หนานกงเยี่ยนถาม "หรือว่าจากคำพูดของจักรพรรดิ แผ่กิ่งก้านเพื่อจักรพรรดิและเพิ่มทายาทในราชวงศ์ มิใช่ว่าเป็นการจงรักภักดีต่ออาณาจักรต้าเหลียงหรือจงรักภักดีต่อจักรพรรดิหรอกหรือ?
ข้าคิดว่า คงจะเปลี่ยนวิธีซะมากกว่า"
อวิ๋นหลัวฉวนไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง "ท่านกำลังกังวลกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง ปกป้องคุ้มครองอาณาจักรและการมีทายาทเพื่อสืบสกุลให้กับท่านอ๋องจะไปเหมือนกันได้อย่างไร?"
"ทำไมจะไม่เหมือนกัน ให้กำเนิดลูกชายมาให้จักรพรรดิหลายๆ คน ต่อไปจะสามารถพาไปสู้รบออกศึกได้ ไปทำให้บ้านเมืองสงบร่มเย็น นั่นถึงจะเรียกว่าจงรักภักดี นั่นต่างหากคือความสามารถ
เจ้าไปออกรบคนเดียว หากตายไปจะทำอย่างไร?
เจ้าไม่มีรุ่นหลังรุ่นต่อไป เจ้าก็ทำได้เพียงจงรักภักดีต่อตัวเอง หากเจ้ามีลูกมากๆ ต่อไปก็จะได้จงรักภักดีต่ออาณาจักรต้าเหลียงไม่ดีหรือ?
ปกป้องคุ้มครองอาณาจักรต้าเหลียงให้สงบสุขไม่ดีหรือ?"
อวิ๋นหลัวฉวนมีสีหน้ามึนงง "การให้กำเนิดลูกนั่นเป็นหน้าที่ของผู้หญิงคนอื่น ต่างกับข้า ข้า......"
"ข้าคิดว่าไม่มีอะไรต่างกัน ก็แค่กังวลกับเรื่องไม่เป็นเรื่องเท่านั้น"
อวิ๋นหลัวฉวนรู้สึกตะลึงและรู้สึกว่าพูดอย่างไรก็ไม่ชัดเจน อยากจะพูดปฏิเสธแต่ก็ไม่รู้ว่าพูดอะไร หากไม่พูดปฏิเสธหนานกงเยี่ยนก็ดูเหมือนไม่พอใจ!
ส่งผลให้ทั้งคู่ต่างเงียบไปพร้อมกัน
หลังจากนั่งจ้องมองกันอยู่นาน อวิ๋นหลัวฉวนรู้สึกว่าหนานกงเยี่ยนขยับเข้ามาใกล้ และเดิมทีก็ใกล้มากแล้ว ร่างกายของทั้งสองได้แนบชิดติดกันแล้ว
อวิ๋นหลัวฉวนจึงต้องการจะออกมา
นางต้องการถอยออกไปอีกฝั่ง แต่ถูหนานกงเยี่ยนดึงเอาไว้
"ท่านปล่อยข้านะ ท่าน......"
"ฉวนเอ๋อร์ ข้ามีเรื่องจะถามเจ้า"
เมื่อเห็นว่าหนานกงเยี่ยนดูเคร่งขรึม อวิ๋นหลัวฉวนคิดว่าเขามีเรื่องร้อนใจอะไรจึงไม่ได้ปฏิเสธเขา
"ท่านถามมาสิ"
"หากจงชินอ๋องและข้าเปรียบเทียบกัน เจ้าคิดว่าข้าด้อยกว่าเขางั้นหรือ?" เรื่องนี้อยู่ในใจของหนานกงเยี่ยนมาโดยตลอดไม่อาจลืมได้
อวิ๋นหลัวฉวนส่ายหน้า "คนด้วยกันไม่สามารถเปรียบเทียบได้ ท่านและจงชินอ๋องก็ไม่เหมือนกัน"
"เช่นนั้นทำไมถึงไม่เหมือนกันล่ะ?" หนานกงเยี่ยนระงับความทุกข์ในใจ พยายามสงบสติอารมณ์เพื่อถามความจริง
เห็นได้ชัดว่าอวิ๋นหลัวฉวนไม่คาดคิดว่าหนานกงเยี่ยนจะคิดมากเช่นนี้
"เขาและข้าเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่ยังเล็ก แต่ก็ไม่ได้คิดว่าเขาดีมากอะไร เขาและพี่ชายของข้าอายุไล่เลี่ยกัน แต่เขารักการเรียนรู้มากกว่าใครๆ และก็รู้จักอดทน ส่วนเรื่องอื่นก็คงเป็นเรื่องของนิสัยใจคอ ข้าคิดว่าจงชินอ๋องนิสัยดีมาก
ข้าจำได้ว่าตอนเด็กๆ ที่เล่นอยู่บนถนน เขาเห็นเด็กคนอื่นถูกรังแก เขาก็เข้าไปช่วย"
หนานกงเยี่ยนถอนหายใจเล็กน้อย ดูเหมือนเด็กสาวคนนี้ยังพอมีความหวัง
"เช่นนั้นแล้วข้าล่ะ? ข้านิสัยไม่ดีหรือ?" หนานกงเยี่ยนรู้สึกไม่ยอม
อวิ๋นหลัวฉวนส่ายหน้า "ท่านอ๋องตวนก็นิสัยดี อย่างน้อยก็ดีกับจวินฉูฉู่......"
อวิ๋นหลัวฉวนไม่ต้องการพูดถึงจวินฉูฉู่ แต่ก็ไม่คิดว่าจะอดไม่ได้
ท่านอ๋องตวนถาม "ทำไมหรือ?"
"อันที่จริงท่านอ๋องตวนก็รู้พฤติกรรมของจวินฉูฉู่ ท่านอ๋องไปหาข้าก็ต้องคอยหลบนาง แต่สุดท้ายท่านอ๋องก็ไม่สามารถทำอะไรนางได้ ได้ยินมาว่าท่านอ๋องยังไปส่งนางเป็นครั้งสุดท้ายด้วย ก็สามารถมองเห็นนิสัยใจคอที่ดีของท่านอ๋องได้ อย่างน้อยก็เป็นคนดีมีคุณธรรม......"
เพียงแต่งมงายเล็กน้อย อวิ๋นหลัวฉวนไม่กล้าพูดออกมา
เพื่อป้องกันไม่ให้หนานกงเยี่ยนสงสัย อวิ๋นหลัวฉวนจึงกล่าวว่า "อีกทั้งท่านอ๋องยังมีความเมตตา และเป็นเรื่องที่ทุกคนต่างยอมรับ ไม่ผิดอย่างแน่นอน"
"อืม เรียนรู้ที่จะประจบชมเชยข้าแล้วหรือ?" หนานกงเยี่ยนยิ้ม ดูเหมือนจะอารมณ์ดีไม่น้อย
คำพูดของผู้หญิงคนนี้ทำให้เขามีความสุขได้หลายวัน ผู้หญิงคนนี้น่าทึ่งจริงๆ!
อวิ๋นหลัวฉวนส่ายหน้า "ข้าประจบใครไม่เป็น"
"แล้วนี่เรียกว่าอะไรหรือ?"
"คือความจริง"
หนานกงเยี่ยนขมวดคิ้ว "มีโอกาสข้าจะต้องประชันกันจงชินอ๋องให้ได้ ถึงตอนนั้น ข้าจะให้ฉวนเอ๋อร์เห็นว่าข้าดีกว่าเขา"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ