บัตรในมือฉีเฟยอวิ๋นถูกอวิ๋นหลัวฉวนหยิบไป เมื่อเห็นชื่อคนในนั้นนางก็ถึงกับพูดไม่ออก
อวิ๋นจิ่นเป็นผู้หญิงที่ดีคนหนึ่ง
“อวิ๋นจิ่นดีขนาดนั้น ข้ายังอยากให้มาเป็นพระสนมรองของท่านอ๋องตวนเลย” อวิ๋นหลัวฉวนกระเง้ากระงอดอย่างผิดหวังเล็กน้อย
สีหน้าอ๋องตวนมึนตึงขึ้นทันควัน “ท่านช่างกล้ามิใช่น้อย พระชายารองของข้างั้นหรือ ท่านเริ่มรู้จักวางแผนตั้งแต่เมื่อใดกัน”
“ไม่ใช่ว่าตอนนั้นจวินฉูฉู่ก็หาให้ท่าน...” อวิ๋นหลัวฉวนคิดจะโต้เถียงด้วยเหตุด้วยผล แต่ทันทีที่เห็นสีหน้าอันน่าหวาดกลัวของหนานกงเหยี่ยน นางก็หุบปากทันที
ฉีเฟยอวิ๋นไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเหตุใดจึงเป็นอวิ๋นจิ่น
“ท่านอ๋อง ท่านคิดเห็นอย่างไรบ้าง” ฉีเฟยอวิ๋นหันไปถามหนานกงเย่ที่เดินเข้ามาใกล้
“เสด็จอาใหญ่อยากให้เว่ยหลินชวนแต่งงาน ท่านย่อมต้องทำอย่างเต็มที่ เกรงว่าท่านคงจะมองๆ มานานแล้วนะซี”
“นั่นมันเป็นการคว้าหินมากระแทกเท้าตัวเองแท้ๆ ข้ายังทำใจไม่ได้” ฉีเฟยอวิ๋นไม่พอใจ นางไม่เต็มใจเลยแม้แต่น้อยและไม่มีทางให้ความร่วมมือด้วยได้
นางไม่ดีใจและไม่คิดจะต้อนรับอวิ๋นหลัวฉวนด้วย ดังนั้นนางจึงหันหลังเดินจากไปก่อน
อวิ๋นหลัวฉวนคิดจะตามไปดูแต่ถูกอ๋องตวนลากไปเสียก่อน เขาอยากจะกลับไปพูดเรื่องพระสนมรองให้รู้เรื่อง ใครกันแน่ที่คิดซี้ซั้วจะมอบพระสนมรองให้เขา
เมื่ออวิ๋นหลัวฉวนถูกลากตัวไป ภายในลานก็สงบขึ้น
ฉีเฟยอวิ๋นจำต้องเรียกอวิ๋นจิ่นมาหาอย่างช่วยไม่ได้เพื่อถามถึงเรื่องการแต่งงานกับเว่ยหลินชวน
ไหนเลยจะรู้ว่าทันทีที่ได้ยินว่าจะต้องแต่งงานกับเว่ยหลินชวน อวิ๋นจิ่นจะคุกเข่าลงต่อหน้าฉีเฟยอวิ๋นทันที
นางสาบานว่าจะไม่แต่งงานกับเว่ยหลินชวน
ทั้งยังบอกอีกว่านางมีคนในใจอยู่แล้ว นางยอมตายเสียยังจะดีกว่า!
ฉีเฟยอวิ๋นกับหนานกงเย่ต่างนั่งกันคนละมุมโดยมีโต๊ะคั่นระหว่างกลาง
ฉีเฟยอวิ๋นรู้สึกสับสนเล็กน้อย คงไม่ใช่ว่าชอบท่านอ๋องของนางหรอกนะ
ฝ่ายหนานกงเย่กำลังดื่มชาอย่างใจเย็น ทำทีเป็นเพียงผู้ที่คอยสังเกตการณ์เรื่องนี้
“นายท่าน ข้ามีคนในใจแล้วจริงๆ นายท่านโปรดอย่าถาม อย่าให้ข้าแต่งงานเลย”
อวิ๋นจิ่นยินดีจะรับใช้ข้างกายนายท่านไปตลอดชีวิต”
“อวิ๋นจิ่น ต่อให้ข้าจะอยากช่วยเจ้า แต่กับองค์หญิงใหญ่ข้าอาจจะพูดอะไรไม่ได้” ฉีเฟยอวิ๋นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าควรจะพูดอะไร
อวิ๋นจิ่นไม่ยอม และนางยังต้องเกลี้ยกล่อม
จริงๆ แล้วเว่ยหลินชวนเป็นคนดีคนหนึ่ง
คนฉลาดอย่างอวิ๋นจิ่น ไปไหนก็ไม่มีวันเสียเปรียบใคร
“นายท่าน อวิ๋นจิ่นไม่ยอม” อวิ๋นจิ่นก้มหน้าและคุกเข่าปฏิเสธอยู่อย่างนั้น
ฉีเฟยอวิ๋นได้แต่บอกว่า “เช่นนั้นก็ออกไปก่อน ข้าจะไปศาลพิเศษกลางเพื่อคุยเรื่องนี้อีกที”
“ขอบคุณนายท่าน” อวิ๋นจิ่นลุกขึ้นและถอยออกไป
ฉีเฟยอวิ๋นถอนหายใจและหันไปมองหนานกงเย่อย่างกลัดกลุ้ม “ท่านอ๋อง ท่านคิดว่าอวิ๋นจิ่นชอบใครหรือ”
“ข้ามองไม่ออก นางไม่ใช่คนของข้า” หนานกงเย่ตอบอย่างมั่นใจเต็มที่
ฉีเฟยอวิ๋นคิดว่าถ้าไม่ใช่เขาก็นับว่าดี
เพื่ออวิ๋นจิ่น ฉีเฟยอวิ๋นจึงกลับไปที่ศาลพิเศษกลางอีกครั้ง ไปเพื่อคุยกับองค์หญิงใหญ่เรื่องการแต่งงานกับเว่ยหลินชวน
“นางไม่ยินยอมงั้นหรือ” องค์หญิงใหญ่ฟังแล้วก็นึกโกรธและตบโต๊ะเสียงดัง “ให้นางมาเอง นางกล้าดีอย่างไร ไม่อยากมีชีวิตแล้วงั้นรึ”
ยากนักที่องค์หญิงใหญ่จะถูกใจใครสักคน จะปล่อยไปได้อย่างไร
ฉีเฟยอวิ๋นประคองท้องและแสร้งทำเป็นไม่สบายกาย หนานกงเย่รีบเข้ามาโอบฉีเฟยอวิ๋นไว้เพื่อปกป้องครรภ์ของนาง เอ่ยอย่างไม่พอใจว่า “เสด็จอาใหญ่ ท่านกำลังพยายามทำร้ายลูกของข้างั้นหรือ”
นั่นเององค์หญิงใหญ่จึงสำรวมอาการและชักมือกลับ แต่สีหน้ายังดูไม่มีพอใจ
“ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม คนที่ข้าถูกใจ ต่อให้มัดไว้ก็ต้องเอาตัวมาให้ได้!”
ฉีเฟยอวิ๋นไม่ค่อยสุขใจนัก นี่จะบังคับให้ซื้อขายกันหรืออย่างไร
“แต่อวิ๋นจิ่นไม่เต็มใจ แตงที่ฝืนเด็ดจากต้นย่อมไม่หวาน นี่ไม่ใช่เรื่องของการไล่เป็นให้ขึ้นคอนนะเพคะ หากมีอะไรเกิดขึ้นแม้เพียงเล็กน้อย ถึงตอนนั้นจะได้ไม่คุ้มเสีย” ฉีเฟยอวิ๋นแสร้งทำเป็นว่าไม่ได้ทุกข์ใจนักและลุกขึ้นพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
หนานกงเย่เป็นห่วงมาก ดังนั้นเขาจึงนั่งอยู่ข้างหลังฉีเฟยอวิ๋นและโอบนางไว้ ใช้สองมือคอยปกป้องครรภ์ของฉีเฟยอวิ๋นราวกับว่าถ้าเขาไม่ทำเช่นนั้น ครรภ์ของฉีเฟยอวิ๋นจะถูกใครสักมาปล้นเอาไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ