ฉีเฟยอวิ๋นมองไปยังโจวต้าหมาน: "แล้วเจ้าหล่ะ จะทำเช่นไรต่อไป?"
โจวต้าหมานมองดู
จางเฉิง นางไม่เต็มใจจึงไม่อยากกล่าว แต่นางก็ไม่ได้ติดตามเฉินเกิงไป
“ความหวังดีของอาลักษณ์ราชสำนักเฉินราษฎรผู้ต่ำต้อยรับด้วยใจแล้ว ราษฎรผู้ต่ำต้อยไม่มีบุญพอที่จะเป็นน้องสาวของอาลักษณ์ราชสำนักเฉิน” โจวต้าหมานมองไปยังฉีเฟยอวิ๋น
“ขอบคุณพระชายาเย่ที่ช่วยข้าแต่ข้าอยากกลับไปที่เรือน ที่นี่ไม่เหมาะกับข้า” โจวต้าหมานนั้นเศร้าโศกเสียใจและนางต้องการจากไป
ฉีเฟยอวิ๋นจึงได้กล่าวขึ้นว่า: "เจ้าจะจากไปต้องใช้เวลาอีกนาน ราชโองการของฝ่าบาทยังไม่มาฉะนั้นเจ้ากลับไปกับข้าก่อนเถอะ"
"เพคะ"
โจวต้าหมานรับปากแล้ว จากนั้นฉีเฟยอวิ๋นหันหลังกลับไปจากจวนของจางเฉิงแล้วเดินออกประตูตรงกลับไปยังจวนอ๋องเย่
ในวันนั้นฉีเฟยอวิ๋นนำคำรับสารภาพไปให้กับหนานกงเย่ ขณะที่เขาเข้าวังไปในตอนบ่ายก็ถวายคำรับสารภาพต่อองค์จักรพรรดิอวี้ตี้ ฟ้ามืดแล้วองค์จักรพรรดิอวี้ตี้มีราชโองการให้จางเฉิงออกจากตำแหน่งและส่งตัวเข้าคุกหลวงลงโทษเป็นเวลาสามปี
อนุภรรยาถูกเนรเทศ
โจวต้าหมานได้รับพระราชทานยศเป็นจงเซี่ยวเสี้ยนจู่และให้รางวัลเป็นเงินจำนวนมาก
“ขอบพระทัยฝ่าบาท” โจวต้าหมานรับพระราชโองการแล้วลุกขึ้นไปทางฉีเฟยอวิ๋นและก้มกายพร้อมทั้งเช็ดน้ำตา
“ขอบคุณพระชายาเย่ที่ช่วยเหลือข้า”
ว่ากันถึงแก่นแท้แล้วก็ยังเศร้าโศกเสียใจอยู่ดี ถึงแม้ว่าเรื่องนี้นางจะชนะแล้วแต่ก็ได้สูญเสียสามีไป
ฉีเฟยอวิ๋นกล่าวขึ้นในเวลานี้ว่า: "เจ้ามีอโรคที่ไม่อาจเปิดเผยได้ใช่หรือไม่?"
เมื่อได้ยินว่าโรคที่ไม่อาจเปิดเผยได้นั้นใบหน้าอันหมองคล้ำของโจวต้าหมานก็แดงขึ้นมาอย่างอั้นไว้ไม่อยู่แล้วกล่าวกับนางว่า: "พระชายารู้เรื่องนี้ได้เช่นไร?"
“เจ้าไม่ต้องรู้ว่าข้ารู้ได้เช่นไร เจ้าแค่บอกมาว่าใช่หรือไม่?”
"ใช่"
โจวต้าหมานใบหน้ากระดากใจ นางไม่รู้ว่าฉีเฟยอวิ๋นรู้เรื่องนี้ได้เช่นไรแต่นางก็ไม่กล้าปิดบัง
ฉีเฟยอวิ๋นหยิบขวดเครื่องลายครามสีขาวขวดหนึ่งจากแขนเสื้อซึ่งขนาดใหญ่พอๆกับถ้วยขนาดเล็ก ด้านบนปิดผนึกเอาไว้
“รับไป ของสิ่งนี้เจ้าใช้ทาวันละสามครั้ง เสร็จเรียบร้อยแล้วจากนั้นปิดผนึกให้ดีแล้ววางไว้ในที่เย็นเพื่อใช้ในภายหลัง
โรคนี้กลัวร้อนใน กลัวหนาว เจ้าต้องล้างให้สะอาดทุกคืนเพื่อไม่ให้อาการป่วยกำเริบได้ง่าย"
โจวต้าหมานรับขวดยามาด้วยใบหน้าอันประหลาดใจแล้วเช็ดน้ำตาพร้อมทั้งรีบขอบคุณฉีเฟยอวิ๋น
ฉีเฟยอวิ๋นสังเกตว่าโจวต้าหมานนั้นชอบร้องไห้
ที่จริงแล้วนางเป็นคนดีมาก เป็นเพราะจางเฉิงเนรคุณและไร้วาสนา
ขณะที่โจวต้าหมานจากไปนั้นได้กล่าวขอบคุณแล้วขอบคุณอีกแต่ฉีเฟยอวิ๋นไม่กล่าวสิ่งใดเลยสักคำ
นางทอดหายใจมากมาย อยู่ที่นี่หญิงผู้หนึ่งต้องการอยู่รอดนั้นช่างยากลำบากยิ่งนัก!
เรื่องราวของโจวต้าหมานทำให้ฉีเฟยอวิ๋นมีชื่อเสียงมาก ทั่วทั้งเมืองหลวงได้รู้กันทั้งสิ้นว่าฉีเฟยอวิ๋นจัดการเรื่องราวได้เด็ดขาด สำหรับเรื่องที่บุรุษเห็นอนุสูงกว่าภรรยาเอกนั้นจะไม่ยอมลามือ
ในเมืองหลวงนั้นยังมีข่าวลือว่าฉีเฟยอวิ๋นอิจฉาริษยาจนเป็นนิสัยและจะไม่มีวันปล่อยอนุไป
ลือไปลือมาชื่อเสียงอันดีได้กลายเป็นชื่อเสียงที่ไม่ดีไปซะแล้ว
ฉีเฟยอวิ๋นตื่นแต่เช้าและเตรียมตัวออกไปก็ได้ยินลี่ว์หลิ่วกล่าวขึ้นอย่างไม่พอใจที่หน้าประตูว่า: "พระชายาของเราดีเกินไปช่วยเหลือผู้คนมากมายเช่นนั้น พวกเขายังว่ากล่าวพระชายาของเราเช่นนั้น เมื่อเช้าแม่นมอู๋กลับมาจากข้างนอกก็โกรธจนร้องไห้ คนพวกนั้นบอกว่าพระชายาเป็นหญิงขี้หึง แม่นมอู๋ก้าวไปพูดไม่กี่คำ กลับถูกพวกเขาเขวี้ยงปาไข่ใส่แม่นมอู๋จนใบหน้าฉีกขาดแล้ว"
ฉีเฟยอวิ๋นหยุดฟังตรงหน้าประตู หงเถาเป็นผู้ที่นิสัยอ่อนโยนและมั่งคงก็ถอนหายใจด้วยความโกรธ: "พระชายาเย่ไม่ทราบเรื่องเหล่านี้อย่าได้พูดไป ตอนนี้ท่านตั้งครรภ์อยู่หากโมโหจะส่งผลต่อทารกในครรภ์ของท่าน
ช่วงสองสามวันนี้ท่านอ๋องวุ่นอยู่กับเรื่องการสืบสวนผู้ทรยศภายในซึ่งก็ยุ่งมากเช่นกัน! "
“มีแต่เจ้าที่ซื่อตรง เรื่องเช่นนี้ควรบอกพระชายา ไม่เช่นนั้นวันนี้เป็นแม่นมอู๋ พรุ่งนี้เป็นพ่อบ้านอาวุโส วันมะรืนเป็นอาอวี่แล้ววันต่อไปก็เป็นพระชายาของเราแล้ว พวกเขาไม่มีทางจบเรื่องไปเช่นนี้แน่
ผู้คนเหล่านั้นก็รออยู่ตรงหน้าประตูจวนของเรา ปกติก็ไม่มีสิ่งใด ทันทีที่คนในจวนของเราออกไป พวกเขาก็จะวิ่งออกมาพูด เมื่อพูดขึ้นมาคนในจวนของเราก็จะโมโหและก็เข้าไปถกกันเป็นธรรมดาแล้วพวกเขาก็จะลงไม้ลงมือกัน อย่างไรพระชายาก็ต้องออกไปถึงเวลานั้นจะทำเช่นไร? "
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ