ตอน บทที่ 664 ดวงตามองไม่เห็น จาก องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 664 ดวงตามองไม่เห็น คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายInternet องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ ที่เขียนโดย จินจิน เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
หวาชิงพักอยู่ในจวนอ๋องเย่ ฉีเฟยอวิ๋นจัดการให้นางพักอยู่เพียงลำพังในจู๋อวิ๋นไจทางเรือนด้านหลัง
หวาชิงยังไม่แต่งงาน พักที่เรือนจวินจื่อไม่เหมาะสมหรอก ฉีเฟยอวิ๋นเลยจัดการให้พักที่จู๋อวิ๋นไจเสียเลย
ค่ำคืนนั้นหวาชิงมีบ่าวคอยอยู่ปรนนิบัติถึงสี่คนล้วนเป็นคนที่อวิ๋นจิ่นเคยสั่งสอนและสำรวจคัดอย่างพิถีพิถัน
เสื้อผ้าของใช้ก็เป็นอวิ๋นจิ่นที่จัดการเตรียม
จวนหวาก็มีคนมาสี่คน บวกกับพลทหารของหวาชิง กล่าวตามหลักเหตุผลพักอยู่ที่นี่ได้น่าจะไม่เลวเลยทีเดียว
แต่หวาชิงพยายามอยากให้ฉีเฟยอวิ๋นอยู่เป็นเพื่อน
ฉีเฟยอวิ๋นกล่าวด้วยความลำบากใจว่า“แม่ทัพน้อย ทำเช่นนี้ไม่เหมาะสมหรอกนะ?”
“มีสิ่งใดที่ไม่เหมาะสม หม่อมฉันกับพระชายาล้วนเป็นหญิง ไม่ได้มีเรื่องเลวร้าย อีกอย่างห้องที่เรือนจู๋อวิ๋นไจมากมาย เพียงแค่พักในเรือนเดียวกัน ไม่ใช่ในห้องเดียวกัน หม่อมฉันดูไม่ออกเลยว่ามีสิ่งใดที่ไม่เหมาะสมเพคะ
อีกอย่างยังหาอันเสี่ยวฮวนไม่เจอ พระราชโองการของฝ่าบาทคือต้องการให้พระชายาเย่หาอันเสี่ยวฮวนเป็นเพื่อนหม่อมฉัน หากพระชายาเป็นแจ้งรายงานอันเสี่ยวฮวน เช่นนั้นไม่ใช่ว่าเขาจะยิ่งหนีไปไกลขึ้นหรือ แล้วจะยิ่งหาเขาไม่เจอ”
หวาชิงกล่าว ฉีเฟยอวิ๋นไปไหนไม่ได้เลยไม่โต้แย้ง เพียงแค่เรียกคนไปรายงานเรื่องราวสถานการณ์ทางด้านนี้
หวาชิงอาบน้ำผลัดเปลี่ยนชุด และได้เปลี่ยนชุดผู้หญิงออกมาจากห้องด้านใน ฉีเฟยอวิ๋นนั่งนอกห้องคล้ายดั่งจิตใจไม่สงบ
เห็นหวาชิงวินาทีนั้น ฉีเฟยอวิ๋นชะงักงันอยู่เป็นเวลานาน เธอไม่เคยเห็นหวาชิงสวมใส่ชุดผู้หญิงเลย วันนี้ได้เห็นมีเพียงความสวยสง่า
ทำให้หญิงงามผู้หนึ่งล่าช้าเสียเวลา ฉีเฟยอวิ๋นรู้สึกอัดแน่นอย่างมาก
“พระชายาเย่”
หวาชิงลุกขึ้นช้าๆ ฉีเฟยอวิ๋นตื่นตะลึงรัศมีความสง่างามของหวาชิง
เธอลุกขึ้นกล่าวว่า“แม่ทัพน้อย”
“อืม พวกเราเล่นหมากรุกกันเถิดเพคะ”หวาชิงรู้สึกนอนไม่หลับ นางเลยอยากจะเล่นหมากรุก
ฉีเฟยอวิ๋นกลับไม่อยากเล่น แต่ยากที่จะปฏิเสธ
“เอาสิ”
ฉีเฟยอวิ๋นเดินไปเล่นหมากรุกกับหวาชิง แต่ยังไม่ทันเริ่มหนานกงเย่ก็มาถามแล้ว
“ท่านอ๋องเย่มาตามพระชายาเย่กลับเข้านอนแล้วพ่ะย่ะค่ะ”หนานกงเย่ให้อาอวี่เรียกอยู่หน้าประตู เขาจึงรอฉีเฟยอวิ๋นออกมา
“ผู้ใดร้องโหวกเหวกโวยวายอยู่ด้านนอก?”ฉีเฟยอวิ๋นจงใจถาม เธอได้ยินเสียงอาอวี่ก็รู้เลยว่าหนานกงเย่มาแล้ว
บ่าวรีบตอบกลับว่า“เป็นท่านอ๋องเย่ที่มาเพคะ ได้มาเชิญพระชายากลับไปเข้านอนเพคะ”
ฉีเฟยอวิ๋นวางหมากลงกล่าวว่า“แม่ทัพน้อย ท่านอ๋องเพิ่งจะกลับมาจากชายแดน พวกเราสองสามีภรรยายังมิได้อยู่ร่วมกัน หวังว่าแม่ทัพน้อยจะเข้าใจ ส่วนเรื่องของอันเสี่ยวฮวน ข้าไม่รู้จักเขาอย่างแท้จริง ข้าก็อยากจะถามท่านอ๋อง เรื่องของอันเสี่ยวฮวนอยู่”
“ในเมื่อท่านอ๋องเย่มาแล้ว เช่นนั้นเชิญท่านอ๋องเย่มาเล่นหมากรุกกับหม่อมฉันก็ได้ อยากจะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเขาตั้งนานแล้ว”
หวาชิงกำลังคิดอยาดจะคิดบัญชีกับหนานกงเย่ เขาก็มาเองแล้ว จะปล่อยไปได้ที่ไหนกันล่ะ
ฉีเฟยอวิ๋นกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ยิ้มเล็กน้อยกล่าวว่า“ดึกดื่นมืดค่ำ ท่านอ๋องเป็นชาย ห้องส่วนตัวแม่ทัพน้อย แน่นอนว่าไม่ดีที่จะเข้ามา”
“ไม่เป็นไรเพคะ พระชายาเย่ก็อยู่”หวาชิงมองไปทางประตูตรงที่มีบ่าวของจวนหวาอยู่ จากนั้นกล่าวว่า“ไปเชิญท่านอ๋องเย่ หากไม่มา ก็กล่าวว่าพระชายาเย่หกล้ม คิดว่าน่าจะมาแล้ว”
“เจ้าค่ะ!”
บ่าวออกไป เป็นอย่างที่คิดหนานกงเย่เข้ามา
เข้ามาแล้วเขามองพิจารณาฉีเฟยอวิ๋นขึ้นๆลงๆ
มั่นใจแล้วว่าฉีเฟยอวิ๋นมิเป็นไร หนานกงเย่จึงมองไปทางหวาชิงด้วยความไม่พอใจ
“ดูไม่ออกว่าแม่ทัพน้อยจะใช้อุบายเก่งได้ถึงเพียงนี้”หนานกงเย่เดินไปอยู่ข้างกายฉีเฟยอวิ๋น แล้วจับมือของฉีเฟยอวิ๋น กล่าวขึ้นว่า
“กลับเถิด”
หวาชิงไม่ทันกล่าวพูดอะไร หนานกงเย่ก็ได้ดึงมือของฉีเฟยอวิ๋นให้ลุกขึ้นจากเก้าอี้ เตรียมตัวจะออกไปกัน
หวาชิงเลยกล่าวว่า“อย่างไรหมากกระดานนี้ต้องเล่นให้จบ หากเล่นไม่จบ ผู้ใดก็อย่าได้คิดจะไปจากตรงนี้”
หวาชิงอิงอยู่ด้านหนึ่ง มองหนานกงเย่ด้วยสายตาเรียบเฉย “แม้ว่าหม่อมฉันจะปกป้องบ้านเมืองอยู่ชายแดน แต่อยู่ที่เมืองหลวงจนกระทั่งทั่วทุกเจ็ดย่านน้ำได้รู้จักคนไม่น้อย
อยากจะเอาคนที่จวนอ๋องเย่ไปจำนวนหนึ่งยังได้เลย ท่านอ๋องเย่ไม่ส่งมอบคนออกมาหม่อมฉันก็สามารถหาเองได้ แต่หากจะไป หมากกระดานนี้ต้องแบ่งแพ้ชนะ แน่นอนชนะสามารถออกไปได้เลย หากแพ้ เช่นนั้นต้องต่อเนื่อง”
หนานกงเย่กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“แม่ทัพน้อยมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจริงๆ ข้าได้เห็นแล้ว”
“พอกันเพคะ ในเมื่อท่านอ๋องพยายามสังหารอันเสี่ยวฮวน พังบุพเพสันนิวาสของหม่อมฉัน เช่นนั้นหม่อมฉันจะก่อกวนจวนอ๋องเย่ให้เดือนร้อนอย่างหนัก ทำให้ท่านอ๋องกินนอนไม่หลับเพคะ”
“......ไร้เหตุผลสิ้นดี!”
เห็นหนานกงเย่กับหวาชิงไม่มีใครยอมใคร ฉีเฟยอวิ๋นไม่เพียงแต่ไม่กังวลใจ เธอกลับง่วงมาก ความรู้สึกง่วงแบบนั้นมาแล้วเธอไม่สามารถควบคุมได้
ตรงหน้าของหนานกงเย่มีคนพุ่งกริชลงมา เขาหนักบริเวณหน้าอก แล้วอาเจียนออกมาเป็นเลือด หรี่ตาลงครู่หนึ่ง ด้านหน้าได้มืดมิดแล้ว
หวาชิงตกใจแทบแย่ บนหมากกระดานล้วนเป็นเลือด
หนานกงเย่หลับตาลง แขนออกแรงโอบกอดฉีเฟยอวิ๋นไว้แน่น
“อวิ๋นอวิ๋น......”
หนานกงเย่ครางร้องเรียกฉีเฟยอวิ๋นเสียงต่ำ ฉีเฟยอวิ๋นไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองแม้แต่น้อย เวลานี้หวาชิงก็รู้สึกว่าแปลกแล้ว
ตรงหน้าประตูอวิ๋นจิ่นรีบพาเฟิงอู๋ชิงมา
“แม่ทัพน้อย อวิ๋นจิ่นขอเข้าพบ”
อวิ๋นจิ่นอยู่หน้าประตู มือสองข้างประสานกันโค้งเอวเคารพ
ลูกน้องของหวาชิงเข้ามารายงานหวาชิง หวาชิงยกมือขึ้นเพื่อแสดงออกว่ามิจำเป็นต้องรายงานอีก
“ท่านแม่ทัพเรื่องนี้.......”
“ให้เจ้าออกไปก็ออกไป เกิดเรื่องอะไรขึ้น ข้าจะรับผิดชอบอย่างสุดความสามารถ”หวาชิงไล่คนออกไป แล้วกล่าวอย่างต่อเนื่องว่า“ท่านอ๋องเย่ ท่านยังต้องวาง”
หนานกงเย่ได้สติกลับมาช้าๆ เขาจำหมากรุกที่อยู่บนกระดานไม่ได้แล้ว
“ให้อวิ๋นจิ่นเข้ามา เป็นดวงตาให้แก่ข้า”
หวาชิงชำเลืองมองหน้าประตู กล่าวขึ้นว่า“เชิญแม่นางอวิ๋นจิ่นเข้ามา”
อวิ๋นจิ่นเข้ามา ได้ดึงเฟิงอู๋ชิงมาด้วย แต่พอถึงหน้าประตูจึงได้ถูกคนรั้งไว้
อวิ๋นจิ่นเข้าไปเหลือบมองเฟิงอู๋ชิง เฟิงอู๋ชิงวู่วามผลักคนแล้วตามเข้าไปด้วย คนของหวาชิงจึงได้ใช้กริชนาบแนบบนคอของเฟิงอู๋ชิง
เฟิงอู๋ชิงไร้การเคลื่อนไหว คนก็ได้กระโจนออกจากประตูไป จากนั้นอาเจียนออกมาเป็นเลือดอาบอยู่บนพื้น
เวลานี้หวาชิงถึงได้มองมาที่เฟิงอู๋ชิง แล้วก็ไม่ได้สนใจ
อวิ๋นจิ่นมองเห็นท่าทางของหนานกงเย่เป็นเช่นนั้น เลยรีบวิ่งไปดู จากนั้นกล่าวว่า“ท่านอ๋อง”
“มิเป็นไร ดวงตาของข้ามองไม่เห็นแล้ว”เวลานี้หนานกงเย่ถึงได้ลืมตา หวาชิงถึงได้ระมัดระวังให้ความสนใจสังเกตว่าดวงตาทั้งสองข้างของหนานกงเย่นั้นเปล่งประกายคล้ายดั่งสัตว์ที่อยู่ในป่ายามค่ำคืนแต่ทว่าแสงสว่างโชติช่วงกลับว่างเปล่า ราวกับเหวห้วงลึก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ