ฉีเฟยอวิ๋นคิดไม่ถึงว่าผู้เฒ่าสองคนในป่าจะปฏิบัติต่อพวกเขาเช่นนี้
หลังจากอาบน้ำเสร็จออกมา ข้างหน้าก็มีเสื้อที่สะอาดวางไว้อยู่ ถึงแม้ว่าจะดูธรรมดาแต่ขนาดก็พอเหมาะกับที่พวกเขาทั้งสองสามารถใส่ได้ ฉีเฟยอวิ๋นรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
ในป่าเขาที่แห้งแล้งและลึกลับ จะมีเสื้อผ้าที่พอเหมาะพอดีเช่นนี้ที่ไหน ต่อให้ทำตอนนี้ก็เป็นไปไม่ได้
ไม่ว่าจะอย่างไร ฉีเฟยอวิ๋นใส่เสื้อผ้าไปก่อน
หนานกงเย่ออกมาจากข้างในเมื่อเห็นฉีเฟยอวิ๋นก็ตกใจอยู่ครู่หนึ่ง เสื้อผ้าของผู้หญิงในเมืองอู๋โยวค่อนข้างหนาและหนัก เสื้อผ้าเป็นแบบที่ห่อหุ้มอย่างแน่นหนา โดยเฉพาะกระโปรงช่วงล่างที่มีความหนาหลายชั้น
แต่แบบนี้ถึงแม้ใส่แล้วจะดูธรรมดา แต่ก็ความรู้สึกเคร่งขรึมสุขุมมากขึ้น
คนอื่นใส่แล้วไม่รู้ว่าจะให้ความรู้สึกแบบไหน แต่ฉีเฟยอวิ๋นใส่ออกมาได้อย่างสวยงาม
เมื่อเห็นว่าหนานกงเย่ยังไม่สวมใส่เสื้อผ้า ฉีเฟยอวิ๋นจึงรีบถือผ้าขนหนูแห้งเข้าไปเช็ดตัวให้กับเขา และตรวจดูว่าเรือนร่างของเขายังมีบาดแผลอยู่หรือไม่
หนานกงเย่มองดูฉีเฟยอวิ๋นที่มีสีหน้าจริงจัง มุมปากของเขาก็ยกขึ้นและเขาก็ยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน
เขากุมมือของฉีเฟยอวิ๋นแน่น หนานกงเย่ดึงฉีเฟยอวิ๋นเข้ามาจูบ
ฉีเฟยอวิ๋นปล่อยมือออก จากนั้นจึงเช็ดตัวให้หนานกงเย่ให้แห้ง
จากนั้นจึงหยิบชุดใหม่มาให้หนานกงเย่ใส่ เอวของหนานกงเย่นั้นคอดเข้าไปทำให้สวมเข็มขัดได้ยาก ฉีเฟยอวิ๋นใช้เวลาอยู่นานกว่ากว่าจัดการเสร็จ ขากางเกงนั้นมีความกว้างสามารถเดินได้อย่างสะดวกสบาย
ส่วนฉีเฟยอวิ๋นนั้นเป็นชั้นๆ ราวกับดอกไม้ที่กำลังแตกหน่อ ตั้งแต่น่องลงไปได้ถูกห่อหุ้มไว้ จึงทำให้ก้าวเท้าได้อย่างช้าๆ และก้าวเล็กๆ
หลังจากที่ใส่เสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ฉีเฟยอวิ๋นยิ้มหัวเราะ "ร่างกายของท่านอ๋องใส่อะไรก็ดูดีเพคะ"
หนานกงเย่กล่าว "ไม่เหมือนอวิ๋นอวิ๋น ใส่อะไรก็ดูดี"
"......"
ฉีเฟยอวิ๋นรู้สึกเขินอาย หนานกงเย่ยอมรับกับสิ่งในยุคปัจจุบันได้อย่างรวดเร็วและเรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน
"เราออกไปกันเถอะเพคะ" ฉีเฟยอวิ๋นเหลือบมองถังน้ำที่เต็มไปด้วยเลือด เดิมทีต้องการจะจัดการกองเสื้อผ้าที่เต็มไปด้วยเลือดที่กองอยู่บนพื้น แต่หนานกงเย่จูงฉีเฟยอวิ๋นไว้ หลังจากนั้นเขาก็จัดการด้วยตัวเอง จากนั้นจึงเทน้ำทิ้งไป
ฉีเฟยอวิ๋นต้องการจะช่วย แต่หนานกงเย่ไม่ต้องการให้เธอช่วย
ทั้งสองคนเดินออกไป ฉีเฟยอวิ๋นรีบเข้าไปขอบคุณสองสามีภรรยาชรา
หนานกงเย่กลับมาอธิบาย "ภรรยาของข้ากำลังตั้งครรภ์จึงไม่สามารถทำงานหนักได้"
"เช่นนั้นก็ไม่สามารถทำงานหนักได้ พวกเจ้าหิวกันหรือไม่ ข้ายังขอมีเสบียงอาหารเหลืออยู่บ้าง พวกเจ้ารีบไปกันเถอะ ไม่เช่นนั้นหากถูกจับได้จะเดือดร้อนไปกันหมด"
หญิงชราหยิบห่อหนึ่งห่อให้ฉีเฟยอวิ๋น ฉีเฟยอวิ๋นตกใจอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงหยิบมาเปิดดูและก้มศีรษะโค้งคำนับเพื่อแสดงความขอบคุณ "ขอบคุณคุณยายมาก"
"ไปกันได้แล้ว"
หญิงชราและชายชราทั้งสองยืนส่งพวกเขาออกไป หนานกงเย่จูงฉีเฟยอวิ๋นและเดินไปทางค่ายทหารฝั่งทางใต้ ไม่นานทั้งสองก็มาถึงภายนอกของกระโจมค่ายทหาร
ทั้งสองคนที่ปลอมตัว เมื่อเห็นพวกเขาทั้งสองคนก็นำตัวเข้ามา ทั้งสี่คนต่างแยกย้ายกันไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ฉีเฟยอวิ๋นหยิบเสบียงออกมาวางไว้ จากนั้นจึงทดลองและแน่ใจว่าไม่มีพิษ เธอมองไปที่หนานกงเย่ "ดูเหมือนพวกเขาจะไม่ใช่คนธรรมดา ฤดูหนาวเช่นนี้พวกเขาไปหาไม้ฟืนมาได้จากที่ไหน แถมยังมีเสื้อผ้าที่ดีเช่นนี้ให้พวกเรา?"
"ใช่พวกเขาไม่ใช่คนธรรมดา ในป่าหุบเขา คนที่สามารถอาศัยอยู่อย่างสันโดษในสถานที่ที่อันตรายเช่นนี้ได้จะต้องเป็นคนไม่ธรรมดาแน่ๆ"
หนานกงเย่เปลี่ยนเสื้อผ้าดีแล้ว จากนั้นจึงอุ้มฉีเฟยอวิ๋นเข้าไปเปิดผ้าห่มขึ้นและล้มตัวลงนอน
ฉีเฟยอวิ๋นเหลือบมองประตูนอกกระโจมและแน่ใจว่าไม่มีใครเดินผ่านมา จากนั้นจึงนอนลงไปพร้อมกับหนานกงเย่
หนึ่งคืนที่ไม่ได้นอนหลับพักผ่อน ไม่นานทั้งสองก็นอนหลับไป
ฉีเฟยอวิ๋นตื่นขึ้นมาในตอนเที่ยง แต่หนานกงเย่ยังคงหลับอยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ