องค์จักรพรรดิอวี้ตี้ถึงได้มองเห็นโจวอี้เหริน เลยเรียกคนไปดู คิดไม่ถึงว่าจะตายบนราชสำนักเสียแล้ว
เป็นอาลักษณ์อาวุโสของปฐมกษัตริย์ องค์จักรพรรดิอวี้ตี้เลยไม่สามารถมองคนตายอยู่ที่ราชสำนักได้โดยที่ไม่ถามสักประโยคหรอก ที่จริงภายในใจขององค์จักรพรรดิอวี้ตี้คิดว่า อายุปูนนี้แล้ว ยังมาราชสำนักทำอะไรกัน? เพิ่มความกลัดกลุ้มใจแก่พระองค์จริงๆ!
“เหตุใดเขาถึงได้มาปรากฎตัวอยู่บนราชสำนัก?”องค์จักรพรรดิอวี้ตี้เรียกคนให้นำเอาโจวอี้เหรินออกไป อีกทั้งรอเสนาบดีเฉินฟื้น พระองค์ถึงได้ถามเรื่องราวของโจวอี้เหริน
โจวก่วงเหิงรีบคุกเข่าลง กล่าวว่า“กราบทูลฝ่าบาท บิดาของกระหม่อมมาเข้าเฝ้าเนื่องด้วยเรื่องของโจวไท่ถูกคนจะสังหารพ่ะย่ะค่ะ”
“ผู้ใดมันถึงได้กล้าหาญทำร้ายโจวไท่เยี่ยงนี้ ยังต้องลำบาก....มาเข้าเฝ้าด้วยตนเอง มีเรื่องอะไรไม่สามารถไปจัดการแก้ปัญหาที่ทำการปกครองเมืองหรือ?”องค์จักรพรรดิคิดในใจว่าคือหนานกงเย่ เรื่องนี้หากเป็นคนธรรมดาทำก็ไม่มีทางวุ่นวายมาถึงราชสำนักได้
แต่เรื่องที่เกิดขึ้นมีสาเหตุ องค์จักรพรรดิอวี้ตี้ยังคงเข้าข้างหนานกงเย่อยู่
โจวก่วงเหิงจับหิ้วบิดาออกไปแล้ว วันนี้ลูกชายก็เป็นเช่นนั้น เขากัดฟันกรอดน้ำตาไหลพราก หันมองไปด้านบนแล้วกล่าวว่า”เป็นท่านอ๋องเย่พ่ะย่ะค่ะ ขอฝ่าบาทได้โปรดตัดสินด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”
องค์จักรพรรดิอวี้ตี้มองหนานกงเย่ด้วยความหงุดหงิด ว่าแล้วเชียวต้องเป็นเขา
“โจวก่วงเหิง เหตุใดบุตรชายของเจ้าถึงได้ถูกอ๋องเย่สังหาร เจ้ากล่าวพูดมาตามความจริง หากเป็นความผิดของอ๋องเย่ ข้าจะต้องทวงความยุติธรรมแก่เจ้าเป็นแน่ ไม่มีทางเจตนาหมกเม็ด”
องค์จักรพรรดิเอ่ยปากแล้ว โจวก่วงเหิงยิ่งไม่คำนึงถึงอะไร ในกรณีใดๆล้วนเป็นความตาย เขาก็พร้อมเทหมดหน้าตัก
บนราชสำนัก เดิมทีเป็นการอภิปรายข้อกล่าวหาของเสนาบดีเฉิน วันนี้กลายเป็นเรื่องนี้ นับว่าบรรยากาศผ่อนคลายลงบ้าง
ผู้คนจำนวนมากต่างรอเรื่องราวลำดับต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร โจวก่วงเหิงกล่าวทั้งน้ำตาว่า“กราบทูลฝ่าบาท บุตรชายโจวไท่ เมื่อวานอยู่ด้านนอกกลับมาที่เรือน พอมาถึงหน้าประตูเรือนได้ถูกข้าหลวงประจำเมืองเวยสือจับไป เฆี่ยนตีโดยที่ไม่กล่าว และยังตัดด้านล่างของเขาเอาให้หมากิน
ฝ่าบาท......ฝ่าบาท!”
กล่าวพูดถึงตรงนี้ โจวก่วงเหิงรู้สึกเจ็บปวดใจอย่างที่สุด แทบอยากจะถลกหนังของหนานกงเย่เชียวล่ะ
องค์จักรพรรดิอวี้ตี้สีหน้าอึมครึม ขมวดคิ้วมองหนานกงเย่ มองบนด้วยความไม่พอใจ มันเกินไปแล้ว!
“ฝ่าบาท ไม่เพียงเท่านี้พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋องเย่กลั่นแกล้งคนเกินไปแล้ว เขาทำเช่นนี้ ยังให้เวยสือยกลูกชายน้อยมาบนจวนด้วยพ่ะย่ะค่ะ ลากจูงหมาตัวนั้นที่กินของลูกชายน้อยมาบนจวนแล้วบอกบิดาว่าเป็นท่านอ๋องของเขาทำ เช่นนี้บิดาของกระหม่อมเลยเดือดดาลมาก มาหาฝ่าบาทให้ฝ่าบาทช่วยตัดสินพ่ะย่ะค่ะ ใครจะรู้ว่าบิดาถูกทำให้โมโหตายแล้ว!”
โจวก่วงเหิงร้องไห้หนักมาก องค์จักรพรรดิอวี้ตี้เข้าใจมองใบหน้าเขียวอึมครึมนั่นของหนานกงเย่ แวบเดียวมองมาที่โจวก่วงเหิง แล้วกล่าวตรัสว่า“พูดเช่นนี้ ลูกชายของเจ้าเป็นผู้ซึ่งไร้ความผิดแล้วถูกอ๋องเย่ทำร้าย และอาลักษณ์อาวุโสรู้สึกสงสารหลาน รีบร้อนจนตรอมใจทลายสิ้นหรือ?”
“ฝ่าบาท ฝ่าบาท........”
โจวก่วงเหิงร้องไห้คร่ำครวญ นายทหารผู้หนึ่งร่ำไห้จนไม่มีศักดิ์ศรีแม้แต่น้อยเลย
องค์จักรพรรดิอวี้ตี้มองคนที่ร่ำไห้ตรงพื้น พระองค์หงุดหงิดเต็มประดา
“โจวก่วงเหิง เจ้าสงบลงก่อน ข้าจะเป็นผู้ตัดสินให้เจ้าเอง”องค์จักรพรรดิอวี้ตี้มองหนานกงเย่ด้วยความหงุดหงิด จากนั้นตรัสว่า“อ๋องเย่ เจ้าทำเรื่องดีๆทั้งนั้น!”
คนบริเวณนั้นจำนวนมากก้มศีรษะลงเล็กน้อย เรื่องนี้เป็นที่รู้ดีแก่ใจ แม้ว่าหนานกงเย่จะทำให้คนเป็นเยี่ยงนั้นจริง จนกลายเป็นขันที พอถึงตอนสุดท้ายก็คือข้อเท็จจริงก็ไม่ได้เป็นอะไร
วันนี้อย่าว่าแต่อ๋องเย่กระทืบเท้าบนราชสำนักเลย มันสามารถสะเทือนสั่นคลอนเมืองต้าเหลียงด้วย แสดงว่าฟ้องกราบทูลไม่ได้?
ยิ่งกว่านั้นฝ่าบาทกลับไปจะจัดการกับอ๋องเย่ ถือหางอ๋องเย่ พอถึงสุดท้ายไม่เพียงแต่อ๋องเย่ไม่เป็นไร กลับกันยิ่งหยิ่งผยองจองหองมากขึ้น
คนมากมายต่างก้มศีรษะ โจวก่วงเหิงที่อยู่บนพื้นยกชายเสื้อเช็ดซับน้ำตา
“กระหม่อม ตัดตอนของโจวไท่จริงพ่ะย่ะค่ะ แล้วก็สั่งคนไปจับโจวไท่จริง แต่เรื่องเกิดขึ้นย่อมมีสาเหตุพ่ะย่ะค่ะ”
“อ้อ?”องค์จักรพรรดิอวี้ตี้ขมวดคิ้วตรัส!
“ข้าอยากจะฟัง ที่เจ้าบอกว่าเรื่องเกิดขึ้นย่อมมีสาเหตุมันเป็นอย่างไร หากวันนี้เจ้าไม่สามารถพูดว่าสาเหตุเพราะอะไรได้ ข้าจะเฆี่ยนตีเจ้าจนกลับจวนอ๋องเย่ไม่ได้เชียวล่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ