ฉีเฟยอวิ๋นออกมาจากตำหนักเฟิ่งอี๋ และเจอกับแม่ทัพฉี ทั้งสองพ่อลูกจึงจากไปพร้อมกัน
เมื่อมาถึงจวนของท่านแม่ทัพ ฉีเฟยอวิ๋นก็เอาขนมที่แอบซ่อนไว้ออกมาทำการศึกษาค้นคว้า
ระหว่างที่ศึกษาค้นคว้า นางก็โยนขนมชิ้นหนึ่งไปให้แมวที่ลานบ้านกิน
เดิมทีแมวตัวนั้นเป็นสัด หลายวันมานี้ฉีเฟยอวิ๋นเห็นแมวตัวนั้นวิ่งทั้งวัน และดูสบายขึ้นมากเมื่อกลับมา มันนอนเลียขนของตัวเองอยู่ที่มุม ถ้าไม่ให้มันออกไป มันก็จะร้องหาคู่ ราวกับหวังว่าแมวข้างนอกจะเข้ามา
หลังจากที่แมวกินขนมแล้ว ฉีเฟยอวิ๋นก็เปิดประตู แมวตัวนั้นไม่อยากออกไปข้างนอก มันนอนอยู่บนพื้นและไม่เป็นสัดอีก
ฉีเฟยอวิ๋นหัวเราะเหอะเหอะ
ยาของฮองเฮาสามารถยับยั้งการเป็นสัดได้
หลังจากสกัดออกมาแล้ว ที่แท้ก็เป็นส่วนผสมของยาคุมกำเนิดบางชนิด และยาคุมกำเนิดชนิดนี้ก็มีสารพิษ หากกินในช่วงเวลาสั้น ๆ จะมองไม่เห็นสิ่งใด แต่หากกินเป็นเวลานานก็จะยับยั้งการการสร้างสเปิร์มและการตกไข่ ตาย……
นางมีความคิดที่แน่วแน่ว่าเหตุผลที่จักรพรรดิอวี้ตี้มีบุตรยาก อาจเป็นเพราะฮองเฮา
ทำไมฮองเฮาถึงต้องทำเช่นนี้?
ฉีเฟยอวิ๋นไม่เข้าใจเลย พวกเขาเป็นสามีภรรยากัน ถ้าหากให้กำเนิดบุตร ตำแหน่งก็ยิ่งมั่นคง
จุดประสงค์ที่ทำเช่นนี้คืออะไร?
ครอบครองความโปรดปรานของจักรพรรดิอวี้ตี้?
ไม่ต้องพัวพันกับเรื่องนี้อีกต่อไป เพียงแค่ต้องทนทุกข์จากการล้างพิษให้จักรพรรดิอวี้ตี้ ถ้าฮองเฮายังคงวางยาพิษอย่างต่อเนื่อง ความรู้สึกของฮองเฮาที่มีต่อจักรพรรดิอวี้ตี้ก็ดูเหมือนจะไม่เสแสร้ง และนางก็ไม่สามารถเตือนได้
พอมีเรื่องแบบนี้เข้ามา อาจจะหัวขาดได้……
นางต้องหาทางศึกษายาแก้พิษที่สามารถรวมเอายาพิษเข้าไว้ด้วยกัน จึงจะทำให้จักรพรรดิอวี้ตี้ดีขึ้นได้
มิเช่นนั้นหากดำเนินต่อไปเป็นเวลานาน กลับเป็นนางที่จะต้องตกที่นั่งลำบากที่สุด
หลังจากพักผ่อนมาทั้งวัน ฉีเฟยอวิ๋นก็เตรียมยาใหม่เสร็จเรียบร้อย และกำลังจะเข้าไปในวัง
นางยังไม่ทันจะได้เข้าไป นางก็ถูกอาอวี่ที่มาหานางขวางไว้
“ทำไมเจ้ามาอีกแล้ว?ในเวลานี้ท่านอ๋องของเจ้าไม่เป็นอะไรแล้วไม่ใช่หรือ?” ในเวลานี้ฉีเฟยอวิ๋นร้อนใจมาก สองสามวันนี้นางสามารถไปรอบ ๆ ได้ และสามารถหายาสมุนไพรที่หายากได้ แต่หนานกงเย่กลับก่อกวนซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“อาการบาดเจ็บของท่านอ๋องแย่ลง พระชายาได้โปรดกลับไปกับข้าเถิด” อาอวี่ดูเป็นกังวล
ฉีเฟยอวิ๋นประหลาดใจมาก:“อาการบาดเจ็บของท่านอ๋องต้องใกล้จะหายดีแล้วสิ มีเกิดอะไรขึ้นอีกหรือไม่?”
“แย่ลงมาก แย่ลงมากกว่าเดิมอีกพะยะค่ะ” อาอวี่ดูเป็นกังวล
ฉีเฟยอวิ๋นดูตื่นตระหนก และถูกดึงเข้าไปพัวพันกับความรู้สึกนั้นอีกแล้ว นางหันหลังกลับไปหยิบกล่องยา นางรีบออกจากจวนของท่านแม่ทัพไปที่ไปที่จวนของท่านอ๋องเย่
ระหว่างทางอาอวี่บอกว่าครั้งนี้ไม่ใช่การกำเริบ แต่อยู่ดี ๆ ก็แย่ลง
“อาการเป็นยังไง?” ฉีเฟยอวิ๋นเดินไปด้วยถามไปตามด้วย เพื่อเป็นการประหยัดเวลา
“เลือดออกไปทั้งตัว และบาดแผลก็เปิดออกด้วย” อาอวี่ตอบตามความจริง
ฉีเฟยอวิ๋นยิ่งประหลาดใจมากขึ้นไปอีก:“ไม่น่าจะเป็นเช่นนั้นได้”
หลังลงจากรถม้าแล้ว ฉีเฟยอวิ๋นก็เดินตรงไปที่ตำหนักของอ๋องเย่
ทันทีที่เข้าประตูไป นางก็ได้กลิ่นหอมแปลก ๆ และหลังจากหยุดชะงัก ฉีเฟยอวิ๋นก็เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นและรีบสั่งว่า:“ย้ายท่านอ๋องไปที่ห้องอื่นเดี๋ยวนี้ อยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว”
พ่อบ้านอดไม่ได้ที่จะพูดว่ารีบทำตามที่ฉีเฟยอวิ๋นสั่งเดี๋ยวนี้ และคนอื่น ๆ ก็จัดเตรียมในทันที ไม่นานหนานกงเย่ก็ถูกย้ายไปที่ห้องที่ฉีเฟยอวิ๋นเคยพักอยู่
ในเวลานี้หนานกงเย่ก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นและมองไปที่ฉีเฟยอวิ๋น
ทั้งสองสบตากันและไม่มีใครพูดอะไร ฉีเฟยอวิ๋นนั่งลงในทันที และไม่สนใจว่าใครจะอยู่ที่นี่ นางกรีดข้อมือของตัวเอง แล้วเอามืออีกข้างหนึ่งจับคางของหนานกงเย่ และให้เลือดที่ข้อมือไหลลงไปในปากของหนานกงเย่
คนรอบข้างต่างพากันตกใจ ไม่คิดว่าฉีเฟยอวิ๋นจะเอาเลือดของตัวเองให้หนานกงเย่กิน
ในเวลานี้ฉีเฟยอวิ๋นรู้ว่าหากไม่มีคำอธิบายใด ๆ ก็คงไม่ได้อย่างแน่นอน
“ข้าได้ทดลองพิษมาตั้งแต่เด็ก กินของมีพิษมานับไม่ถ้วน เลือดในร่างกายของข้าไม่มีสิ่งใดมากล้ำกรายได้ ท่านอ๋องของพวกเจ้าถูกพิษ ดังนั้นทำเช่นนี้จะรวดเร็วหน่อย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ