องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ นิยาย บท 292

ฉีเฟยอวิ๋นถูกหนานกงเย่อุ้มไปบนบัลลังก์มังกรของจักรพรรดิอวี้ตี้ ตามคำสั่งของจักรพรรดิอวี้ตี้

สวีกงกงรีบไปประกาศเรียกหมอหลวง หมอหลวงหูรีบเข้ามายังตำหนักบำรุงฤทัยด้วยความตกใจจนเหงื่อผุดเต็มหน้าผาก ในขณะที่กำลังจะคุกเข่าแสดงความเคารพก็ถูกจักรพรรดิอวี้ตี้เรียกไป : “ขึ้นมาเถอะ ไม่ต้องคุกเข่า”

หมอหลวงหูจึงรีบไต่บันไดขึ้นไป กระทั่งมาถึงตรงหน้าบัลลังก์มังกรและรีบคุกเข่าลง เขามีโอกาสได้ขึ้นมายังสถานที่แห่งนี้แล้ว

จักรพรรดิอวี้ตี้ในชุดคลุมมังกรอันเจิดจรัสยืนเฝ้ามองอยู่ด้านข้าง พลางกุมมือ สีหน้าถอดสีลง

หนานกงเย่โอบกอดร่างของฉีเฟยอวิ๋นไว้ พร้อมกับกุมมือของนางไว้แน่น

เวลานี้เขาหงุดหงิดงุ่นง่านใจมาก รู้ว่านางไม่ได้พักผ่อนเลยตลอดหนึ่งวันกับอีกหนึ่งคืน เขาก็ยังพานางมาทรมานนานเพียงนี้ กลางคืนก็นอนไม่เพียงพอ รุ่งสางก็ยังต้องตื่นเช้า เข้าวังก็ต้องมาเจอเรื่องนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จึงกลายเป็นเช่นนี้ไปในที่สุด

“ท่านอ๋องเย่ บ่าวขอตรวจดูหน่อยพ่ะย่ะค่ะ”

หมอหลวงหูพยายามทำจิตใจให้สงบ และรีบเข้าตรวจดูอาการให้แก่ฉีเฟยอวิ๋นทันที หลังจากปล่อยมือก็กล่าวว่า : “กราบทูลฝ่าบาท อัตราการเต้นของหัวใจเด็กในครรภ์ยังไม่คงที่ อีกทั้งชีพจรก็มีความผิดปกติด้วย จำเป็นต้องนอนราบบนเตียงพ่ะย่ะค่ะ”

หมอหลวงหูตรวจออกมาเช่นนี้ จักรพรรดิอวี้ตี้เวลานี้จึงยิ่งวุ่นวายใจ

“ต้องจัดยาบำรุงครรภ์ด้วยหรือไม่?”

“ต้องจัดพ่ะย่ะค่ะ”

หมอหลวงหูรีบออกใบสั่งยาใบหนึ่ง

สวีกงกงรีบหยิบมันไปรับยาทันที

คนในวังเวลานี้ล้วนพูดกันหนาหูว่าอัตราการเต้นของหัวใจเด็กในครรภ์ของพระชายาเย่ไม่คงที จนเกือบเกิดเรื่อง

ยามนี้ยังคงอยู่ในตำหนักบำรุงฤทัย เป็นหรือตายก็ไม่อาจรู้ได้

หมอหลวงหูยังไม่ออกมาเป็นเวลากว่าครึ่งชั่วยาม

เมื่อไห่กงกงได้รับข่าว ก็รีบทูลเรื่องนี้แก่ฮองเฮาทันที

แผ่นบำรุงหน้าแผ่นหนึ่งร่วงหล่นจากมือของพระพันปีตกสู่พื้น

พระพันปีมองออกไป : “เกิดขึ้นเมื่อไหร่?”

“ข่าวที่ได้รับเมื่อครู่ เวลานี้ผ่านไปแล้วหนึ่งชั่วยามพ่ะย่ะค่ะ” ไห่กงกงเหงื่อผุดจนเปียกชุ่ม

กลัวอะไรมักได้เช่นนั้นจริง ๆ เด็กคนนี้สำคัญยิ่งกว่าสิ่งใด

ฝ่าบาททั้งสองตำหนักล้วนไร้ซึ่งทายาท บัดนี้เหล่าท่านเสนาบดีต่างเสนอเรื่องนางสนม ฝ่าบาทปฏิเสธอย่างเด็ดขาด

โชคดีที่ท่านอ่องเย่ ท่านอ๋องตวนล้วนมีข่าวดี แต่บัดนี้กลับเกิดเรื่อง แล้วจะดีได้อย่างไร?

พระพันปีนั่งลงด้วยใบหน้าที่ใสสะอาด : “ไปดูในนามของข้า หากกระทำการไม่สะดวก ก็ให้รับมา”

“พ่ะย่ะค่ะ”

ไห่กงกงรีบไปยังตำหนักบำรุงฤทัยทันที ยามนี้พระมเหสีหวาก็ได้รับข่าวเช่นเดียวกัน ซึ่งนางแปลกใจมาก : “ดี ๆ อยู่แท้ ๆ ดันเกิดเรื่องเสียได้?”

“ว่ากันว่าเพราะคุกเข่านานเกินไปจึงเกิดเรื่องขึ้นเพคะ” แม่นมหลิวเองก็ได้ยินมาเช่นกัน ในวัง เรื่องทุกอย่างล้วนฟังต่อ ๆ กันมา ซึ่งปกติแล้วใครบ้างเล่าจะไม่มีสอดแนมสักคนสองคน

พระมเหสีหวาลุกขึ้น จากนั้นก็ลากกระโปรงที่ยาวและหนักไปตามพื้น

“น่าแปลกจริง ในวังของเราเกิดอะไรขึ้น? เหตุใดถึงได้...”

พระมเหสีหวารู้ดีว่าเรื่องบางเรื่องก็ไม่ควรพูด นางลังเลชั่วครู่ : “ไปบอกแม่นมเว่ย ว่าข้าไม่อนุญาตให้พระชายารองอวิ๋นเข้าวัง แล้วจัดทหารสองสามคนไปเฝ้าที่นั่นไว้ อย่าให้เกิดเรื่องอะไรขึ้นโดยเด็ดขาด

ไม่ว่าข้าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต จะต้องรักษาเด็กคนนี้ไว้ให้ได้ หากรักษาไว้ไม่ได้ใครหน้าไหนก็อย่าได้คิดว่าจะอยู่ดีมีความสุข

อีกเรื่อง....ไปบอกจวินฉูฉู่ผู้นั้นด้วย ให้นางซื่อสัตย์ต่อข้า

ตอนนี้ ไม่ว่าเด็กที่อยู่ในครรภ์ของพระชายารองอวิ๋นจะเป็นอย่างไร ก็อย่าได้โทษว่าข้าไม่รักษาสัจจะ คนที่ควรถามเป็นคนแรกก็คือนาง”

แม่นมหลิวพยักหน้า : “บ่าวเข้าใจแล้ว บ่าวจะไปจัดการเดี๋ยวนี้พ่ะย่ะค่ะ”

กว่าแม่นมหลิวจะได้รับข่าวก็เป็นเวลากว่าหนึ่งชั่วยามแล้ว

อวิ๋นหลัวฉวนแปลกใจ : “แม่นม คนในวังมาแล้วใช่หรือไม่?”

แม่นมหลิวหันไปมอง : “มาแล้วเพคะ แต่ไม่ใช่เรื่องสำคัญนัก บอกแค่ให้ปรนนิบัติอย่างระมัดระวังเท่านั้น”

“ปรนนิบัติอย่างระมัดระวังก็ยังต้องมาบอกรึ?” อวิ๋นหลัวฉวนแปลกใจไม่น้อย

แม่นมเว่ยพยักหน้า ตอบกลับโดยไม่เผยพิรุธแต่อย่างใด

อวิ๋นหลัวฉวนเองก็ไม่ได้สงสัย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ