อาอวี่อยากจะห้ามแต่ห้ามไว้ไม่ได้ ฉีเฟยอวิ๋นเดินเข้าไปข้างในแล้ว
ภายในลานบ้านกว้างขวางมาก ฉีเฟยอวิ๋นกวาดสายตามองไปรอบๆ ดูเหมือนที่นี่จะเป็นสวนด้านหลังจวนอ๋องแห่งใดแห่งหนึ่ง แต่สวนด้านหลังแห่งนี้ใหญ่มาก
เมิ่งกวงนำคนสองสามคนพาฉีเฟยอวิ๋นเดินตรงไปข้างหน้า
หลังจากเดินมาสักพักก็เข้ามาถึงประตูบานหนึ่ง ทุกคนห้อมล้อมอาอวี่เอาไว้ ฉีเฟยอวิ๋นหันกลับไปมอง และคนเหล่านั้นก็เริ่มลงมือ
เมิ่งกวงยิ้ม “พระชายา ขอเพียงแค่ท่านเชื่อฟังข้า ข้าจะปฏิบัติกับท่านอย่างดี”
“คนที่อยากทำดีกับข้านั้นมีมากเกินไป สุดท้ายก็ตายกันหมด” สายตาของฉีเฟยอวิ๋นเรียบเฉยไม่ทุกข์ไม่ร้อน นางไม่ได้ใส่ใจเลยแม้แต่น้อย
เมิ่งกวงชอบผู้หญิงอย่างฉีเฟยอวิ๋น
“เช่นนั้นข้าคงต้องลองดู ในเมื่อท่านบอกว่ายังมีเวลาอีกหนึ่งชั่วยาม ข้าจะลอง”
เมิ่งกวงว่าแล้วก็คิดจะเข้ามาใกล้ ฉีเฟยอวิ๋นหันหน้าหนี ขณะที่เมิ่งกวงเข้ามาใกล้ อีกาตัวหนึ่งก็ถลาลงมาจากฟากฟ้า ดวงตาของเมิ่งกวงเป็นประกายวาบ ตัวของเขาสั่นคลอน รู้สึกถึงกระแสอุ่นๆ ที่ไหลออกมาจากเบ้าตา ครั้นรู้ตัวอีกทีเขาจึงยกมือขึ้นแตะเบ้าตา เมื่อเห็นว่ามือเปื้อนเลือดเขาก็ตกใจมิใช่น้อย
ฉีเฟยอวิ๋นเงยหน้าขึ้น เจ้าอีกาน้อยกำลังบินฉวัดเฉวียนพลางคาบลูกตามนุษย์อยู่ในปาก ฉีเฟยอวิ๋นกล่าวว่า “ช่างอาจหาญนัก บังอาจทำร้ายผู้คน!"
เจ้าอีกาน้อยกลัวฉีเฟยอวิ๋นมาก ทันทีที่ได้ยินนางพูดมันก็บินกลับมา เมิ่งกวงก้มลงไขว่คว้าอย่างสะเปะสะปะจนในที่สุดก็สัมผัสเข้ากับลูกตาและเดินกลับมา
“กลับมาแล้ว ได้มาแล้ว”
เมิ่งกวงตะโกนเสียงดังราวกับคนบ้า ฉีเฟยอวิ๋นส่ายหน้า ปากของเจ้าอีกาน้อยจิกกินแต่เนื้อเน่าเปื่อย ดังนั้นลูกตาที่นางคาบกลับมาส่งคืนจึงเป็นสิ่งที่อันตรายถึงชีวิต
ชีวิตของเมิ่งกวงจบสิ้นแล้ว
“เมิ่งกวง ใครสั่งให้ท่านทำร้ายเฉินอวิ๋นเจี๋ย”
ฉีเฟยอวิ๋นถาม เมิ่งกวงมองฉีเฟยอวิ๋น แม้ว่าเขาจะแข็งแกร่ง แต่เขาก็ไม่มีทางต้านทานบาดแผลที่ฉกาจฉกรรจ์เช่นนี้ได้
หลังจากตัวสั่นเทิ้มอยู่ครู่หนึ่งเขาก็ยังไม่ยอมแพ้อยู่ดี เขาเอ่ยว่า “คนกำลังจะตายย่อมพูดความจริงเสมอ พระชายาตามข้ามาเถิด”
พูดจบเมิ่งกวงก็เข้าไปข้างใน ฉีเฟยอวิ๋นหันไปมองอาอวี่ที่ถูกมัดไว้ก่อนจะตามเข้าไปด้วย
ระหว่างทาง ทั้งสองคนทิ้งระยะห่างจากกันประมาณสองเมตร
ฉีเฟยอวิ๋นไม่ได้กลัวว่าเมิ่งกวงจะตุกติก แต่ตัวเมิ่งกวงยังไม่ปล่อยวางจากฉีเฟยอวิ๋น
ทั้งสองคนเดินไปได้ระยะหนึ่งก็พ้นออกมาจากสวนด้านหลังและเข้ามาที่ลานด้านหน้า ฉีเฟยอวิ๋นรู้สึกได้รางๆ ว่านางกำลังจะได้พบคนของจงชิน
“ขอบอกท่านเลยว่าไม่เป็นไร คนที่ซื้อตัวข้าคือคนของจงชิน เขาคือชินอ๋อง ทว่าข้าบอกท่านไม่ได้ว่าเป็นชินอ๋องคนไหน แต่ไว้เมื่อท่านเห็นพวกเขาท่านก็จะรู้เอง”
เมิ่งกวงหันกลับมามองฉีเฟยอวิ๋น ร่างกายที่กำยำของเขายังคงสั่นเทา ดวงตาข้างหนึ่งของเขาไม่ต่างอะไรจากน้ำเต้าโลหิตที่อยู่ในเบ้าตา และเลือดก็ไหลออกมาจากตาไม่หยุด
ฉีเฟยอวิ๋นมองใบหน้าเขาอย่างหวาดกลัวและนึกสงสัยว่าเจ้าอีกาน้อยมีพิษหรือเปล่า
ไม่เช่นนั้นแล้วจะเข้าใจได้อย่างไรว่าเลือดในตาของเมิ่งกวงจะไหลทะลักออกมา
เมิ่งกวงมองฉีเฟยอวิ๋นและคว้ามือเอาไว้ เขาใช้มือกระชับกางเกงขึ้นมา ราวกับว่าในกางเกงมีอะไรดีๆ อยู่และทำให้เขาอยากจะลองดู
ฉีเฟยอวิ๋นเข้าใจได้ว่าเขากำลังกระสับกระส่าย
“ข้าจะบอกนายท่านให้มอบท่านเป็นรางวัลแก่ข้า ถึงตอนนั้นท่านกับข้าจะมีความสุขด้วยกันทั้งคู่”
เมิ่งกวงพูดทั้งที่ตัวสั่นสะท้าน เขายิ้มและหันกลับไปเดินต่อ
ฉีเฟยอวิ๋นเงยหน้ามองเจ้าอีกาน้อย เมื่อเห็นว่ามันทำท่าเหมือนอยากจะโฉบลงมาทำร้ายเมิ่งกวงฉีเฟยอวิ๋นจึงส่ายหน้า ดังนั้นเจ้าอีกาน้อยจึงไม่เข้ามาใกล้และบินไปสังเกตการณ์อยู่บนหลังคา
เมิ่งกวงเดินต่อไปโดยที่มีฉีเฟยอวิ๋นตามไปข้างหน้า
ในไม่ช้าก็เดินมาจนถึงประตู เมิ่งกวงเปิดประตูและเดินออกไป ภายในลานมีสวนไผ่อยู่แห่งหนึ่ง เมิ่งกวงเดินไปที่สวนไผ่นั้น
ฉีเฟยอวิ๋นเดินตามไปและเห็นรางๆ ว่ามีใครคนหนึ่งยืนอยู่ในสวนไผ่ คนผู้นั้นสวมอาภรณ์สีดำและสวมหน้ากากเอาไว้ ฉีเฟยอวิ๋นคะเนจากรูปร่างว่าคนผู้นั้นน่าจะเป็นผู้ชาย อีกทั้งยังเด็กมากด้วย
ฉีเฟยอวิ๋นเดาว่าคนคนนี้จะต้องเป็นคนจากตระกูลจงชิน
เมิ่งกวงเดินเข้าไปใกล้และคุกเข่าลงด้วยขาข้างหนึ่ง สองมือประสานกันและเอ่ยว่า “ข้าน้อยคารวะนายท่าน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ