องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ นิยาย บท 689

สรุปบท บทที่ 689 จำเลยถูกไต่สวนบนราชสำนัก: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ

บทที่ 689 จำเลยถูกไต่สวนบนราชสำนัก – ตอนที่ต้องอ่านของ องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ

ตอนนี้ของ องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ โดย จินจิน ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายInternetทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 689 จำเลยถูกไต่สวนบนราชสำนัก จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

องค์จักรพรรดิอวี้ตี้ถึงได้มองเห็นโจวอี้เหริน เลยเรียกคนไปดู คิดไม่ถึงว่าจะตายบนราชสำนักเสียแล้ว

เป็นอาลักษณ์อาวุโสของปฐมกษัตริย์ องค์จักรพรรดิอวี้ตี้เลยไม่สามารถมองคนตายอยู่ที่ราชสำนักได้โดยที่ไม่ถามสักประโยคหรอก ที่จริงภายในใจขององค์จักรพรรดิอวี้ตี้คิดว่า อายุปูนนี้แล้ว ยังมาราชสำนักทำอะไรกัน? เพิ่มความกลัดกลุ้มใจแก่พระองค์จริงๆ!

“เหตุใดเขาถึงได้มาปรากฎตัวอยู่บนราชสำนัก?”องค์จักรพรรดิอวี้ตี้เรียกคนให้นำเอาโจวอี้เหรินออกไป อีกทั้งรอเสนาบดีเฉินฟื้น พระองค์ถึงได้ถามเรื่องราวของโจวอี้เหริน

โจวก่วงเหิงรีบคุกเข่าลง กล่าวว่า“กราบทูลฝ่าบาท บิดาของกระหม่อมมาเข้าเฝ้าเนื่องด้วยเรื่องของโจวไท่ถูกคนจะสังหารพ่ะย่ะค่ะ”

“ผู้ใดมันถึงได้กล้าหาญทำร้ายโจวไท่เยี่ยงนี้ ยังต้องลำบาก....มาเข้าเฝ้าด้วยตนเอง มีเรื่องอะไรไม่สามารถไปจัดการแก้ปัญหาที่ทำการปกครองเมืองหรือ?”องค์จักรพรรดิคิดในใจว่าคือหนานกงเย่ เรื่องนี้หากเป็นคนธรรมดาทำก็ไม่มีทางวุ่นวายมาถึงราชสำนักได้

แต่เรื่องที่เกิดขึ้นมีสาเหตุ องค์จักรพรรดิอวี้ตี้ยังคงเข้าข้างหนานกงเย่อยู่

โจวก่วงเหิงจับหิ้วบิดาออกไปแล้ว วันนี้ลูกชายก็เป็นเช่นนั้น เขากัดฟันกรอดน้ำตาไหลพราก หันมองไปด้านบนแล้วกล่าวว่า”เป็นท่านอ๋องเย่พ่ะย่ะค่ะ ขอฝ่าบาทได้โปรดตัดสินด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”

องค์จักรพรรดิอวี้ตี้มองหนานกงเย่ด้วยความหงุดหงิด ว่าแล้วเชียวต้องเป็นเขา

“โจวก่วงเหิง เหตุใดบุตรชายของเจ้าถึงได้ถูกอ๋องเย่สังหาร เจ้ากล่าวพูดมาตามความจริง หากเป็นความผิดของอ๋องเย่ ข้าจะต้องทวงความยุติธรรมแก่เจ้าเป็นแน่ ไม่มีทางเจตนาหมกเม็ด”

องค์จักรพรรดิเอ่ยปากแล้ว โจวก่วงเหิงยิ่งไม่คำนึงถึงอะไร ในกรณีใดๆล้วนเป็นความตาย เขาก็พร้อมเทหมดหน้าตัก

บนราชสำนัก เดิมทีเป็นการอภิปรายข้อกล่าวหาของเสนาบดีเฉิน วันนี้กลายเป็นเรื่องนี้ นับว่าบรรยากาศผ่อนคลายลงบ้าง

ผู้คนจำนวนมากต่างรอเรื่องราวลำดับต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร โจวก่วงเหิงกล่าวทั้งน้ำตาว่า“กราบทูลฝ่าบาท บุตรชายโจวไท่ เมื่อวานอยู่ด้านนอกกลับมาที่เรือน พอมาถึงหน้าประตูเรือนได้ถูกข้าหลวงประจำเมืองเวยสือจับไป เฆี่ยนตีโดยที่ไม่กล่าว และยังตัดด้านล่างของเขาเอาให้หมากิน

ฝ่าบาท......ฝ่าบาท!”

กล่าวพูดถึงตรงนี้ โจวก่วงเหิงรู้สึกเจ็บปวดใจอย่างที่สุด แทบอยากจะถลกหนังของหนานกงเย่เชียวล่ะ

องค์จักรพรรดิอวี้ตี้สีหน้าอึมครึม ขมวดคิ้วมองหนานกงเย่ มองบนด้วยความไม่พอใจ มันเกินไปแล้ว!

“ฝ่าบาท ไม่เพียงเท่านี้พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋องเย่กลั่นแกล้งคนเกินไปแล้ว เขาทำเช่นนี้ ยังให้เวยสือยกลูกชายน้อยมาบนจวนด้วยพ่ะย่ะค่ะ ลากจูงหมาตัวนั้นที่กินของลูกชายน้อยมาบนจวนแล้วบอกบิดาว่าเป็นท่านอ๋องของเขาทำ เช่นนี้บิดาของกระหม่อมเลยเดือดดาลมาก มาหาฝ่าบาทให้ฝ่าบาทช่วยตัดสินพ่ะย่ะค่ะ ใครจะรู้ว่าบิดาถูกทำให้โมโหตายแล้ว!”

โจวก่วงเหิงร้องไห้หนักมาก องค์จักรพรรดิอวี้ตี้เข้าใจมองใบหน้าเขียวอึมครึมนั่นของหนานกงเย่ แวบเดียวมองมาที่โจวก่วงเหิง แล้วกล่าวตรัสว่า“พูดเช่นนี้ ลูกชายของเจ้าเป็นผู้ซึ่งไร้ความผิดแล้วถูกอ๋องเย่ทำร้าย และอาลักษณ์อาวุโสรู้สึกสงสารหลาน รีบร้อนจนตรอมใจทลายสิ้นหรือ?”

“ฝ่าบาท ฝ่าบาท........”

โจวก่วงเหิงร้องไห้คร่ำครวญ นายทหารผู้หนึ่งร่ำไห้จนไม่มีศักดิ์ศรีแม้แต่น้อยเลย

องค์จักรพรรดิอวี้ตี้มองคนที่ร่ำไห้ตรงพื้น พระองค์หงุดหงิดเต็มประดา

“โจวก่วงเหิง เจ้าสงบลงก่อน ข้าจะเป็นผู้ตัดสินให้เจ้าเอง”องค์จักรพรรดิอวี้ตี้มองหนานกงเย่ด้วยความหงุดหงิด จากนั้นตรัสว่า“อ๋องเย่ เจ้าทำเรื่องดีๆทั้งนั้น!”

คนบริเวณนั้นจำนวนมากก้มศีรษะลงเล็กน้อย เรื่องนี้เป็นที่รู้ดีแก่ใจ แม้ว่าหนานกงเย่จะทำให้คนเป็นเยี่ยงนั้นจริง จนกลายเป็นขันที พอถึงตอนสุดท้ายก็คือข้อเท็จจริงก็ไม่ได้เป็นอะไร

วันนี้อย่าว่าแต่อ๋องเย่กระทืบเท้าบนราชสำนักเลย มันสามารถสะเทือนสั่นคลอนเมืองต้าเหลียงด้วย แสดงว่าฟ้องกราบทูลไม่ได้?

ยิ่งกว่านั้นฝ่าบาทกลับไปจะจัดการกับอ๋องเย่ ถือหางอ๋องเย่ พอถึงสุดท้ายไม่เพียงแต่อ๋องเย่ไม่เป็นไร กลับกันยิ่งหยิ่งผยองจองหองมากขึ้น

คนมากมายต่างก้มศีรษะ โจวก่วงเหิงที่อยู่บนพื้นยกชายเสื้อเช็ดซับน้ำตา

“กระหม่อม ตัดตอนของโจวไท่จริงพ่ะย่ะค่ะ แล้วก็สั่งคนไปจับโจวไท่จริง แต่เรื่องเกิดขึ้นย่อมมีสาเหตุพ่ะย่ะค่ะ”

“อ้อ?”องค์จักรพรรดิอวี้ตี้ขมวดคิ้วตรัส!

“ข้าอยากจะฟัง ที่เจ้าบอกว่าเรื่องเกิดขึ้นย่อมมีสาเหตุมันเป็นอย่างไร หากวันนี้เจ้าไม่สามารถพูดว่าสาเหตุเพราะอะไรได้ ข้าจะเฆี่ยนตีเจ้าจนกลับจวนอ๋องเย่ไม่ได้เชียวล่ะ”

องค์จักรพรรดิอวี้ตี้มองโจวก่วงเหิง โจวก่วงเหิงตกใจจนไม่กล้าพูด

“โจวก่วงเหิง เจ้าคิดว่าอ๋องเย่ทำร้ายลูกชายเจ้า มีความผิดใช่หรือไม่?”นาทีนี้องค์จักรพรรดิอวี้ตี้หงุดหงิดแล้ว

“ฝ่าบาท กระหม่อมไม่รู้เรื่องนี้พ่ะย่ะค่ะ คิดไม่ถึงว่าลูกชั่วจะหลอกกระหม่อม”โจวก่วงเหิงกล่าวด้วยความสั่นเทาระริกคิดไม่ถึงว่าจะมีท่วงท่าสภาพนี้ได้

องค์จักรพรรดิอวี้ตี้กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“ดูไม่ออกเลยนะ ว่าลูกชายของเจ้าจะแย่เช่นนี้”

“ฝ่าบาท ฝ่าบาทโปรดไว้ชีวิต โปรดไว้ชีวิตด้วยเถิด!”

องค์จักรพรรดิอวี้ตี้มองไปทางแม่ทัพฉีที่หน้าเขียวอึมครึม“จือซาน เรื่องนี้ข้าก็ไม่รู้ ลำบากเจ้าแล้ว”

“กระหม่อมรับใช้บ้านเมือง อุทิศตนต่อองค์จักรพรรดิ ทุ่มเทสติปัญญาเเลความสามารถ ตราบจนชีวิตหาไม่ แต่เรื่องนี้กระหม่อมสะอิดสะเอียนอย่างที่สุด”กล่าวจบแม่ทัพฉีมองไปทางโจวก่วงเหิงด้วยสายตาเย็นชา เวลานี้โจวก่วงเหิงล้วนมีใจคิดว่าจะตายแน่ เขาไม่ควรที่จะไม่ถามให้ชัดเจนแล้ววิ่งมากราบทูลสถานการณ์เยี่ยงนี้ วันนี้ไม่เพียงแต่เอาบิดาพ่วงไปแล้ว เกรงว่าจะพ่วงกันหมดทั้งตระกูล

“โปรดสงบ โปรดสงบสักเล็กน้อย ”องค์จักรพรรดิอวี้ตี้โบกมือ เพื่อให้แม่ทัพฉีสงบลง

แม่ทัพฉีหน้าบิดบึ้ง เพื่อบุตรสาวของเขาแล้ว หน้าผู้ใดก็ไม่เว้น

หนานกงเย่กล่าวว่า“เวลานี้ไม่เกี่ยวข้องกับตระกูลโจว อาลักษณ์อาวุโสมาบนท้องพระโรง คิดว่าคงถูกหลอกเช่นกันพ่ะย่ะค่ะ

แต่โจวไท่กระหม่อมปล่อยแล้ว รองเสนาบดีโจวไม่ถามให้ชัดเจนเรื่องราวความเป็นมาก็มากราบทูลรายงานแล้ว เรื่องนี้ยากที่จะหนีความผิด

ขอฝ่าบาทได้โปรดลงโทษด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”

พอหนานกงเย่กล่าวออกมา โจวก่วงเหิงก็เป็นลมไป

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ