อวิ๋นหลัวฉวนเดินไปที่หนานกงเยี่ยนอย่างกล้าหาญและยกมือขึ้นมาประสานกัน
หลังจากนั้นหนานกงเยี่ยนก็กุมมือของนางไว้ อวิ๋นหลัวฉวนไม่คิดอะไร แต่หนานกงเยี่ยนกลับมีจิตใจฟุ้งซ่านเตลิดเปิดเปิง
"เช่นนั้นข้าส่งให้คนไปยืมมาจากจวนท่านแม่ทัพ"
"อืม"
อวิ๋นหลัวฉวนเดินไปนั่งรออยู่อีกฝั่งหนึ่ง หนานกงเยี่ยนเดินออกไปสั่งให้คนนำหมากรุกที่เตรียมพร้อมไว้แล้วเข้ามา
ไม่นานตรงหน้าของอวิ๋นหลัวฉวนก็ปรากฏกระดานหมากรุกขึ้น อวิ๋นหลัวฉวนจัดวางอย่างดี "ท่านเริ่มก่อน"
หนานกงเยี่ยนก็ไม่ลังเลอะไร คิดอยู่ครู่หนึ่งและจึงเริ่มเดินหมากก่อนหนึ่งก้าว
อวิ๋นหลัวฉวนกระหยิ่มยิ้มย่อง นางเล่นหมากรุกได้เก่งกาจมากแล้ว
นางรู้ดีถึงเหตุผลที่ทหารผู้หยิ่งผยองต้องพ่ายแพ้ แต่หนานกงเยี่ยนไม่เคยเล่นมาก่อน เพียงแค่เคยเห็นเท่านั้น ฉะนั้นนางจึงไม่กลัว
ทั้งสองเล่นกันไปสลับไปมา อวิ๋นหลัวฉวนเริ่มจะนั่งไม่ติดเก้าอี้เสียแล้ว
ตรงกันข้าม หนานกงเยี่ยนกลับสงบนิ่งและผ่อนคลายเหมือนก่อน
"ท่านเล่นไม่เป็นไม่ใช่หรือ?" อวิ๋นหลัวฉวนรู้สึกแปลกใจ
"เห็นเจ้าเล่นก็เลยเล่นเป็นเล็กน้อย ไม่คิดเลยว่าก็ไม่ได้ยากอะไร เพียงแต่ต้องเล่นกับฉวนเอ๋อร์เลยรู้สึกว่ายากอยู่บ้าง"
หนานกงเยี่ยนยังคงโกหกเพื่อปลอบ!
เขาถึงขั้นไปหาหนานกงเย่เพื่อให้หนานกงเย่สอนเขามาแล้ว ข้อมูลจากนกพิราบที่ส่งมาให้เขานั้น รวมไปถึงเขาก็ได้ฝึกซ้อมด้วยตัวเองทุกวัน
จึงทำให้มีผลลัพธ์เช่นนี้
อวิ๋นหลัวฉวนรู้สึกหดหู่เมื่อมองดูหมากรุกสามชิ้นของนาง
เมื่อรู้ว่าสถานการณ์จบลงแล้ว คงต้องยอมรับความพ่ายแพ้
"ข้าแพ้แล้ว ข้าจะอยู่ที่นี่ไม่ไปไหน แต่ต้องหย่าร้าง ท่านย่าของข้ากล่าวไว้แล้ว" อวิ๋นหลัวฉวนดูเศร้าสร้อย
หนานกงเยี่ยนไม่อยากเห็นนางเป็นเช่นนี้ แต่เขาก็ไม่สามารถปล่อยนางไปได้
"ฉวนเอ๋อร์ก็เป็นลูกหลานของท่านแม่ทัพ ทำให้ถึงพูดแล้วไม่ทำตามที่พูดล่ะ แล้วเช่นนี้ยังจะเป็นท่านแม่ทัพใหญ่ได้อย่างไร จะไปเขตชายแดนได้อย่าง?"
"ท่าน......" อวิ๋นหลัวฉวนไม่รู้อิโหน่อิเหน่ นางคาดการณ์ผิดไป!
เต็มใจยอมรับความพ่ายแพ้ แม้ว่าในใจจะไม่ยินยอม แต่อวิ๋นหลัวฉวนทำได้เพียงตอบตกลง นางไม่สามารถผิดคำพูดได้
หนานกงเยี่ยนได้รับคำตอบที่น่าพึงพอใจจากนั้นจึงสั่งให้คนเตรียมห้องอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้า คืนนี้เขาจะอยู่ที่นี่
"ท่านทำอะไรน่ะ?" อวิ๋นหลัวฉวนรู้สึกแปลกใจเมื่อเห็นว่าหนานกงเยี่ยนจะอยู่ที่นี่ในคืนนี้และกำลังถอดเสื้อผ้า
"ข้าเหนื่อยแล้ว หลายวันมานี้ไม่ได้พักผ่อนดีเลย วันนี้ข้าจะอยู่พักผ่อนที่นี่"
"เช่นนั้นแล้วข้าล่ะ?" อวิ๋นหลัวฉวนมองไปที่เตียงที่นอนได้เพียงคนเดียวเท่านั้น และไม่มีเตียงอื่นอีกเลย
"ก็นอนที่เตียงเดียวกันนะสิ เดิมทีข้าก็นอนอยู่ที่นี่นะ"
"ท่านเคยมานอนที่นี่ตั้งแต่เมื่อไร?"
"ข้าจำได้ว่าข้าเคยมานอนหลายครั้งแล้ว"
"เช่นนั้นตอนนี้ท่านก็ไม่สามารถนอนได้"
"ในเมื่อเป็นพระชายาของข้า เช่นนั้นก็ต้องนอนด้วยกัน"
"เช่นนั้นไม่ได้......"
อวิ๋นหลัวฉวนไม่รู้ถูกรู้ผิด นั่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้
หนานกงเยี่ยนยื่นมือออกไปบีบคางของอวิ๋นหลัวฉวน "ฉวนเอ๋อร์ ในปีนี้ข้าจะเชื่อฟังเจ้า และเจ้าก็อย่าหนีข้าไปไหนดีหรือไม่?"
"ท่านอ๋องมีตำแหน่งที่ใหญ่โตสูงส่งจะมาเชื่อฟังคำพูดของผู้หญิงอย่างข้าได้อย่างไร หากพูดออกไปเกรงว่าจะถูกหัวเราะเอาได้?"
"ข้าหมายถึงเรื่องที่ข้าจะไม่ฆ่าจงชินอ๋อง"
"นี่......" อวิ๋นหลัวฉวนเหมือนจะฝืนเข้าใจเล็กน้อย ยังคงข่มขู่
"ท่านปล่อยคางของข้าเดี๋ยวนี้" อวิ๋นหลัวฉวนดึงมือของหนานกงเยี่ยนออก หนานกงเยี่ยนหันกลับไปสั่งให้คนนำถังน้ำเข้ามา อวิ๋นหลัวฉวนตกใจจนไม่รู้จะไปอยู่ตรงไหน เขาปลดเสื้อและผ้าคาดเอวออก จากนั้นจึงเดินเข้าไปในถังน้ำ อวิ๋นหลัวฉวนตกใจจนหันหลังให้กับเขา และรอให้เขาออกมา
"วันนี้ข้าเหนื่อยแล้ว นอนพักเถอะ"
จากนั้นจึงอุ้มอวิ๋นหลัวฉวนไปวางไว้ที่เตียง หนานกงเยี่ยนปลดมุ้งที่เตียงลงจากนั้นจึงนอนลง
อวิ๋นหลัวฉวนหันศีรษะและยังไม่เข้าใจ รู้สึกเพียงว่าหัวใจเต้นแรงมาก
เวลากลางดึกอวิ๋นหลัวฉวนจึงหลับไป หนานกงเยี่ยนที่ยังไม่หลับได้ลืมตาขึ้นมาพลิกตัวและมองไปที่อวิ๋นหลัวฉวนที่หลับสนิท จากนั้นก็ปลดเสื้อของนาง......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ