“ท่านอ๋อง"
เห็นอวิ๋นหลัวฉวนแปลกใจบ้างเล็กน้อยโดยจ้องมองยังหนานกงเหยี่ยนเป็นเวลานานแล้วลุกยืนขึ้น
สีหน้าอ๋องตวนดูไม่ได้เลยช่างเย็นยะเยือก อวิ๋นหลัวฉวนรู้สึกได้ว่าเขาอาจจะเข้าใจผิดซะแล้ว
คราวก่อนอ๋องตวนโบยขาจงชินอ๋องจนขาด จู่ๆวันนี้ก็โผล่มาแล้วยังอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้อีก ช่างน่ากังวลใจยิ่งนัก
“เหตุใดพระชายารองถึงได้มาอยู่ที่นี่?” อ๋องตวนก้าวขึ้นบันไดเข้าไปในศาลา เมื่อไปถึงเบื้องหน้าของอวิ๋นหลัวฉวนก็ก้มศีรษะลงมองไปยังนาง ดวงตาอันเย็นยะเยือกมองจนอวิ๋นหลัวฉวนกลัวจนตัวสั่น แต่ว่านางไม่สามารถอธิบายได้ในชั่วเวลาเพียงแค่ครู่ดียวและก็อธิบายไม่ออกด้วย
“ท่านอ๋อง หม่อมฉันมาดูจงชินอ๋อง” เดิมทีอวิ๋นหลัวฉวนก็มิได้กลัวอ๋องตวน เพียงแต่ว่าเขาปรากฏตัวกะทันหัน พร้อมทั้งในตัวเต็มไปด้วยความรู้สึกบีบคั้นซึ่งทำให้นางประหลาดใจขึ้นมาเป็นธรรมดา แต่พยายามใจเย็นลงมาก็ดีขึ้นมากแล้ว
“สองสามวันก่อนข้าได้รับบาดเจ็บนั้นไม่เห็นเจ้าไปดูแต่กลับมายังที่นี่?” อ๋องตวนไม่พอใจเต็มไปด้วยความโมโหโทโส
เดิมทีอวิ๋นหลัวฉวนก็ไม่ใช่ผู้ที่เห็นแก่ความรักมากนัก จึงมิได้ตระหนักถึงความโกรธจนถึงขั้นที่อ๋องตวนจะชำระบัญชีกับนางเช่นนั้น
นางจ้องไปยังอ๋องตวน: “ท่านอ๋อง ท่านดีขึ้นบ้างหรือไม่?”
“......” เมื่อถูกถามขึ้นมาอ๋องตวนก็ยิ่งโมโหมากขึ้น
เขามาที่นี่เพื่อขอให้นางเป็นห่วงเป็นใยหรือ?
เห็นว่านางกำลังตั้งครรภ์จึงได้ข่มความโกรธลงไม่ถือสานาง
หันกลับมามองยังจงชินอ๋องผู้ที่อยู่เบื้องหลังนั้น จงชินอ๋องกล่าวขึันทันทีว่า: “ไม่ได้พบกันหลายวันอ๋องตวนสบายดีหรือไม่?”
“มีเจ้าอยู่ข้าจะสบายดีได้หรือ? ลานอันกว้างใหญ่ในจวนนี้ของท่านช่างดูดียิ่งนัก หากข้าไม่เข้ามาก็ไม่รู้ว่าศาลานี้ของท่านได้จัดเตรียมสุราอาหารเอาไว้แล้ว”
ขณะที่กล่าวอ๋องตวนก็ปัดขนมและผลไม้บนโต๊ะ จงชินอ่องตกใจจนก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าวด้วยใบหน้าอันซีดเผือด
“อ๋องตวน ท่านเข้าใจผิดแล้ว”
“เข้าใจผิด ข้าขอเตือนเจ้าอย่าได้เจอกับพระชายารองอวิ๋นอีก เจ้าจำไม่ได้หรือว่าฟังคำพูดของข้าเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา?”
แม้ว่าอารมณ์ของอ๋องตวนจะดูเฉยๆ แต่ว่าเขาไม่มีทางไร้ซึ่งอารมณ์เป็นแน่ เขาโมโหขึ้นมาคว้าจานที่เหลืออยู่บนโต๊ะแล้วฟาดไปยังเบื้องหน้าของจงชินอ๋องโดยตรง จงชินอ๋องตกใจจนเอามือทั้งสองข้างบังหน้าเอาไว้ ส่วนอ๋องตวนเดินเข้าไปก็ทำร้าย
อวิ๋นหลัวฉวนตกใจจนหน้าซีดและกำลังจะก้าวเดินเข้าไป แม่นมเว่ยมือไม้ว่องไวรีบยืนรั้งอวิ๋นหลัวฉวนไว้: "พระชายารองอย่าได้รีบร้อน ข้าน้อยมีวิธีเพคะ"
ช่วงเวลานี้อวิ๋นหลัวฉวนเข้ากันได้ดีกับแม่นมเว่ย ดังนั้นเรื่องใดก็ตามที่แม่นมเว่ยบอกว่าได้ก็ต้องได้แน่
นางมัวแต่ยุ่งอยู่กับมองแม่นมเว่ย แม่นมเว่ยกล่าวด้วยเสียงเบาไม่กี่คำอวิ๋นหลัวฉวนก็รีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว
“ปวด แม่นมเว่ย ข้าปวด......”
อวิ๋นหลัวฉวนกุมมือแม่นมเว่ยด้วยใบหน้าทุกข์ทรมาน
อ๋องตวนซึ่งกำลังจะโยนจงชินอ๋องออกไปเมื่อได้ยินว่าอวิ๋นหลัวฉวนอาการไม่ดี จึงรีบหันเดินกลับไปยังข้างๆอวิ๋นหลัวฉวนอย่างรวดเร็ว
อวิ๋นหลัวฉวนเห็นว่าใช้การได้จึงยืนเอาไว้ไม่อยู่ในทันทีแล้วร่างของนางก็ล้มตัวลง อ๋องตวนไม่สนใจสิ่งใดก้มตัวลงแล้วอุ้มนางขึ้นในแนวนอนและเดินตรงออกไปจากจวนจงชินอ๋อง
จงชินอ๋องก็ตามออกไปด้วย เมื่อถึงตรงประตูก็ตกใจกับสายตาของอ๋องตวนจนถอยออกไป
ขึ้นรถม้าแล้วอ๋องตวนก็รีบไปยังจวนอ๋องเย่ ประการแรกที่นั่นอยู่ใกล้ ประการที่สองในความเห็นของอ๋องตวนเพียงแค่ฉีเฟยอวิ๋นอยู่ คนตายก็สามารถช่วยชีวิตไว้ได้ ถึงแม้ว่าจะเข้าไปในโลงศพและฝังดินแล้วก็ยังสามารถรอดกลับมาได้
ในรถม้าอ๋องตวนยังคงอุ้มอวิ๋นหลัวฉวนเอาไว้ แม้ว่าจะมีน้ำโหทว่ากลับไม่ได้ปล่อยตัวอวิ๋นหลัวฉวนออกเลย
แต่เขาก็ไม่ได้กล่าวสิ่งใด มีเพียงมือที่กุมเอาไว้แน่นนั้นที่มองออกถึงความตึงเครียดของเขา อย่างไรก็ตามเขาก็เป็นพ่อมือใหม่ เด็กคนนี้เป็นของเขาไม่ผิดแน่และในคืนนั้นเขาก็กลายเป็นสวามีของนาง
แม่นมเว่ยกลับรู้สึกว่าท่านอ๋องมิได้ไม่มีความนึกคิดแต่เขาไม่รู้แจ้งในความนึกคิดนั้น
นี่ถือเป็นสิ่งดี แม่นมเว่ยตั้งใจที่จะทูลต่อพระมเหสีหวา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ