ชีวิตก็เหมือนละคร ละครก็เหมือนชีวิต ประโยคนี้ไม่ได้โกหกจริง ๆ
ฉีเฟยอวิ๋นไม่อยากเจอซูมู่หรง แต่ก็ต้องเจอซูมู่หรง
ซูมู่หรงโน้ใตัวลงไปดึงฉีเฟยอวิ๋นขึ้นมาจากพื้น และถามฉีเฟยอวิ๋นว่า:“ทำไมเจ้ากลับมาอีกแล้ว ตัดใจจากผมไม่ได้ใช่ไหม?”
ทันใดนั้นฉีเฟยอวิ๋นก็พบว่าเมื่อผู้ชายคนหนึ่งกำลังมีความรัก เขาจะไม่สามารถสำรวมได้ ยกตัวอย่างเช่นซู่มู่หรง เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าซูมู่หรงจะเป็นคนแบบนี้ แต่ตอนนี้ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็รู้สึกว่าเขาเหมือนเติ้งถูจื่อ (ผู้ที่มักมากในกาม)
ก่อนหน้านี้ซูมู่หรงเป็นคนเย็นชาและเข้าถึงได้ยาก แต่ตอนนี้เหมือนเปลี่ยนเป็นคนละคน
ฉีเฟยอวิ๋นรู้สึกว่านี่เป็นสิ่งจอมปลอม
แต่ถึงแม้ซูมู่หรงจะกลายเป็นเถ้าถ่าน เธอก็จำได้
“เกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อย ฉันถูกฆ่าและน่าจะสลบไป เลยมาที่นี่” ฉีเฟยอวิ๋นยิ้มอย่างเก้อเขิน เธอเกือบจะบอกกับซูมู่หรงว่าอันที่จริงแล้ว เธอสัมผัสได้ว่าซูมู่หรงตกอยู่ในอันตราย ดังนั้นเธอจึงมาที่นี่
ฉีเฟยอวิ๋นสรุปได้ว่าเมื่อใดก็ตามที่ซูมู่หรงเกิดเรื่องขึ้นและต้องการเธอ เธอก็จะข้ามเวลากลับมาหาที่นี่ เพื่อมาช่วยซูมู่หรง
ในตอนนี้ก็เช่นกัน
ฉีเฟยอวิ๋นรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เธอบอกแล้วว่าจะไม่กลับมาที่นี่ แต่ก็กลับมา
เป็นเรื่องที่ทำอะไรไม่ถูก การหายไปนานครั้งก่อนกลายเป็นการพบกันอีกครั้ง
ซูมู่หรงหยิบกุญแจมือออกมาและใส่กุญแจมือฉีเฟยอวิ๋น จากนั้นก็ลูบหัวของฉีเฟยอวิ๋น และไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
“หัวหน้า คุณกำลังจะทำอะไร?” ฉีเฟยอวิ๋นดึงมือกลับมาและพยายามที่จะปลดกุญแจมือออก ซูมู่หรงยิ้มและก้มหน้าลงจูบก้มของฉีเฟยอวิ๋น
ฉีเฟยอวิ๋นผงะและมองขึ้นไปที่ซูมู่หรง ราวกับว่าเห็นสัตว์ประหลาด
“หัวหน้า คุณทำอะไร?”
“ผมต้องการคุณ!” ซูมู่หรงยิ้มอย่างสดใส ฉีเฟยอวิ๋นทำอะไรไม่ถูก และคิดว่านี่เป็นสิ่งที่น่าละอาย ฉีเฟยอวิ๋นรู้สึกครั้งนี้คงยากที่จะกลับไป
“หัวหน้า คุณมีอาการผิดปกติทางจิตหรือเปล่า ถึงอย่างไรที่นี่ก็เป็นโรงพยาบาลจิตเวช” ฉีเฟยอวิ๋นยังคงพยายามที่จะปลดกุญแจมือ
ในฐานะที่เป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี การปลดกุญแจมือจึงไม่ใช่ปัญหา แต่ฉีเฟยอวิ๋นรู้สึกว่ามันไม่ง่ายขนาดนั้น
ซูมู่หรงดึงเล็กน้อย และพาฉีเฟยอวิ๋นไปตรวจดูสถานการณ์โดยรอบ
ฉีเฟยอวิ๋นไม่สามารถปลอดออกได้ เธอจึงถามซูมู่หรงว่า:“หัวหน้า ที่นี่คือโรงพยาบาลจิตเวชใช่หรือไหม ทำไมถึงกลายเป็นสถานที่บริจาคอวัยวะใต้ดินได้”
“เดิมทีที่นี่เป็นโรงพยาบาลจิตเวชจริง ๆ แต่ผู้อำนวยให้ผู้ป่วยทางจิตที่กำลังจะตายที่นี่บริจาคอวัยวะเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ในตอนแรกก็ไม่มีอะไร เขาไม่ได้สนใจว่าเขาจะตาย แต่ต่อมาเขาโลภมากขึ้นเรื่อย ๆ และเริ่มใช้ผู้ป่วยทางจิตที่นี่เป็นเส้นทางในการสร้างรายได้มหาศาล
สามปีที่ผ่านมามีคนซื้อขายอวัยวะไม่น้อยเลย เมื่อก่อนเรื่องนี้ได้รับความสนใจมาก และบอกว่าการลักลอบนำเข้าอวัยวะในประเทศของเรามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
ผมรับช่วงต่อเรื่องนี้ จึงต้องมาที่นี่”
หลังจากที่ได้ฟังเรื่องนี้แล้ว ฉีเฟยอวิ๋นก็รู้สึกสับสนเล็กน้อย ดูเหมือนว่าจะไม่มีเรื่องอันตรายใด ๆ แล้วเธอมาที่นี่ได้อย่างไร?
อย่างไรก็ตามการซื้อขายอวัยวะของคนพวกนี้ เป็นเรื่องที่น่าเกลียดชัง ตายไปก็ไม่น่าเสียดาย
ไม่นานก็มีคพุ่งเข้ามาจากข้างนอก ฉีเฟยอวิ๋นกำลังวางแผนที่จะหลบหนีง ซูมู่หรงดึงมือ และมือของเธอก็ยังใส่กุญแจมืออยู่ เธอจึงถูกซูมู่หรงดึงออกไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ