ในฐานะหัวหน้าใหญ่กองสอดแนม เขาจะต้องมีข้อมูลของประชากรทุกคนในเมืองหลวงแน่นอน นางเป็นบุตรสาวของแม่ทัพใหญ่ ดังนั้นเรื่องของรายละเอียดย่อมเป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาด
มีคนเอาโต๊ะออกไปแล้วตอนที่ฉีเฟยอวิ๋นลุกขึ้น นางไม่ได้ออกไปและนั่งอยู่กับหวังฮวายอันในห้อง
“ทำไมเจ้าไม่ออกไปหาเขาล่ะ” หวังฮวายอันเองก็นอนอยู่บนตั่งเตียงโดยไม่มีอะไรให้ทำ ปกติที่ไม่ค่อยพูดจึงพูดมากขึ้นกว่าเดิม
ฉีเฟยอวิ๋นไม่ได้คิดอะไรเพราะเขาก็เป็นเพียงแค่คนป่วย
ทั้งสองคนพูดคุยกันไปเรื่อยเปื่อยและหวังฮวายอันก็พบว่าฉีเฟยอวิ๋นเป็นคนที่เรียบง่ายเป็นกันเอง ไม่มีมาดเลยแม้แต่น้อย
ขณะที่ทั้งสองคนกำลังคุยกัน หนานกงเย่ก็เดินเข้ามา “อวิ๋นอวิ๋น”
ฉีเฟยอวิ๋นหันไปมอง “ท่านอ๋อง”
ฉีเฟยอวิ๋นลุกขึ้นยืน
หนานกงเย่เข้ามาและเหลือบมองหวังฮวายอัน จากนั้นจึงกล่าวว่า “ข้าจะกลับแล้ว วันนี้ยังมีเรื่องที่ต้องจัดการอีก”
“เช่นนั้นท่านอ๋องกลับไปก่อนก็ได้เพคะ ให้อาอวี่อยู่ที่นี่ ข้าจะคอยดูแลท่านกั๋วจิ้ว”
“อื้ม ข้าจะกลับมาหลังมื้อเที่ยง” หนานกงเย่บอกก่อนจะจากไป เมื่อเขาไปแล้วฉีเฟยอวิ๋นจึงคอยดูอาการหวังฮวายอันต่อ
ฉีเฟยอวิ๋นเริ่มหาตำรามาอ่านเพื่อฆ่าเวลา อย่างไรเสียภายในเรือนก็มีตำราอยู่มากมาย แม้ว่านางจะไม่ใช่คนที่ชอบอ่านหนังสือนัก แต่นางก็ชอบตำราแพทย์มากๆ
ฉีเฟยอวิ๋นหยิบตำรามาเล่มหนึ่งและอ่านได้ไม่รู้จบ
หวังฮวายอันเลิกคิ้วมองฉีเฟยอวิ๋นที่อ่านหนังสืออยู่เงียบๆ และภายในใจก็ดูสงบมาก
เขามองฉีเฟยอวิ๋นเงียบๆ และรู้สึกว่าจิตใจของตนเริ่มสงบลงได้
หลังจากอ่านหนังสืออยู่ครู่หนึ่งก็มีคนมาอยู่ที่หน้าประตู ฉีเฟยอวิ๋นเหลือบมองนิดหนึ่งและเห็นใครคนหนึ่งสวมชุดผ้าต่วนสีน้ำเงินหยุดยืนอยู่ที่หน้าประตู
“ข้ากระหม่อมคารวะท่านกั๋วจิ้ว”
ฉีเฟยอวิ๋นมองดูคนผู้นี้ เขาอายุประมาณสี่สิบปีและดูเป็นคนที่ซื่อตรงและซื่อสัตย์
“เข้ามาสิ” หวังฮวายอันลุกขึ้นจากตั่งเตียง ฉีเฟยอวิ๋นเข้ามาช่วยประคองเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เข็มหมุน
หวังฮวายอันเอนหลังพิงพนักและฉีเฟยอวิ๋นก็ขยับหมอนมารองหลังไว้ให้เพื่อที่เขาจะได้สบายตัวขึ้น
คนผู้นั้นเข้ามาข้างใน เมื่อหวังฮวายอันอยู่ในท่าที่สบายแล้วจึงเงยหน้ามองเขา “หมอประจำจวนกลับมาแล้วรึ”
“เรียนท่านกั๋วจิ้ว ลูกหลานของท่านแม่จัดการเรียบร้อยแล้ว”
หมอประจำจวน?
ฉีเฟยอวิ๋นเพิ่งจะสังเกตเขาอย่างพินิจพิเคราะห์ หลังจากคนผู้นี้เข้ามา ภายในห้องก็อบอวลไปด้วยกลิ่นของยาสมุนไพร
ฉีเฟยอวิ๋นรินน้ำแก้วหนึ่งและยกมาให้หวังฮวายอันดื่ม หวังฮวายอันมองฉีเฟยอวิ๋นอย่างประหลาดใจเพราะเขาไม่ได้บอกว่าอยากจะดื่มน้ำ
แต่หวังฮวายอันก็ไม่ได้พูดอะไรและรับน้ำไปดื่ม ทันทีที่ดื่มน้ำเข้าไปหนึ่งอึกก็รู้สึกได้ถึงรสขม
หวังฮวายอันผละออกเล็กน้อยและเงยหน้ามองฉีเฟยอวิ๋น ฉีเฟยอวิ๋นยิ้มและกล่าวว่า “ท่านกั๋วจิ้วกระหายน้ำมิใช่หรือ”
“อืม”
นั่นเองหวังฮวายอันจึงดื่มน้ำถ้วยนั้น
หลังจากดื่มน้ำแล้วหวังฮวายอันจึงหันไปมองหมอประจำจวน “เจ้าเพิ่งกลับมา ตอนนี้ยังไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหาในจวน นี่คือพระชายาเย่ที่มาดูแลข้าเป็นพิเศษ”
“ข้ากระหม่อมหลี่ฮ่วนจงคารวะพระชายาเย่” หลี่ฮ่วนจงรีบทำความเคารพ
“หมอหลี่ลุกขึ้นเถิด” ฉีเฟยอวิ๋นนั่งลงและอ่านหนังสือต่อ
หวังฮวายอันจึงบอกว่า “หมอออกไปก่อนเถิด”
เมื่อหลี่ฮ่วนจงขอตัวลาออกไปฉีเฟยอวิ๋นจึงถือหนังสือเดินไปที่ประตู นางถือหนังสือไว้ที่ด้านหลังพลางเคาะหนังสือนั้นขณะที่มองหลี่ฮ่วนจงเดินจากไป “อาอวี่”
อาอวี่เดินมาหาฉีเฟยอวิ๋นทันทีและเอ่ยว่า “พ่ะย่ะค่ะพระชายา”
“ไปบอกท่านอ๋องให้ระวังคนผู้นี้!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ