เมื่อกล่าวถึงอ๋องตวนขึ้นอวิ๋นหลัวฉวนก็เศร้าสร้อยแล้วมองไปยังฉีเฟยอวิ๋นและกล่าวว่า: "ข้าไม่สามารถอยู่กับอ๋องตวนได้แล้วจริงๆ ไม่กล่าวถึงเรื่องที่เขาคิดถึงแต่จวินฉูฉู่คราวนี้ข้าออกหน้าพูดแทนจงชินอ๋องเขาก็ไม่พอใจในเรื่องนี้และยังต้องการเลิกกับข้า ข้าก็ไร้ซึ่งหนทางจึงต้องกระทำ”
อวิ๋นหลัวฉวนใบหน้าเศร้าโศกเสียใจ ช่างเหมือนกันจริงๆ
“เรื่องในจวนอ๋องตวนของพวกเจ้าข้านั้นไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวแต่มีเรื่องหนึ่งก็ยังอยากจะบอกเจ้า เจ้ารู้หรือไม่ว่าอ๋องตวนมีอาการป่วยซ่อนเร้นอยู่ในกาย?” เพื่อเห็นแก่ความสงบสุขของจวนอ๋องตวนและเพื่ออ๋องตวนกับอวิ๋นหลัวฉวนจะได้ไม่ต้องทุกข์ทรมานกันอีก ฉีเฟยอวิ๋นรู้สึกว่าทำเช่นนี้ก็ไม่มีสิ่งใด
เช่นไรเรื่องราวของนางก็ยังมีอีกเยอะแยะ หากเรื่องของอ๋องตวนคลี่คลายแล้วก็จะได้มีเวลาไปแก้ไขปัญหาอื่น
อวิ๋นหลัวฉวนตกตะลึง อาการป่วยซ่อนเร้น?
“ข้าได้ยินมาว่าเขามีอาการป่วยบางอย่างที่ไม่สามารถบรรยายได้ แต่เวลาถามเขาเขาปิดบัง
และไม่ได้บอกข้าให้ชัดเจน"
“คงเนื่องจากกล่าวลำบาก” ฉีเฟยอวิ๋นตบเจ้าห้าในอ้อมแขนส่วนอวิ๋นหลัวฉวนก็รู้สึกอิจฉายิ่งนักแล้วโน้มกายมายังด้านหน้า ฉีเฟยอวิ๋นส่งเจ้าห้าให้อวิ๋นหลัวฉวนให้นางลองอุ้มดูซึ่งรู้ว่าอวิ๋นหลัวฉวนนั้นรักเด็ก
อวิ๋นหลัวฉวนอุ้มเจ้าห้าอย่างระมัดระวังเนื่องจากเกรงว่าจะทำเจ้าห้า
ให้ร่วงหล่นลงมาจึงอุ้มไว้อย่างระมัดระวังเป็นพิเศษ
ฉีเฟยอวิ๋นกล่าวว่า: "โรคของอ๋องตวนนั้นข้าก็เคยได้ยินหมอหลวงหูเอ่ยขึ้นแต่รายละเอียดนั้นข้ายังไม่ได้ตรวจสอบ แต่ความหมายของหมอหลวงหูคือไม่เป็นการดีที่จะกล่าวกับผู้อื่นและก็ไม่ได้ถึงแก่ชีวิตข้าจึงไม่ได้ถามอีก....."
อวิ๋นหลัวฉวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง: "จริงหรือ?
อวิ๋นหลัวฉวนนั้นรู้อยู่บ้างเล็กน้อยแต่นางก็ไม่ได้กล่าวสิ่งใด ในเมื่อไม่สามารถให้ผู้อื่นรู้ได้เช่นนั้นก็พูดไม่ได้ พูดออกมาก็ไม่ได้มีผลดีต่อผู้ใด ท่านอ๋องผู้สง่างามมีความลับส่วนตัวซ่อนอยู่กลับมีคนกล่าวออกไปทั่วซึ่งไม่ดีอยู่บ้าง
อวิ๋นหลัวฉวนไม่ต้องการให้คำพูดบางอย่างหลุดออกจากปากของนาง ผู้อื่นจะว่าเช่นไรนั้นก็เป็นเรื่องของผู้อื่น
ฉีเฟยอวิ๋นเหลือบมองไปยังใบหน้าเล็กของอวิ๋นหลัวฉวน: "อ๋องตวนไปยังจวนอ๋องเย่แล้วบอกว่าเจ้าต้องการหย่า?"
อวิ๋นหลัวฉวนสีหน้าลำบากใจ: "ไม่ใช่ว่าข้าต้องการหย่า แต่อ๋องตวนบอกว่าเช่นไรเขาก็จะไม่ยอมเลิกราซึ่งข้าก็ไร้ซึ่งหนทาง"
“เช่นนั้นเหตุใดพวกท่านถึงต้องเลิกราหล่ะ?”
“เขาคิดถึงจวินฉูฉู่อยู่ตลอดและข้าก็รู้สึกว่าพวกเราไม่เหมาะสมกัน” อวิ๋นหลัวฉวนยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าไม่เหมาะสมกับอ๋องตวน
สิ่งที่เขาทำอยู่นั้นได้เกินเลยจากความคิดของนาง ตอนนี้นางไม่ชอบเขาเลยแม้แต่น้อย
ในเมื่อทั้งสองคนไม่เหมาะสมกัน เช่นนั้นก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกัน
“แต่ว่าการแต่งงานนั้นไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ท่านอ๋องผู้สง่างามจะให้เจ้าหย่าได้เช่นไร ถึงแม้ว่าเจ้าจะเป็น
ไข่มุกเรืองแสงในฝ่ามือของจวนกั๋วกง เรื่องนี้ก็ฟังไม่ขึ้น"
“มิใช่ว่าข้าต้องการหย่า แต่เขาไม่ยอมเลิกรา”
“นั่นก็เหมือนกัน” ฉีเฟยอวิ๋นพยายามกดดันเอาไว้
อวิ๋นหลัวฉวนหลับตาลง: “ที่จริงแล้วระหว่างข้ากับเขาไม่ช้าก็เร็วก็ต้องเป็นเช่นนี้ เขาเป็นผู้ที่คิดเล็กคิดน้อย ทุกวันก็จะกระตุ้นเรื่องข้ากับจงชินอ๋อง ไม่มีจิตใจดังชายชาตรีเลยแม้แต่น้อย ข้าไม่ชอบคนเช่นนี้
ยิ่งกว่านั้นเรื่องของจงชินอ๋องนั้นข้าก็ทำให้เขาห่างเหินกับข้า แล้วจะดำเนินชีวิตกันต่อไปเช่นไร?
ข้ากลับอิจฉาท่าน อ๋องเย่เป็นผู้มีจิตใจกว้างขวางข้าชอบอ๋องเย่"
“ทุกครอบครัวมีเรื่องยากด้วยกันทั้งสิ้นท่านไม่เห็นเท่านั้นเอง หากเห็นแล้วท่านก็จะไม่กล่าวเช่นนี้แล้ว”
ฉีเฟยอวิ๋นครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง: "ให้ข้ากล่าวหล่ะก็อย่าได้หย่าร้างรอให้อ๋องตวนเลิกรากับท่าน ไม่ช้าก็เร็วก็ต้องเลิกรากันอยู่ดี"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ