องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ นิยาย บท 259

ฮูหยินใหญ่ตัดสินใจแล้ว ลูกสะใภ้ที่อยู่ข้างกายทราบดีว่าแม่สามีของนางคุกเข่าไม่ได้ ด้วยสถานะอันสูงศักดิ์ ดังนั้นนางจึงเป็นฝ่ายคุกเข่าแทน

“พระชายาเย่ โปรดช่วยเราด้วย”

ฉีเฟยอวิ๋นชะงัก “พวกท่านกำลังทำอะไรอยู่ ยิ่งกว่านั้นพระชายารองอวิ๋นจะไปอยู่ที่วัดได้อย่างไร”

“ข้ารับรู้และขอบคุณในความหวังดีของพระชายาเย่ แต่ไม่มีวิธีใดจะดีไปกว่านี้แล้ว นี่เป็นวิธีเดียวที่จะปกป้องนางและปกป้องศักดิ์ศรีของท่านอ๋องตวน”

"..."

ฉีเฟยอวิ๋นกำลังจะพูดบางอย่าง แต่อวิ๋นหลัวฉวนวิ่งลงจากเตียงและหยิบกริชขึ้นมาเสียก่อน ฉีเฟยอวิ๋นตกใจหน้าซีด ร้องเรียกนาง “อย่าทำอะไรบ้าๆ นะ”

หนานกงเย่รีบถลันเข้าไปแต่ก็ไม่ทัน อวิ๋นหลัวฉวนกำลังจะแทงกริชลงไป

ขณะที่นางกำลังจะทำร้ายตัวเอง ประตูก็ถูกถีบจนเปิดออก “หยุดนะ”

อวิ๋นหลัวฉวนมองไปที่ประตูก่อนจะโยนกริชทิ้งด้วยความตกใจ

ทุกคนจ้องมองหนานกงเหยี่ยนที่เดินเข้ามา

แววตาของหนานกงเหยี่ยนลึกซึ้ง เขามองอวิ๋นหลัวฉวนและก้าวเข้าไปหา เมื่ออวิ๋นหลัวฉวนก้าวถอยหลังและคิดจะหนี เขาจึงตะโกน “หยุด”

อวิ๋นหลัวฉวนไม่กล้าเคลื่อนไหวอีกต่อไป นางยืนนิ่งอยู่กับที่และร้องไห้หนักมาก

หนานกงเหยี่ยนโน้มตัวไปอุ้มอวิ๋นหลัวฉวนขึ้นมาเมื่อเดินมาอยู่ตรงหน้านาง อวิ๋นหลัวฉวนตกใจกำเสื้อของอีกฝ่ายไว้แน่น หนานกงเหยี่ยนก้มหน้ามองนาง “เด็กในท้องเป็นลูกของข้า”

"..."

ทุกคนตกตะลึง มีเพียงอวิ๋นหลัวฉวนที่ร้องไห้อย่างทุกข์ทรมาน นางคิดว่าอ๋องตวนเพียงแค่ต้องการจะช่วยนางเท่านั้น

หนานกงเหยี่ยนอุ้มอวิ๋นหลัวฉวนไปที่เตียงก่อนจะวางนางลงเบาๆ จากนั้นจึงห่มผ้าห่มให้

หนานกงเหยี่ยนมองอวิ๋นหลัวฉวนอยู่ครู่หนึ่งและปฏิเสธที่จะนั่งลงข้างเตียงของนาง เขาหยิ่งในศักดิ์ศรีและมีท่าทีที่น่าเกรงขาม

“ฮูหยินใหญ่ เอ้อร์เหนียงเชิญนั่งลงเถิด”

สะใภ้แห่งจวนกั๋วกงที่นั่งอยู่บนพื้นลุกขึ้นยืนและเข้ามาประคองฮูหยินใหญ่ที่ตัวแข็งทื่อราวกับท่อนไม้ไปนั่ง ต่างก็ได้แต่คิดว่าเกิดอะไรขึ้น

ฉีเฟยอวิ๋นก็ตกใจจนหนานกงเย่ต้องมาประคองนางให้นั่งลงและนั่งมองอ๋องตวนด้วยกัน

จากนั้นหนานกงเหยี่ยนจึงกล่าวว่า “ฉวนเอ๋อร์จำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นในคืนนั้น แต่ข้าจำได้ เนื่องจากท่านทั้งหลายเข้าใจฉวนเอ๋อร์ผิด ข้าจึงมาล้างมลทินให้นาง เพื่อไม่ให้ใครนำเรื่องนี้ไปพูดเสียๆ หายๆ

ข้าไม่คิดว่าจะมีใครมาทำร้ายฉวนเอ๋อร์”

ฉีเฟยอวิ๋นนั่งดูเงียบๆ ไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่ว่าหากนางตัดเรื่องอื่นๆ ทิ้งไป คำพูดนี้ของอ๋องตวนก็ถือว่ามีประโยชน์มากทีเดียว

เพียงแต่ว่าเขายังมีจวินฉูฉู่อีกคน เมื่อพูดเช่นนี้ในตอนนี้ เขาจึงดูเป็นคนไม่ได้เรื่องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

หากตัดสินจากคำจำกัดความของฉีเฟยอวิ๋น ไม่ว่าอย่างไรจวินฉูฉู่ก็ไม่คู่ควร และอ๋องตวนก็เก็บซ่อนความรักครั้งใหม่ไว้ไม่ได้

ท้ายที่สุดที่เคยมอบความรักให้อย่างแรงกล้าในตอนแรก ตอนนี้กลับปันใจไปหาผู้อื่นเสียแล้ว

ซึ่งนี่ไม่เหมือนกับภาพลักษณ์ของชายผู้ลุ่มหลงในความรักในความคิดของฉีเฟยอวิ๋นสักเท่าไหร่

ดังนั้นจะจำกัดความว่าเขาเป็นคนไม่ได้เรื่องก็คงไม่ผิด

แม้ว่าอวิ๋นหลัวฉวนจะมีสภาพที่น่าเวทนา แต่ในยุคโบราณเช่นนี้ก็ไม่ได้ถือว่านางไร้ความผิดเสียทีเดียว

“วันนั้นฉวนเอ๋อร์และตงเอ๋อร์ออกไปร่วมกินอาหารที่จวนอ๋องเย่ หลังจากกินเสร็จก็เห็นว่าฝนกำลังจะตก ตงเอ๋อร์จึงรีบกลับไป บอกว่าจะไปเอาร่ม นางจึงออกมาก่อน ตอนที่ฉวนเอ๋อร์กลับมาถึงหน้าจวนฝนก็ตกลงมาแล้ว นางจึงต้องหาที่หลบฝน

ข้ากำลังดื่มสุราอยู่ที่นั่น นางจึงมาร่วมดื่มกับข้า

ฉวนเอ๋อร์เมามาก ข้าเองก็เริ่มเมาเล็กน้อยจึงตั้งใจจะกลับจวน ไม่คิดว่าฝนจะตกหนักราวกับฟ้ารั่วจนไปไหนไม่ได้

ฉวนเอ๋อร์กับข้าอยู่ด้วยกัน และฝนก็ตกหนักจนทำให้พวกเราเปียกไปทั้งตัว

ข้า... ข้าเมาจนเผลอตัวไปชั่วขณะ...”

อ๋องตวนมองใบหน้าที่ซีดเซียวของอวิ๋นหลัวฉวน “ตอนแรกข้าต้องการจะบอกเจ้า แต่ไม่รู้จะพูดอย่างไร หลังจากวันนั้นเจ้าก็กลับไปที่จวนกั๋วกงเพราะเรื่องของตงเอ๋อร์ แล้วข้าก็ทำร้ายจงชินอ๋องอีกจนเจ้าโกรธข้า ข้าจึงไม่ทันได้บอกเจ้า”

อวิ๋นหลัวฉวนสะอื้นไห้ “เป็นท่านจริงๆ เช่นนั้นหรือ”

“คิดว่าข้าล้อเล่นอยู่หรือ ข้าคิดเพียงว่า แค่ครั้งเดียว... มัน...”

อวิ๋นหลัวฉวนรู้สึกอับอายเล็กน้อย จึงหันไปอีกทางและปิดใบหน้าของตนไว้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ