ทุกคนไม่เป็นไรไม่นานก็รวมตัวเข้าหากัน ฉีเฟยอวิ๋นมองไปทางกลุ่มของอาอวี่
คนของจวนกั๋วกงนั้นรวดเร็วมาก อวิ๋นหลัวฉวนได้สวมใส่เสื้อเกราะมาแล้ว เห็นฉีเฟยอวิ๋นมิเป็นอันใด อวิ๋นหลัวฉวนเลยโบกสะบัดมือ คนด้านหลังรีบเร่งหยิบชุดเกราะสำหรับคนตั้งท้องสวมใส่มาให้ฉีเฟยอวิ๋นสวมใส่ ส่วนคนที่เหลือทำโล่ห์ป้องกันกลายเป็นล้อมห้องใหญ่หนึ่งห้อง ทุกคนต่างก็อยู่ในนั้น
อวิ๋นหลัวฉวนชำเลืองมองฉีเฟยอวิ๋นแล้วกล่าวว่า“ท่านพี่เสียนเฟยอย่าเดินไปเรื่อยนะ ตอนนี้ที่แห่งนี้ปลอดภัยเป็นอย่างมาก ข้าต้องการไปหาพวกเขา”
เดิมฉีเฟยอวิ๋นอยากรั้งไว้ แต่เห็นหนานกงเหยี่ยนที่สวมใส่ชุดเสนาธิการทหารอยู่ข้างกายอวิ๋นหลัวฉวน เธอเลยเบาใจลง กล่าวว่า
“ระวังตัวด้วย!”
อวิ๋นหลัวฉวนหมุนตัวเดินออกไป ฉีเฟยอวิ๋นได้ยินเสียงด้านนอกค่อยๆสงบลง และมีคนเดินมากล่าวว่า“ทำให้พระชายาเย่ตื่นตกใจ ต้องขอประทานอภัยจากพระชายาเย่ด้วย”
กลุ่มคนบริเวณโดยรอบแหวกออก ฉีเฟยอวิ๋นมองเห็นฮูหยินกั๋วกงสวมชุดเกราะยืนอยู่ตรงข้าม ทำให้ฉีเฟยอวิ๋นตะลึงความสง่าตระการตา
คิดไม่ถึงเลยว่าฮูหยินใหญ่อายุเท่านี้แล้ว สวมใส่ชุดเกราะได้บุคลิกสง่างามน่าเกรงขามอย่างมาก
“ฮูหยินใหญ่กล่าวเกินไปเสียแล้ว โดยเดิมทีก็ไม่ได้มีอะไร ฮูหยินใหญ่ไม่เป็นไรใช่หรือไม่?”
“ข้าปกติดี เรื่องวันนี้ข้าดูถูกพวกเขาเกินไปเสียจริง คิดไม่ถึงเลยว่าจะกล้ามาที่จวนกั๋วกงของพวกข้า”
“ฮูหยินใหญ่ จวิ้นจู่ออกไป เป็นอย่างไรบ้างแล้ว?”
“นางยังมิกลับมาเลย แต่ไม่ได้ยิงธนูแล้ว คาดว่าหาเจอแล้ว เคราะห์ดีที่มีท่านแม่ทัพฉี มิเช่นนั้นไม่รู้ว่าจะทำเยี่ยงไรแล้ว”
“ฮูหยินใหญ่ พวกเราไปพักผ่อนก่อน แล้วรอพวกเขากลับมากันเถิดนะ”
“ได้”ฮูหยินกั๋วกงพาฉีเฟยอวิ๋นไปที่ห้องโถงด้านหน้า ทางด้านนั้นฉีกั๋วกงพาชายฉกรรจ์จำนวนหนึ่งนั่งอยู่
“ถวายบังคมพระชายาเย่ ท่านแม่”
นอกจากฉีกั๋วกงแล้ว คนอื่นๆก็ลุกขึ้นทำความเคารพนับถือ
ฉีเฟยอวิ๋นกล่าวว่า “ท่านแม่ทัพมิต้องเกรงใจแล้ว”
“พระชายาเย่เชิญนั่ง”ฮูหยินกั๋วกงเชื้อเชิญฉีเฟยอวิ๋น ฉีเฟยอวิ๋นเดินไปอีกด้าน
แล้วนั่งลง
“ฮูหยินใหญ่เชิญนั่ง”
ฮูหยินกั๋วกงมองฉีเฟยอวิ๋นเล็กน้อย จากนั้นนางก็นั่งลง
ฉีเฟยอวิ๋นมองด้านนอกประตู กล่าวก่อนว่า“ท่านปู่กั๋วกง ฮูหยินใหญ่ เรื่องนี้เกรงว่าจะมิใช่เรื่องที่ง่ายดาย ดูเหมือนว่าพวกเขาเร่งเตรียมการแล้ว”
“ข้าได้ปิดเมืองแล้ว พวกเขาต้องลงมืออยู่บนจุดครอบคลุมเป็นแน่ หากว่ามีคนมาเอายา จะต้องสะกดรอยตามได้”
“กั๋วกงคิดรอบคอบมาก”ฉีเฟยอวิ๋นเห็นตรงกัน
ฉีกั๋วกงหน้าบึ้งตึง กล่าวว่า“เรื่องน่าอับอายเยี่ยงนี้คิดไม่ถึงว่าจะเกิดขึ้นที่จวนกั๋วกงของข้า กลั่นแกล้งจวนกั๋วกงอย่างแท้จริงราวกับไม่มีคนอยู่ วันนี้เมื่อหาคนเจอ ดูว่าข้าจะจัดการพวกเขาอย่างไร”
เวลานี้ฉีเฟยอวิ๋นก็รอเช่น
หลังจากสองชั่วโมง อวิ๋นหลัวฉวนพาหัวคนเดินเข้ามา หัวคนถูกห่อหุ้มไว้ แต่ด้านในยังมีเลือดไหล
“ผู้ใดหรือ?”ฉีกั๋วกงกล่าวโดยไม่ได้แปลกใจสักนิดหนึ่ง
หากว่าฉีเฟยอวิ๋นไม่มีประสบการณ์ด้านสนามรบมา เห็นฉากที่มีเลือดมากมายเพียงนี้ เวลานี้ต้องอาเจียนออกมาแล้ว
อวิ๋นหลัวฉวนกล่าวว่า“หนานกงเซวียนเยี่ยเจ้าค่ะ”
ฉีเฟยอวิ๋นชะงักงัน องค์ชายรองของจวนอ๋องเจ็ดหรือ? เพิ่งจะแต่งตั้งบรรดาศักดิ์เป็นชินอ๋องไม่นาน เอินชินอ๋อง?
นึกถึงจงชินอ๋อง ฉีเฟยอวิ๋นก็นึกถึงเรื่องราวต่างๆได้ไม่น้อยเลย
ฉีกั๋วกงลุกขึ้นยืน กล่าวว่า “ตามข้าเข้าวัง”
ฉีเฟยอวิ๋นไม่อยากเข้าวัง แต่พอเห็นท่าทางของฉีกั๋วกงแล้ว หากเธอไม่ไปคล้ายดั่งว่าจะไม่ได้แล้ว
แต่เข้าวังกับหัวคนคนหนึ่ง ฉีเฟยอวิ๋นทำไม่ได้จริงๆ
“ท่านปู่กั๋วกง ให้ท่านพ่อของข้าไปด้วยเถิด ตอนนี้ข้างกายของอ๋องตวนยังต้องการคนดูแล ข้าจะอยู่ดูแลเอง”
“อย่างนั้นก็ดี”
ฉีกั๋วกงก็ไม่ได้บังคับ จากนั้นก็ได้พาอวิ๋นหลัวฉวนและหัวคนเข้าวังไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ