เมื่อเกิดเรื่องขึ้นกับฮูหยินรอง ราชครูจวินก็ไม่กล้าที่จะประมาท เขาไล่คนออกไปแล้วกลับมาอยู่เป็นเพื่อนฮูหยินรอง ฮูหยินรองจึงกล่าวว่า:“ให้พระชายาเย่กลับไปเถิด ข้าไม่ได้เป็นอะไรและรู้สึกดีขึ้นมากแล้ว”
“แล้วเจ้าไม่อยากไปที่จวนอ๋องเย่หรือ?” ในตอนนี้ราชครูจวินเข้าใจแล้ว ไม่สำคัญว่าจะอยู่ที่ไหน ขอเพียงแค่ไม่เป็นอะไรก็พอแล้ว
ฮูหยินรองส่ายหัว:“ไม่อยากไปแล้ว ให้เป็นเช่นนี้ไปก่อน”
“เช่นนั้นเจ้าอยากไปเมื่อไหร่ก็ไป พระชายาเย่กลับไปก่อน ส่วนอาการป่วย ต้องรบกวนให้พระชายาเย่มาตรวจวันละครั้งแล้ว” ราชครูจวินยังคงกังวล ถึงอย่างไรก็เกือบตาย
แน่นอนว่าฉีเฟยอวิ๋นรับปาก และหลังจากที่ชี้แจ้งแล้ว ฉีเฟยอวิ๋นก็จากไป
เมื่อเห็นว่าฉีเฟยอวิ๋นจากไปแล้ว ฮูหยินรองก็รู้สึกไม่ค่อยดี
สำหรับฮูหยินรองแล้ว หลังจวนของจวนราชครูเป็นเหมือนกรงขัง และนางก็เป็นเพียงนกตัวหนึ่งที่ถูกขังอยู่ข้างในเพื่อรอความตาย
แม้ว่าโลกภายนอกจะไม่ได้กว้างขวาง แต่ที่เรือนจวินจื่อของจวนอ๋องเย่ ดีกว่าหลังจวนของจวนราชครูมาก
หลังจากที่ฉีเฟยอวิ๋นจากไป ฮูหยินรองก็นอนทั้งวัน ไม่กินข้าวไม่กินน้ำ และไม่อยากพูดอะไร จนทำให้ราชครูจวินเป็นกังวลทั้งวัน
พอตกดึกก็สั่งให้คนพาฮูหยินรองขึ้นไปบนรถม้า และมุ่งหน้าไปยังจวนอ๋องเย่
เดิมทีฉีเฟยอวิ๋นวางแผนว่าจะพักที่จวนแม่ทัพ แต่มีคนจากจวนอ๋องเย่มาบอกนางว่าราชครูจวินพาฮูหยินรองมาที่นั่น
ฉีเฟยอวิ๋นจึงกลับไปที่จวนอ๋องเย่อีกครั้ง เมื่อพบราชครูจวินและฮูหยินรองแล้วก็นั่งอยู่สักพกัก
ฮูหยินรองไม่ค่อยดีนัก ฉีเฟยอวิ๋นจึงจ่ายยาให้อีก
“พ่อบ้านของจวนแม่ทัพ แม่ชราของเขาป่วย ข้าจึงต้องอยู่ที่หลายวัน ช่วงนี้ก็ให้ฮูหยินรองพักอยู่ที่นี่ก่อน มีหมอเทวดาอยู่ ร่างกายก็จะค่อย ๆ ดีขึ้น” ฉีเฟยอวิ๋นชี้แจ้งอย่างชัดเจน จากนั้นก็ลุกขึ้น
ราชครูจวินรู้สึกเหนื่อย ถึงอย่างไรเขาก็อายุมากแล้ว
เมื่อเห็นว่าฮูหยินรองไม่เป็นไรแล้ว ราชครูจวินก็โล่งใจ
ฉีเฟยอวิ๋นดินออกไป และราชครูจวินก็ไปพักผ่อนเช่นกัน
จากนั้นฮูหยินรองก็หลับไป
คืนนี้ฉีเฟยอวิ๋นกลับไปพักผ่อนที่จวนแม่ทัพ และในตอนเช้าก็ไปที่คุก
หลังจากลงจากรถม้า เว่ยหลินชวนและเวยฉือก็รอฉีเฟยอวิ๋นอยู่ที่หน้าประตูคุกแล้ว
เมื่อเห็นทั้งสองคน เว่ยหลินชวนและเวยฉือก็ก้าวไปข้างหน้าแล้วคารวะ
“คารวะพระชายาเย่”
ฉีเฟยอวิ๋นพยักหน้า:“พวกท่านทั้งสองไม่ต้องมากพิธี เข้าไปข้างในกันเถอะ”
ฉีเฟยอวิ๋นเดินเข้าไป จากนั้นเว่ยหลินชวนและเวยฉือก็เดินตาม
เฟิงอู๋ชิงออกมาจากมุมมุมหนึ่งและหยุด อู๋ซังกล่าวว่า:“นายท่าน พวกเราจะฆ่านางเมื่อไร?”
เฟิงอู๋ชิงเหลือบมองไปที่อู๋ซัง:“เจ้ารีบร้อนมากเลยหรือ?”
“……” อู๋ซังอึดอัดใจ เขาบอกว่ารีบร้อนตั้งแต่เมื่อไหร่กัน เขาลำบากใจมาก พระชายาที่ดีเช่นนี้ หากฆ่าก็น่าเสียดายแย่ นางไม่ใช่คนเลว นางเป็นหมอที่ใจดีคนหนึ่ง หากฆ่านางแล้ว ไม่รู้ว่าใต้หล้านั้นจะยังมีหมอที่ดีเช่นนางหรือไม่?
เฟิงอู๋ชิงหันหน้าไปมองที่คุก:“ลงมือวันนี้เลย อีกเดี๋ยวเจ้าสวมชุดนักฆ่า เมื่อนางกลับไปได้ครึ่งทางแล้วก็ลงมือฆ่าได้”
อู๋ซังเต็มไปด้วยความโศกเศร้า:“นายท่าน ไม่ใช่ท่านที่ฆ่าหรือ?”
“ข้าสวมชุดที่สะอาดสะอ้าน หากฆ่านาง เลือดจะกระเซ็นโดนตัว?”
อู๋ซังงงงัน เหตุผลนี้เด็ดขาดมาก
ประตูห้องขังถูกเปิดออก จวินโม่ซ่างหันไปมองที่หน้าประตู แล้วฉีเฟยอวิ๋นเดินเข้ามา เมื่อจวินโม่ซ่างเห็นฉีเฟยอวิ๋นก็ตกตะลึง
หลังจากที่ไม่ได้เจอกันนานถึงสองเดือน จวินโม่ซ่างไม่คิดเลยว่าในช่วงเวลาสั้น ๆ เพียงแค่สองเดือน หนานกงเย่จะเข้ายึดแคว้นอู๋โยวทั้งหมดได้
“ไม่พบกันมานาน สบายดีหรือ?”
จวินโม่ซ่างมองไปที่ฉีเฟยอวิ๋น แต่ไม่ได้พูดอะไรสักคำ
ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา เขาไปอยู่ที่อื่น ตอนที่ไปเขาสวมหน้ากาก และตอนที่ออกมาก็สวมหน้ากากเช่นกัน จนกระทั่งวันนี้เขาถึงได้กลับมา และแน่ใจว่าแคว้นอู๋โยวจบสิ้นแล้ว
แต่ไม่รู้ว่าทำไมในเวลานี้ เขาถึงรู้สึกเสียใจภายหลัง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ