ท่านแม่ทัพฉีเข้าเมืองพร้อมกับกองกำลังทหารห้าร้อยนาย ซึ่งทหารทั้งห้าร้อยนายล้วนมาประจำการในที่ที่ฉีเฟยอวิ๋นอาศัยอยู่
เพื่อคอยปกป้องคุ้มครองความปลอดภัยของฉีเฟยอวิ๋น
ส่วนแม่ทัพฉีไปพบจวินโม่ซ่าง
เวลานี้จวินโม่ซ่างไม่เป็นอะไรแล้ว ฉีเฟยอวิ๋นแก้พิษให้เขาอย่างรวดเร็ว คนของเขาเองก็ไม่ได้เป็นอะไร พร้อมกันนั้นเมืองถาถ่านก็กลับคืนสู่สภาพเดิม
เมื่อฉีเฟยอวิ๋นเห็นแม่ทัพฉี นางก็รีบเดินเข้าไปหา “ท่านพ่อ”
“ไม่ต้องมา เดี๋ยวพ่อไปหาเอง” แม่ทัพฉีรีบเดินไปหาบุตรสาว แววตาของฉีเฟยอวิ๋นเต็มไปด้วยความอัดอั้น
เมื่อเห็นแม่ทัพฉีนางก็แทบจะร้องไห้
แม่ทัพฉีโกรธขึ้นมาทันควัน “พวกนั้นรังแกลูก ไม่ยอมให้ลูกกินลูกนอนเลยหรือ”
ใบหน้าของจวินโม่ซ่างมึนตึงไปหมด เขาหมายความว่าอย่างไร?
จวินโม่ซ่างมองแม่ทัพฉีอย่างดูถูกก่อนจะทักทายอย่างรักษามารยาท “เชิญท่านแม่ทัพฉี”
แม่ทัพฉีหันไปมองจวินโม่ซ่าง “ไม่จำเป็น ข้ายังมีเรื่องที่ต้องจัดการ”
“...” จวินโม่ซ่างมีสีหน้าไม่พอใจนัก
“ท่านแม่ทัพฉีมายังเมืองถาถ่านในฐานะแขก ยังมีเรื่องอะไรที่สำคัญไปกว่าการนั่งคุยกับข้าอีกหรือ”
“ข้าคือแม่ทัพแห่งเมืองต้าเหลียง เป็นธรรมดาที่จะนั่งอยู่ที่นี่ไม่ได้ ข้าเข้ามายังคูเมืองแล้ว เพื่อแสดงให้เห็นถึงความใจกว้างของเมืองต้าเหลียง วันนี้ข้าจึงนำทหารห้าร้อยนายมาด้วย ทหารทั้งห้าร้อยนายจะอยู่ที่นี่ก่อนชั่วคราว รอจนหมดความกังวลในการหารือเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองเมืองเรียบร้อยจึงจะค่อยถอยทัพ
นอกจากนี้กองทัพของข้ายังมีเรื่องที่ต้องจัดการ ข้าซึ่งเป็นแม่ทัพจึงต้องขอตัวลาก่อน
อวิ๋นอวิ๋น เจ้ากลับไปกับพ่อ”
จุดประสงค์ของแม่ทัพฉีคือการมารับฉีเฟยอวิ๋น แต่ฉีเฟยอวิ๋นกลับไม่วางใจที่จะปล่อยให้หนานกงเย่อยู่ตามลำพังในเมืองถาถ่าน
“ท่านพ่อ ข้าอยากจะกลับไปนะเจ้าคะ ข้ามาถึงนี่แล้วแต่ยังไม่ได้ดูชมอะไรเลย” ฉีเฟยอวิ๋นทำหน้าตาน่าเอ็นดู แม่ทัพฉีมองบุตรสาวอย่างลำบากใจเล็กน้อย
“เจ้ายังจะดูชมอะไรอีก” แม่ทัพฉีมีหรือจะไม่รู้ความคิดของฉีเฟยอวิ๋น
“ถ้าไม่ดูชมตอนนี้ ต่อไปก็คงไม่มีโอกาสอีกแล้ว” ฉีเฟยอวิ๋นคว้าแขนของแม่ทัพฉีเอาไว้ด้วยสีหน้าที่บ่งบอกว่าลังเลที่จะกลับไป
แม่ทัพฉีไม่มีทางทำอะไรได้เลยแม้แต่น้อย แต่ไหนแต่ไรลูกสาวพูดอะไรเขาก็มักจะฟังเสมอ
ครั้งนี้เขาจะทิ้งไว้ไม่ได้ และเขาก็ยังคงเป็นห่วงมาก
หนานกงเย่เอ่ยขึ้นมาว่า “หากท่านพ่อตากลับไป ข้าจะคอยดูแลอวิ๋นอวิ๋นให้เอง จะไม่ให้ได้รับบาดเจ็บอย่างแน่นอน”
“ก็ได้ เช่นนั้นข้ากลับก่อนละ พวกท่านจัดการธุระเสร็จแล้วรีบตามกลับไปแล้วกัน” แม่ทัพฉีพูดจบก็สั่งลาฉีเฟยอวิ๋นอีกสองสามคำก่อนจะรุดหน้าไปก่อน
ฉีเฟยอวิ๋นไปส่งแม่ทัพฉีที่ประตูเมือง เมื่อแม่ทัพฉีออกไปจากเมืองแล้วฉีเฟยอวิ๋นจึงกลับไป
จวินโม่ซ่างเขียนหนังสือยอมแพ้ด้วยตนเอง ทั้งยังให้คำมั่นสัญญาว่าจะไม่รุกรานเมืองต้าเหลียงอีกตลอดช่วงชีวิตที่เหลือ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความจริงใจของเขา เขายังยินดีจะส่งเครื่องบรรณาการให้เป็นเวลาสามปีอีกด้วย
ฉีเฟยอวิ๋นรู้สึกว่าจวินโม่ซ่างไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำเช่นนี้
และสามปีนี้ ฉีเฟยอวิ๋นยังคิดว่ามันน้อยที่สุดแล้ว
ถ้าพวกนางเป็นผู้ตั้งเงื่อนไขนี้ พวกเขาจะต้องส่งบรรณาการหลายต่อหลายปีจึงจะเหมาะสม
แต่สงครามที่ชายแดนคราวนี้คลี่คลายอย่างรวดเร็วและฉีเฟยอวิ๋นก็แปลกใจมาก ที่จวินโม่ซ่างจับตัวนางไปคือเรื่องแปลกเรื่องหนึ่ง แต่ในที่สุดก็มีความโชคดีในความโชคร้ายที่ต่อรองมาได้ถูกๆ
ก่อนออกเดินทางฉีเฟยอวิ๋นได้รับเชิญให้ไปเดินเล่นในเมืองถาถ่าน จวินโม่ซ่างและถังหลงรวมถึงท่านแม่ทัพซานเต๋อก็มาด้วย
ยากที่ฉีเฟยอวิ๋นจะไม่ได้ยินคนวิจารณ์เรื่องความสัมพันธ์ของนางกับหนานกงเย่ลับหลัง นางยังไม่ทันโกรธหนานกงเย่ก็ชิงโกรธก่อนเสียแล้ว
เมื่อเห็นสีหน้าที่ขุ่นมัวสุดขีดของหนานกงเย่ ฉีเฟยอวิ๋นก็อดขำไม่ได้
ที่น่าโมโหที่สุดก็คือจวินโม่ซ่างจัดหาหญิงงามมาให้หนานกงเย่ด้วย โดยบอกว่าเพื่อเป็นการแสดงความจริงใจ เต็มใจมอบหญิงที่โปรดปรานให้หนานกงเย่เป็นกำนัลโดยหวังว่าเขาจะยอมรับ
ฉีเฟยอวิ๋นมองสตรีผู้นั้น นางผู้นั้นงดงามอย่างหาที่เปรียบมิได้ ราวกับนางฟ้าเดินดินอย่างไรอย่างนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ