกลอนเท่านั้น เพื่อให้พวกเราสามารถแต่งต่อไปได้ ไม่จำเป็นจะต้องทำให้วุ่นวายเลย” สุดท้ายหลี่เฉียนก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย
หลี่จุ่นมองดูเขาแวบหนึ่ง จากนั้นก็ยิ้มและพูดว่า “อ้าว! ที่แท้พี่สามก็รู้สึกกลัวนั่นเอง กลัวว่าจะแพ้ใช่ไหม?”
“หลี่จุ่น!”
หลี่เฉียนเกิดโมโหขึ้นมาอย่างแรง จนพูดอย่างเสียงดังเคร่งขรึม!
หลี่จุ่นยิ้มขึ้นมา ทันใดนั้นก็เดินไปข้างหน้าและคำนับหลี่เจิ้งพร้อมกับพูดว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...
ตอนที่203หาย...
ไม่ update มาหลายวันแล้วครับ...
เรื่องนี้สนุกมากครับ ติดตามแล้ว update ช้าและน้อยไปนะครับ แค่วันละ 2 chapter ขอแนะนำให้เพิ่เป็นวันละ 5 Chapter ครับ...
ตอน 203 หาย...
เรื่องนี้ก็ ok ครับ สนุกดี ขอบคุณadminครับ...
ขอบคุณแอดมินมากครับที่อัปเดทให้อ่าน...
ปกติจะอัพ เพิ่มวันไหนครับ รึ ไม่มีอัพให้แล้ว...
ไม่อัปเดทแล้วเหรอครับ กำลังสนุก...
ขอบคุณครับที่ลงให้อ่าน...