ฉีเฟยอวิ๋นฝันเห็นซูมู่หรง ใบหน้าของซูมู่หรงค่อนข้างเลือนราง แต่ไม่นานก็จางหายไปแล้ว หลังจากนั้นเธอก็เริ่มสู้รบ และยังไปตามป่าตามทุ่งด้วย อยู่ที่นั่นเธอได้รับการฝึกอบรมที่เลวร้ายมาก และยังเข้าร่วมหน้าที่รับผิดชอบที่อันตราย
ฉีเฟยอวิ๋นหลับไปหนึ่งวันถึงได้ตื่นขึ้นมา และพูดละเมออยู่ตลอดเวลา
รอจนเธอตื่นขึ้นมาก็เป็นวันถัดมาแล้ว
ฉีเฟยอวิ๋นเคลื่อนไหวเล็กน้อย รู้สึกได้ว่าตนเองอยู่ในอ้อมกอดของคนคนหนึ่ง เธอลืมตาขึ้นและเป็นหนานกงเย่กอดเธออยู่นั่นเอง
หนานกงเย่นอนหลับ หนาวเครายาวออกมาแล้ว อีกทั้งผมเผ้ายุ่งเหยิง เสื้อผ้าก็ไม่เรียบร้อย
ฉีเฟยอวิ๋นมองอยู่สักพักจากนั้นลูบสัมผัสใบหน้าของเขา หนานกงเย่ลืมตามองคนในอ้อมกอดที่ตื่นขึ้นมาแล้ว ดึงแขนแล้วกล่าวว่า “รู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง?”
ฉีเฟยอวิ๋นอิงแอบในอ้อมกอดของหนานกงเย่กล่าวว่า “นอนฝันเห็นผู้คนมากมาย พวกเขาล้วนตายหมดแล้ว เหลือแค่หม่อมฉันเพียงผู้เดียว น่ากลัวมากเลย!”
หนานกงเย่กล่าวถามอย่างประหลาดใจว่า “หรือว่าเมื่อก่อนเจ้าไม่ได้กลัว?”
ฉีเฟยอวิ๋นส่ายศีรษะกล่าวว่า “เมื่อก่อนหม่อมฉันไม่หวาดกลัว”
“.…................เพราะเหตุใด?”
“หม่อมฉันก็ไม่รู้ ก็คือไม่เคยคิดหวาดกลัวเลย แต่หม่อมฉันกลัวที่นี่”
หนานกงเย่โอบกอดฉีเฟยอวิ๋นอยู่สักพักหนึ่ง แล้วลุกขึ้นอุ้มฉีเฟยอวิ๋นไปอาบน้ำ และเรียกคนมาเก็บกวาดทำความสะอาดห้อง ทั้งสองคนกินอาหารเสร็จเลยนอนพักผ่อน
หมอโจวเป็นผู้ดูแลฉีเฟยอวิ๋นด้วยตนเอง อาหารการกินทุกอย่างต้องดูเอง เขากลัวว่าเวลานี้หากเกิดอะไรขึ้นกับฉีเฟยอวิ๋นเขาจะไม่สามารถอธิบายและรับผิดชอบได้
หนานกงเย่กินข้าวเสร็จเลยออกไปก่อน ฉีเฟยอวิ๋นถามเขาว่าจะไปทำอะไร เขาบอกว่าจะไปคิดบัญชีกับสกุลเฉิน ฉีเฟยอวิ๋นรู้สึกว่าเขามีขอบเขตจำกัด เพราะฉะนั้นเลยไม่ได้อะไรกับเขา
เฉินอวิ๋นเอ๋อร์เดินไปเดินมาอยู่ในห้องนอนของตนเอง นางตกใจแทบแย่
“คุณหนู เป็นอะไรหรือเจ้าคะ”เสี่ยวชุ่ยเห็นสองวันมานี้เฉินอวิ๋นเอ๋อร์เอาแต่เดินวนเวียนในห้องนอน วันนี้ฮูหยินไม่เป็นอะไรแล้ว แต่ว่ายังต้องคอยปรนนิบัติอยู่ในห้องนอน ปกติมักจะเห็นคุณหนูไปคอยเอาใจฮูหยิน แต่สองวันนี้ไม่เห็นเลย
“เจ้าอย่าวุ่นวายกับข้า ไปอยู่ทางนั้นไป”เฉินอวิ๋นเอ๋อร์ทราบข่าวว่าฉีเฟยอวิ๋นได้รับบาดเจ็บ ได้รับบาดเจ็บได้อย่างไรรายละเอียดนั้นนางยังไม่รู้ แต่คนแน่นอนว่าบาดเจ็บ
สองวันมานี้จวนอ๋องเย่วุ่นวายมาก ได้ยินมาว่าอาอวี่ก็คุกเข่าอยู่ในเรือน
ส่วนคนที่นางหามาเหล่านั้น วันนี้หากยังไม่ตาย ก็คือถูกจับไปแล้ว
เช่นนั้นคนถัดไปก็คือนาง นางควรที่จะทำอย่างไรดี?
หนานกงเย่พาคนมุ่งตรงมาที่หน้าประตูจวนมหาเสนาบดี หยุดอยู่สักครู่หนึ่งก็เงยหน้ามองแผ่นป้ายที่แขวนอยู่เหนือประตูของจวนมหาเสนาบดี และก้าวเท้าย่างกรายเข้าไปทางด้านใน ด้านหลังของเขาได้มีคนตามมาด้วยจำนวนหนึ่ง
พอคนของจวนมหาเสนาบดีมองเห็นท่าทางของหนานกงเย่ต่างหลบหลีกเป็นพัลวัน
หนานกงเย่มุ่งเข้าไป แต่เขาไม่ไปห้องโถงด้านหน้า และก็ไม่ไปทางด้านหลังเรือนที่มีคนพักอาศัย เขาได้มุ่งตรงไปสถานที่พักของเฉินอวิ๋นเอ๋อร์โดยตรงเลย
พอมาถึงหน้าที่พักอาศัยของเฉินอวิ๋นเอ๋อร์ ผู้คนที่อยู่ด้านหลังต่างรีบพุ่งกระโจนบุกเข้าไป
คนของจวนมหาเสนาบดีต่างตกใจ ทยอยถอยหลังกันไปทีละคนๆ
ทุกคนล้วนรู้ว่าท่านอ๋องเย่อารมณ์ร้าย แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ท่านอ๋องเย่มาก่อเรื่องที่จวนมหาเสนาบดี
เฉินอวิ๋นเอ๋อร์ถูกคนที่กระโจนบุกเข้ามาในห้องลากออกไป นางถูกมัดด้วยเชือก เฉินอวิ๋นเอ๋อร์ตกใจเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นหนานกงเย่นางตัวสั่นเทาระริกทั้งตัว
คนด้านหน้าลากนางเดินไป นางยืนไม่มั่นคงเลยล้มหน้าคะมำลงบนพื้น นางยังคงถูกลากไปด้านหน้าเรือนจนชุดขาดแปดเปื้อนไปหมด
คนของจวนมหาเสนาบดีรีบวิ่งไปรายงานฮูหยินจวนมหาเสนาบดี ฮูหยินของจวนมหาเสนาบดียังไม่หายดีเลยปล่อยไปเลยตามเลยทำอะไรไม่ได้
เวลานี้ท่านมหาเสนาบดีก็ไม่ได้อยู่ที่จวนมหาเสนาบดี ท่านแม่ทัพใหญ่ไม่อยู่ พอฮูหยินจวนมหาเสนาบดีไม่เป็นอะไรแล้วเขาก็รีบไปที่ด่านชายแดน
เหลือเฉินอวิ๋นเจี๋ยที่อยู่ด้านในจวนมหาเสนาดี เพิ่งจะได้ทราบเรื่อง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ