ผู้คนต่างพากันมองออกไป และหลบออกมาเพราะเกรงว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องไปด้วย
จักรพรรดิอวี้ตี้ออกคำสั่งให้ถอดยศตำแหน่งของตระกูลโจวทั้งนั้นและลดขั้นเป็นเพียงสามัญชนคนธรรมดา
โจวก่วงเหิงถูกลากออกไปในทันทีและโยนทิ้งนอกวังหลวง
แม่ทัพฉีรีบกราบทูลลาออกไป
จักรพรรดิอวี้ตี้ก็ไม่สามารถขัดขวางได้และมองไปที่ราชครูจวิน "ราชครู เจ้าได้ตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วใช่หรือไม่เรื่องที่จวนเสนาบดีเฉินส่งคนมาทำร้ายพระชายาเย่?"
"ฝ่าบาท กระหม่อมหม่อมได้ตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว คนที่ใช้เงินเพื่อจ้างให้คนมาทำร้ายพระชายาเย่ก็คือสะใภ้ของจวนเสนาบดี นอกเสียจากว่าคนของจวนเสนาบดีไม่ข้องเกี่ยวเรื่องนี้ด้วยพ่ะย่ะค่ะ
แต่เรื่องนี้มีจุดที่น่าสงสัยที่สุด คนของจวนเสนาบดีเห็นเข้าก็ฆ่าทิ้งเสีย นี่จึงเป็นข้อน่าสงสัยที่ใหญ่ที่สุดพ่ะย่ะค่ะ"
จักรพรรดิอวี้ตี้เคร่งขรึมและมีสีหน้าไม่ค่อยดีนัก
เสนาบดีที่คุกเข่าอยู่ที่พื้นก็สั่นอยู่ตลอดเวลาและไม่พูดอะไรออกมาเลย
จักรพรรดิอวี้ตี้ตรัสถาม "เสนาบดี เจ้าจะยอมรับผิดหรือไม่?"
เสนาบดีก้มหน้า "ฝ่าบาท กระหม่อมถูกใส่ร้ายพ่ะย่ะค่ะ"
จักรพรรดิอวี้ตี้ยังคงมีความดีความชอบให้กับท่านพ่อตาคนนี้อยู่ หากไม่รับผิดก็ถือว่าดี
"เรื่องนี้ยังต้องตรวจสอบอีกครั้ง คุมตัวเสนาบดีไปขังไว้ก่อน ท่านอ๋องเย่ เจ้าคอยควบคุมดูแล หากเสนาบดีมีเรื่องอะไรก็ให้เจ้าคอยจัดการ"
"พ่ะย่ะค่ะ"
"ท่านอ๋องตวนล่ะ?" จักรพรรดิอวี้ตี้มองออกไปเพื่อหาท่านอ๋องตวน
ท่านอ๋องตวนไม่มาเสียที ทำให้จักรพรรดิอวี้ตี้มีสีหน้าไม่พอใจนัก "ไปตามท่านอ๋องตวนมาเดี๋ยวนี้ หากเขาไม่มาให้ลงโทษโดยการโบย"
ขณะที่กำลังพูด ท่านอ๋องตวนก็เข้ามา เมื่อเข้ามาถึงก็เหลือบไปมองหนานกงเย่จากนั้นจึงก้มแสดงความเคารพ
"ท่านอ๋องตวน เรื่องคนของจวนเสนาบดีทำร้ายพระชายาเย่นั้นให้เจ้าเป็นคนจัดการเรื่องนี้"
"พ่ะย่ะค่ะ"
จักรพรรดิอวี้ตี้ลุกขึ้นและเหลือบมองไปยังคนที่เหลืออยู่ จากนั้นจึงหันหลังเดินออกไป
เมื่อจักรพรรดิอวี้ตี้จากไป ท่านอ๋องตวนก็มองไปที่หนานกงเย่ "ตอนที่ข้ามาถึงข้าได้เห็นแม่ทัพฉี ข้าทักเขาๆก็ไม่สนใจข้า ไม่รู้ว่าที่นี่เกิดเรื่องอะไรขึ้นที่ทำให้เขาไม่พอใจ"
"......"หนานกงเย่หันหลังและเดินออกมาโดยไม่ได้สนใจท่านอ๋องตวน
ท่านอ๋องตวนไม่เข้าใจจึงไปหาราชครูจวิน "ท่านราชครูจวิน ข้าต้องขอให้ท่านราชครูติดตามข้าไปทำการสอบสวนด้วย ช่วงนี้ร่างกายของข้าไม่ดีนัก ไม่สามารถทำงานหนักได้"
ราชครูจวินชำเลืองมองท่านอ๋องตวน
เป็นถึงท่านอ๋องตวน ทำไมถึงเหลวไหลไม่เป็นเรื่องเช่นนี้ เขามักทำอะไรไร้สาระและไม่สนใจเรื่องใดๆ เลย หากเขามีความพยายามสักนิด เขาคงมีประโยชน์มากกว่านี้
แม่ทัพฉีออกมาจากวังก็ตรงไปที่บ้านของตระกูลโจว ตอนนี้ตระกูลโจววุ่นวายกันไปหมด แม้ว่าเขาจะถูกลดตำแหน่งเป็นสามัญชน แต่ก็ไม่ได้ถูกรื้อค้นบ้าน โจวอี้เหรินเป็นขุนนางมาตลอดชีวิต และได้สะสมข้าวของและภริยาและสนมไว้มากมาย
ขณะนี้กำลังคิดหาวิธีที่จะนำเงินทองหนีไปให้ไกล และมองเห็นศพที่นำมาส่งไว้หน้าบ้านโดยไม่มีใครสนใจไยดี
แม่ทัพฉีมาอย่างรวดเร็ว เมื่อมาถึงหน้าประตูก็ใช้เท้าถีบประตูให้เปิดออก และไปโดนสนมที่กำลังจะหนีไป
"โจวไท่อยู่ที่ไหน?" แม่ทัพฉีจ้องเขม็งด้วยความโกรธราวกับจะฆ่าคน
สนมตกใจกลัวและรีบชี้เข้าในเรือนตระกูลโจว แม่ทัพฉีก้าวเท้าออกไป ผู้คนในตระกูลโจวต่างพากันหวาดกลัวและอกสั่นขวัญแขวน
แม่ทัพฉีพุ่งตรงเข้าไป ไม่นานก็หาเขาเจอ เมื่อเห็นโจวไท่ แม่ทัพฉีจึงถามว่า "เจ้าคือโจวไท่?"
โจวไท่คลานออกมาราวกับคนใกล้ตาย "ท่านคือฉีจือซาน?"
"โจวไท่ ข้าจะฆ่าเจ้า"
"อย่า......"
แม่ทัพฉีก้าวเข้าไปและเตะโจวไท่ จากนั้นโจวไท่จึงล้มลงและกระอักเลือดออกมา เขาสั่นเทาและห้ามให้แม่ทัพฉีเข้าไป แม่ทัพฉีก้มลงไปกระชากแขนของโจวไท่และโยนเขาออกไปข้างนอก โจวไท่กระแทกลงกับพื้นด้วยความเจ็บปวด เขาดิ้นทุรนทุรายอยู่ไม่นาน จากนั้นจึงหมดลมหายใจไปทันที
ผู้คนในตระกูลโจวต่างพากันร้องตะโกน แม่ทัพฉีหันหลังกลับและเดินจากไป
เมื่อหนานกงเย่มาถึง แม่ทัพฉีก็กำลังเดินออกไป ทั้งสองคนเจอหน้ากัน หนานกงเย่ถาม "ท่านพ่อตาเป็นอย่างไรบ้าง?"
"ไม่เป็นอะไร"
"เช่นนั้นก็รีบกันเถอะ ไม่เช่นนั้นอวิ๋นอวิ๋นจะเป็นกังวลเอาได้"
"อืม"
จากนั้นทั้งสองจึงพากันกลับออกไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ