องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ นิยาย บท 54

เมื่อมาถึงพระที่นั่งบำรุงฤทัย ฉีเฟยอวิ๋นก็เงยหน้าขึ้น และเห็นคนอื่นอีกสองคน เหนือความคาดหมายจริง ๆ

เสื้อคลุมสีม่วงเข้มสะดุดตาที่แพรวพราวในค่ำคืนอันเหน็บหนาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่หิมะกำลังปลิวตามลม ฉีเฟยอวิ๋นกังวลมาตลอดทางว่าการเข้าวังมาคราวนี้จะไม่ใช่เรื่องดี และไม่ได้สังเกตว่าหิมะกำลังตก

สายตาของฉีเฟยอวิ๋นจ้องมองไปที่คนสองคนที่หันหลังให้นางและหนานกงเย่ ทั้งสองคนสวมชุดสีม่วง แม้ว่าคืนนี้พระจันทร์จะมืดและลมแรง ฉีเฟยอวิ๋นก็ยังเห็นสีชุดของทั้งสองคนนั้นอย่างชัดเจน รวมทั้งเครื่องประดับหยกมรกตที่สวมอยู่บนศีรษะของจวินฉูฉู่ด้วย

อ๋องตวนที่อยู่ข้าง ๆ ก็สวมชุดสีม่วงเช่นกัน และสวมมงกุฎสีม่วงที่มีไข่มุกสีทอง

เมื่อฉีเฟยอวิ๋นเห็นทั้งสองคนนี้ก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ จวนท่านแม่ทัพไม่รู้ว่านางเข้ามาในวังกลางดึก นางได้พบกับคู่อริทั้งสองก็ตายไปแล้วครึ่งหนึ่ง หนานกงเย่ก็ถือได้ว่าเป็นอีกครึ่งหนึ่ง แม้ว่าเขาจะไม่ได้ลงมือทำร้ายนาง แต่ก็คงจะไม่ช่วยนาง ซวยจริง ๆ หากตายอยู่ในวังก็คงจะไม่มีใครรู้

แน่นอนว่ามันรู้สึกได้ถูกต้อง ไม่มีเรื่องดีอะไรเลย

เมื่อหนานกงเย่เห็นอ๋องตวนหนานกงเหยี่ยนและจวินฉูฉู่ก็หยุดเดิน เขายืนมองอยู่ข้าง ๆ และจ้องมองไปที่จวินฉูฉู่

ฉีเฟยอวิ๋นอึดอัดใจ มาถึงตอนนี้แล้ว มองแล้วมีประโยชน์อะไร ถ้ามีความสามารถก็แย่งมาสิ!

หนานกงเหยี่ยนหันกลับไปมอง และดวงตาที่ลึกล้ำของเขาก็จ้องไปที่ร่างของฉีเฟยอวิ๋น ฉีเฟยอวิ๋นกลัวเขาจริง ๆ และรู้สึกปอดแหกนิดหน่อย เมื่อนางไม่สามารถเอาชนะเขาได้

ฉีเฟยอวิ๋นก้มศีรษะลงในทันที และไม่สามารถซ่อนได้

ในวัง หากนางไม่ยั่วยุเขา เขาก็ไม่มีเหตุผลที่จะฆ่านาง?

“ท่านมาแล้วหรือ?” หนานกงเหยี่ยนกล่าวด้วยท่าทางอ่อนโยน และเริ่มพูดกับหนานกงเย่ก่อน

“พี่รอง”

หนานกงเย่ไม่ใช่คนที่ไม่รู้จักวางตัว อีกอย่างเขากับอ๋องตวนก็ค่อนข้างดีต่อกัน

“ฝ่าบาททรงมีรับสั่งให้พวกเราเข้ามาในวังกลางดึก ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เดิมทีคิดว่ามีเพียงข้าะละจวินฉูฉู่ ไม่คิดว่าพวกท่านก็จะมาด้วย”

“ไม่แน่ใจ”

หนานกงเย่ก็ไม่แน่ใจ ฉีเฟยอวิ๋นดูแปลก ๆ หรือว่าทรงมีรับสั่งให้พวกเขาสองคนมาเข้าเฝ้า แต่ทำไมถึงบอกว่าเรียกให้นางมาเข้าเฝ้า และยังคิดว่าเขาใจดีตามเข้ามาในวังด้วย ที่แท้ก็หลอกลวง

หนานกงเย่เดินไปหยุดอยู่ข้าง ๆ แน่นอนว่าฉีเฟยอวิ๋นก็เดินตามไป แต่อากาศหนาวเย็นจนพื้นดินจับตัวเป็นน้ำแข็ง และฉีเฟยอวิ๋นไม่ได้เตรียมการมามากนัก ก่อนหน้านี้ฝ่ามือของนางเหงื่อออก แต่ในตอนนี้ก็แย่กว่าเดิม นางรู้สึกว่าหัวใจของนางเต้นแปลก ๆ และการหายใจของนางก็ผิดปกติเล็กน้อย แต่นางยังหาสาเหตุไม่พบ

เมื่อขันทีเห็นหนานกงเย่ก็รีบเดินเข้ามา โค้งตัวลงและกล่าวด้วยความเคารพว่า:“ฝ่าบาทยังทรงมีเรื่องที่จะปรึกษากับฮองเฮา ท่านอ๋องเย่ พระชาเย่ ท่านอ๋องตวน พระชายาตวนได้โปรดทรงรอก่อนพ่ะย่ะค่ะ”

“ขอบคุณกงกงมาก”

“ขอบคุณกงกงมาก”

ท่านอ๋องทั้งสองกล่าว และทั้งสี่คนก็รอ

หนานกงเหยี่ยนปิดเสื้อคลุมกันลมให้จวินฉูฉู่อยู่บ่อย ๆ และถามว่าหนาวหรือไม่ แต่ฉีเฟยอวิ๋นเป็นเหมือนหนอนที่น่าสงสาร ไม่มีใครสนใจและไม่มีใครถาม

อ๋องตวนมองไปข้างหน้า มือของเขายังคงจับมือของจวินฉูฉู่ไว้แน่น ฉีเฟยอวิ๋นเอามือมาถูกันเป็นครั้งคราว หนาวมากจริง ๆ!

จวินฉูฉู่หันหน้าไปช้า ๆ และมองใบหน้าอันหล่อเหลาของหนานกงเย่ หัวใจของนางเหมือนถูกมีดกรีด รู้แต่แรกก็คงไม่ทำ ถ้าในตอนแรกไม่ทำเช่นนั้น ในเวลานี้ก็คงไม่ลำบากใจเช่นนี้

ฉีเฟยอวิ๋นมีดีอะไร ถึงได้แต่งงานกับพี่เย่!

ดวงตาของจวินฉูฉู่ดูโศกเศร้าเสียใจ หนานกงเย่เงยหน้าขึ้น และเห็นดวงตาคู่นั้นของนางพอดี ลมหายใจของเขาจึงลอยขึ้นเล็กน้อย

เมื่อฉีเฟยอวิ๋นเห็นเช่นนั้นก็เหนื่อยหน่าย ไม่ได้เรื่อง ล้วนแต่แต่งงานกันหมดแล้ว แต่ละคนก็ต่างมีครอบครัวของตัวเอง ยังจะส่งสายตาให้กันอยู่อีก และไม่กลัวว่าจะถูกสวรรค์ลงทัณฑ์!

ในขณะที่ยืน ฉีเฟยอวิ๋นยืนเซจนเกือบจะล้มลง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ