องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ นิยาย บท 639

ฉีเฟยอวิ๋นดึงมือกลับไป แล้วกล่าวหยอกล้อว่า“ดูเหมือนว่าโรคของกั๋วจิ้วแปลกประหลาดมากใช่หรือไม่?”

หวังฮวายอันกะตุกเปลือกตามองฉีเฟยอวิ๋น ทำหน้าตาหล่อเหลา ไม่ตอบกลับแถมย้อนถามว่า“สู้ไม่ได้กับใบหน้าที่สวยงามของพระชายาเย่หรอก คนปกติไปออกศึกสู้รบกลับมา จะหน้าดำอัปลักษณ์ แต่บนใบหน้าของพระชายาเย่นั้น กลับคล้ายดั่งไปวังบนสวรรค์ แล้วกลับมา ก็ไม่รู้ว่าดื่มเหล้าเลิศรส หรือว่ากินอาหารชั้นดีมา ใบหน้าถึงได้สะพรั่งดั่งนำภัยพิบัติมาสู่บ้านเมืองและพลเมืองได้เยี่ยงนี้

ฉีเฟยอวิ๋นตะลึงงัน นี่เป็นคำกล่าวที่หวังฮวายอันกล่าวออกมาหรือ?

เธอหันกลับไปมองคนด้านในเรือน ไม่ใช่ว่าได้ยินแล้วแกล้งไม่ได้ยิน ก็คงเป็นความที่ไม่ได้ใส่ใจ

อวิ๋นจิ่นก้มศีรษะเล็กน้อย ทำคล้ายดั่งว่าไม่ได้ยิน

หวังฮวายอันกระแอมไอขึ้น ฉีเฟยอวิ๋นเลยทำเยี่ยงคนอื่นตั้งแต่ต้น คือแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน แล้วอ้อมเดินไป

หวังฮวายอันยิ้ม แล้วกล่าวว่า“นำภัยพิบัติมาสู่บ้านเมืองและพลเมือง!”

ฉีเฟยอวิ๋นหยุดลง หันกลับไปมองหวังฮวายอัน หวังฮวายอันหันมองฉีเฟยอวิ๋นเช่นกัน ดวงตาสองคู่สบประสานกัน ฉีเฟยอวิ๋นมองแล้วหมุนตัวเดินไป

อวิ๋นจิ่นหมุนตัวชำเลืองมองหวังฮวายอันที่อยู่ด้านหลัง แล้วเดินไปดูเด็กๆกับฉีเฟยอวิ๋น

ผลักประตูเข้าไป ฉีเฟยอวิ๋นเลยเอาเรื่องของหวังฮวายอันสลัดลืมไว้ด้านหลัง

เธอเปิดโปงหวังฮวายอันเรื่องที่แกล้งป่วย พยายามไม่เข้าเฝ้า เพราะฉะนั้นหวังฮวายอันเลยโกรธเดือดดาล

เวลานี้แม่ทัพฉีกำลังรอฉีเฟยอวิ๋นอยู่ ประตูผลักออกแม่ทัพฉีจึงอดไม่ได้ที่น้ำตาจะหลั่งรินพรั่งพรูลงมา

พอฉีเฟยอวิ๋นเห็นน้ำตาเป็นสายของแม่ทัพฉี เลยรีบคุกเข่าลงต่อหน้าแม่ทัพฉี

แม่ทัพฉีจะยินยอมจำใจได้ที่ไหน เขาเลยคุกเข่าลงเช่นกัน

อวิ๋นจิ่นชะงักงันอยู่หน้าประตู น้ำตาไหลอาบลงมาด้วย

ได้ยินแม่ทัพอาวุโสอันที่ร้องไห้โดยไม่สนใจฐานะตนเอง

เด็กน้อยต่างพากันมองไปที่สองพ่อลูก เจ้าเสือน้อยก็ร้องคำรามเศร้าโศกคึกครื้นด้วยเช่นกัน

ฉีเฟยอวิ๋นร้องไห้อยู่สักพักหนึ่ง ก็ได้ผละออกจากแม่ทัพฉี เธอกล่าวขึ้นว่า“ท่านพ่อ ท่านอย่าร้องไห้เลย ข้าก็ไม่ใช่กลับมาอย่างปลอดภัยหรือ ก็ไม่กลัวคนที่จะหัวเราะเยาะเลยนะ”

“พ่อไม่ได้ร้อง”แม่ทัพฉีบอกไม่ได้ร้อง แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะสะอึกสะอื้นขึ้น

ฉีเฟยอวิ๋นไร้สิ้นหนทาง จึงมองแม่ทัพฉีร้องไห้ แม่ทัพฉีร้องไห้ เธอได้เช็ดซับน้ำตาให้ เธอเองก็ร้องไห้ตามร่วมด้วย

คนอื่นๆที่ควรจะมาก็มาแล้ว จากนั้นต่างได้เช็ดน้ำตาตามๆกัน

ไห่กงกงทั้งยิ้มทั้งหัวเราะ ยิ้มไม่ออกก็เช็ดซับน้ำตา

แม่ทัพฉีร้องไห้พอแล้ว เช็ดน้ำตาเสร็จถึงได้กล่าวว่า “ตั้งแต่วันนี้ สถานที่ที่พ่ออยู่เจ้าก็อยู่ด้วย ไม่ให้ออกไปแล้ว หากว่าเขายังอยากไปสู้รบ ให้เขาไปเอง เจ้าห้ามไป หากเจ้าไม่ตอบตกลงสัญญากับพ่อ ตอนนี้พ่อจะเอาหัวไปชนตายเลย”

เป็นเวลานานฉีเฟยอวิ๋นถึงได้มีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมา จากนั้นพยักหน้ากล่าวว่า“อืม”

แม่ทัพฉีถึงได้เลิกร้องไห้ แต่ยังคงไม่วางใจฉีเฟยอวิ๋น เลยสั่งสอนอีก ฉีเฟยอวิ๋นพยักหน้าเป็นพัลวัน แม่ทัพฉีถึงได้ยอมปล่อย

ฉีเฟยอวิ๋นเลยได้เดินไปดูเด็กๆ เธออุ้มลูกชายขึ้นอีกทั้งร้องไห้ขึ้นอีก

สุดท้ายฉีเฟยอวิ๋นอุ้มเจ้าห้าไม่วางมือ เด็กน้อยคนอื่นๆก็ไม่ยอมลดละ ปีนป่ายขึ้นมาหาฉีเฟยอวิ๋น หลังจากนั้นได้นั่งรอบกายของฉีเฟยอวิ๋นเสียเลย

ฉีเฟยอวิ๋นคิดไม่ถึงเลยว่า เธอเดินทางไปแล้วกลับมา ลูกๆของเธอจนคลานปีนป่ายได้แล้ว ไม่เพียงเท่านี้ พวกเขาล้วนสูงขึ้น ฟันน้อยๆได้ผุดออกมาแล้ว แต่ละคนรูปหล่อเสียจริง

ฉีเฟยอวิ๋นไม่มีรูปตอนเด็ก แต่เธอมั่นใจ ตอนเด็กเธอไม่ได้หน้าตาดีอย่างนี้ ลูกชายของเธอหล่อเหลาจนดูน่าเป็นภัยพิบัติต่อบ้านเมืองเสียจริง เล็กขนาดนี้ก็หล่อเหลาเช่นนี้แล้ว พอโตแล้วจะไหวหรือ?

ฉีเฟยอวิ๋นมองใครล้วนแล้วแต่ชอบ เลยวางเจ้าห้าลง เด็กคนนี้นอนไม่ลุกขึ้น พี่ชายคนอื่นๆต่างไปดูเขา เหล่าลูกรักไม่ทะเลาะกัน แต่เจ้าห้ารังเกียจรูปร่างหน้าตาพี่ชาย เลยหลับตาไม่มองพวกเขา มีบางครั้งได้ยินเรื่องที่น่าสนใจเลยลืมตาขึ้น ชำเลืองมองแม่เล็กน้อยแล้วหลับตาลง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ