“ถามพวกเขาว่ามีเรื่องอันใด?” น้ำเสียงของฉีเฟยอวิ๋นเคร่งขรึม
อาอวี่ถามเสียงดัง: “เป็นคนแก่คนชราไม่ผักผ่อนตอนมึดค่ำ ออกมาขวางรถม้าของพวกข้า มีเรื่องอันใดงั้นรึ?”
“นี่เป็นรถม้าของพระชายาเย่หรือไม่?” หญิงชราถามพร้อมกับร่างกายที่สั่นเทา
อาอวี่กล่าว : “ใช่แล้ว”
“เช่นนั้นก็ดี ข้าและหลานได้รับคำสั่งให้มาเข้าพบ ขอพระชายาเย่ออกมาพบพวกข้าด้วยเถิด” หญิงชรากล่าวอย่างมั่นใจ
ฉีเฟยอวิ๋นเปิดม่านและมองออกไปผ่านตะเกียงที่หญิงชราถืออยู่ นางสวมชุดผ้าลินินเนื้อหยาบและแต่งตัวเป็นขอทาน
บนหัวของนางยังมีเศษหญ้าปักไว้อยู่ ในมือถือไม้เท้าไว้ ไม้เท้าดูเหมือนเศษไม้ที่เก็บมาจากข้างทาง และเด็กที่อยู่ข้างกายนางก็เนื้อตัวมอมแมม บริเวณเอวมีน้ำเต้าแขวนไว้อยู่ ดูแล้วอายุราวห้าหกขวบ
ฉีเฟยอวิ๋นรู้สึกว่าคนเหล่านี้ไม่มีทักษะใดๆ แต่หากเป็นเรื่องอื่นก็ไม่แน่นัก
“อาอวี่ ถามพวกเขาทีว่ามีนามว่าอะไร?”
“พวกเจ้ามีนามว่าอะไรงั้นรึ?”
“ข้าหญิงม่ายตู่เจ้าค่ะ”
“ตู่งั้นรึ?”
ฉีเฟยอวิ๋นลุกขึ้นลงจากรถม้า อาอวี่ขวางไว้มิให้ไป ฉีเฟยอวิ๋นกล่าว : “ดูแลรถม้าด้วย”
“พ่ะย่ะค่ะ”
อาอวี่ทำได้เพียงทำตามคำสั่ง
ฉีเฟยอวิ๋นลงจากรถม้าแล้วเดินไปข้างหน้า หญิงชราขอทานมองฉีเฟยอวิ๋นและหัวเราะ : “ย่ำจนรองเท้าเหล็กสึกไม่พบพาน ยามได้มากลับไม่เสียเวลาเลย ดูท่าพระชายาเย่จะเป็นคนใจกล้าจริงๆ”
“พูดกันง่าย เช่นนั้นขอวอนถามหน่อย ใครส่งเจ้ามางั้นรึ?”
“แน่นอนว่าต้องมีคนส่งข้ามาเป็นแน่ เห็นแก่พระชายาเย่ที่เข้าถึงได้ง่ายเช่นนี้แล้ว วันนี้ข้าจะทำให้เจ้าได้ตายอย่างไร้ความทรมานก็แล้วกัน ขอทานน้อยเอางูตัวน้อยของเจ้าออกมา”
“……”เมื่อพูดถึงงู ฉีเฟยอวิ๋นเองก็โล่งใจไป
ขอทานน้อยหยิบน้ำเต้าออกมาและเปิดออก งูเขียวตัวน้อยตัวหนึ่งก็เลื้อยคลานออกมา เมื่อวางงูไว้บนพื้นมันก็เลื้อยเข้าหาฉีเฟยอวิ๋นอย่างรวดเร็ว แต่เลื้อยไปได้เพียงครู่เดียวก็เลื้อยกลับไป
สีหน้าหญิงชราขอทานแย่ลง : “บนตัวเจ้ามีอะไร?”
ฉีเฟยอวิ๋นหัวเราะ : “ทายสิ?”
“ฮึ ไม่ว่าเจ้าจะมีของอะไร วันนี้ก็ต้องตาย”
หญิงชราขอทานพุ่งเขาหาฉีเฟยอวิ๋น อาอวี่และคนอื่นๆคิดเข้าไปช่วย แต่ฉีเฟยอวิ๋นกล่าว : “ห้ามขยับ”
อาอวี่อดทนไว้ คนอื่นๆก็ไม่ขยับเช่นกัน
หญิงชราขอทานคว้าไหล่ของฉีเฟยอวิ๋นไว้ จากนั้นก็หุบมือเข้ามาและล้มลงกับพื้น
“พิษ พิษอะไร?” หญิงชราขอทานยกมือขึ้นมองพิษที่กำลังลุกลามบนฝ่ามือของตนก็ตกใจ
ฉีเฟยอวิ๋นกล่าว : “เจ้ารู้จักน้ำเต้าแห่งหุบเขายาหรือไม่?”
“ผู้เฒ่าพิษงั้นรึ?”
หญิงชราขอทานตกใจจนตัวสั่น : “เจ้าเป็นใครกันแน่?”
“ข้าเป็นใครนั้นมิสำคัญ ที่สำคัญคือวันนี้เจ้าควรมาหรือไม่”
ขอทานน้อยเห็นหญิงชราขอทานต้องพิษ ก็จับงูตัวน้อยและพุ่งเข้าไป ฉีเฟยอวิ๋นถอยหลังและปักเข็มลงบนตัวขอทานน้อย ขอทานน้อยร้องอยู่กับพื้น
งูตัวน้อยบนพื้นตกใจ จึงกัดและรัดคอขอทานน้อยไว้ ทั้งสองม้วนเข้าด้วยกัน มินานนักพิษก็เข้าร่างขอทานน้อยและตายในที่สุด
งูน้อยหลุดออกจากคอของขอทานน้อยคิดจะหนี แต่ก็ถูกยิงด้วยเข็มของฉีเฟยอวิ๋นจนตาย
ดวงตาของหญิงชราขอทานเบิกกว้าง ถึงแม้จะจ้องจนดวงตาหลุดก็ไร้ประโยชน์ เพราะอีกไม่นานก็ต้องตาย
อันหลิงหลับตาลงหันกลับไปยังรถม้าและเดินจากไป
นางยกมือขึ้นมองฝ่ามือของตน นี่มันช่างน่ากลัวยิ่งนักที่นางสามารถปล่อยสารพิษบนร่างกายออกมาได้ในช่วงเวลาคับขันดั่งกิ้งก่าได้เช่นนี้
ไม่เพียงแต่บนผิวหนังเท่านั้น บนเสื้อผ้าก็ด้วยเช่นกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ