ฉีเฟยอวิ๋นเดินเข้าประตูไปหาแม่ทัพฉี เดิมทีคิดว่าเขาจะอยู่ที่ห้องซ้อมวิทยายุทธ แต่เมื่อเดินไปดู ข้างในกลับไม่มีใครอยู่
พ่อบ้านรีบวิ่งเข้ามาหาฉีเฟยอวิ๋น "อยู่ในห้องขอรับ"
ฉีเฟยอวิ๋นรู้สีกแปลกใจ "จริงหรือ?"
"ไปหาฮูหยินขอรับ"
"ฮูหยิน?" จู่ๆ ฉีเฟยอวิ๋นก็นึกได้ "ท่านแม่น่ะหรือ?"
"ขอรับ" พ่อบ้านหันไปทางที่เรือน จากนั้นฉีเฟยอวิ๋นจึงเดินออกไป แต่เธอกลับไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับท่านแม่ของเธอเลย เดิมทีเธอก็ไม่ใช่เจ้าของร่างนี้ อีกอย่างตอนที่เจ้าของร่างเดิมจากไปก็ยังอายุน้อยมาก ยังไม่สามารถจดจำอะไรต่างๆ มากมายได้ ฉะนั้นเธอจึงจำอะไรไม่ได้เลย
แต่พ่อของเธอจะต้องมีความรู้สึกผูกพันกับแม่คนนี้อย่างมาก ไม่เช่นนั้นก็คงไม่เป็นเช่นนี้
เมื่อไปถึงที่เรือน ฉีเฟยอวิ๋นหยุดยืนอยู่ครู่หนึ่ง พ่อบ้านไม่ได้ตามเข้าไปด้วย
ฉีเฟยอวิ๋นไปยืนอยู่ที่หน้าประตู ภายในห้องของแม่ทัพฉีไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ จากนั้นฉีเฟยอวิ๋นจึงผลักประตูและเดินเข้าไป
เมื่อเดินเข้าประตูมาฉีเฟยอวิ๋นก็ไม่พบแม่ทัพฉี จากนั้นจึงเดินเข้าไปอีกห้องหนึ่งเพื่อไปหาแม่ทัพฉี เมื่อมาถึงหน้าประตูยังไม่ทันที่จะเข้าไปก็ได้ยินเสียงที่ดังมาจากข้างใน "ซูซู เจ้าอยู่ที่ไหนกันแน่? เมื่อไรเจ้าจะกลับมา?"
ฉีเฟยอวิ๋นยืนอยู่ข้างนอกแทบไม่กล้าหายใจออกมา แม่ทัพฉีพึมพำออกมาจากนั้นจึงดื่มเหล้าเข้าไปหนึ่งแก้ว "ถึงแม้ว่าอวิ๋นอวิ๋นจะไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ ของข้า แต่ข้าก็เลี้ยงดูนางเหมือนลูกสาวแท้ๆ ของข้าเสมอมา ทำไมสวรรค์ถึงกลั่นแกล้งและทำร้ายนาง ให้นาง......"
แม่ทัพฉีดื่มเหล้าเข้าไปอีกแก้วหนึ่ง จากนั้นจึงพูดอีกว่า "หากรู้ว่าเป็นเช่นนี้ตั้งแต่แรก ข้าควรจะพานางติดตามข้าไปด้วย แต่ตอนนี้ข้าจะอธิบายกับเจ้าได้อย่างไร"
"......"
ฉีเฟยอวิ๋นรู้สึกแปลกประหลาดอยู่ครู่หนึ่ง เธอรู้สึกหายใจลำบากขึ้นเล็กน้อย แม่ทัพฉีมีสีหน้าเคร่งขรึม จากนั้นจึงเดินมาที่ประตู ฉีเฟยอวิ๋นยังไม่ทันจะพูดอะไร จู่ๆ ก็ถูกแม่ทัพฉีทุบเข้าที่คอ เมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นว่าแม่ทัพฉีกำลังเหม่อลอย แม่ทัพฉีรู้สึกตกตะลึง ถึงแม้ว่าจะอยู่ในสภาพมึนเมา แต่เขาก็ปล่อยมือลงทันที
ฉีเฟยอวิ๋นถาม "ท่านแม่ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่เจ้าคะ?"
น้ำเสียงของฉีเฟยอวิ๋นเปลี่ยนไปเล็กน้อย คนที่พูดออกมากลับไม่ใช่เธอ เธอจ้องมองไปที่แม่ทัพฉีอย่างเป็นกังวล แม่ทัพฉีรู้สึกตกตะลึงเช่นกัน "อวิ๋นอวิ๋น"
แม่ทัพฉีมองออกว่าเป็นลูกสาวในแวบแรก ในใจของฉีเฟยอวิ๋นนั้นสับสนวุ่นวายไปหมด
เจ้าของร่างเดิมถามว่า "ท่านแม่ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่เจ้าคะ?"
ฉีเฟยอวิ๋นขมวดคิ้วขึ้นมา แต่เธอไม่สามารถควบคุมร่างกายของตัวเองได้ แม่ทัพฉีตั้งใจสังเกตและพิจารณาฉีเฟยอวิ๋นอย่างละเอียดและสีหน้าก็เต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ "นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"
"ท่านพ่อ ท่านบอกข้าสิ ท่านแม่ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่?" เจ้าของร่างเดิมร้องไห้ออกมา แม่ทัพฉีหันกลับออกไป จากนั้นเจ้าของร่างเดิมก็เดินตามเข้าไป แม่ทัพฉีนั่งลง
"นางตายไปแล้ว เจ้าไม่ต้องถามอะไรอีกแล้ว"
เจ้าของร่างเดิมไม่เชื่อจากนั้นจึงร้องไห้ขึ้นมา
แม่ทัพฉีจ้องมองดูฉีเฟยอวิ๋นด้วยความรู้สึกแปลกประหลาดและทำอะไรไม่ถูก แม้ว่าจะรู้ว่าเป็นลูกสาวของเขา แต่เขากลับรู้สึกไม่กล้าเข้าใกล้
เจ้าของร่างเดิมร้องไห้จากนั้นจึงพูดขึ้นมา "ท่านพ่อ ข้าจะไปหาท่านแม่!"
"พูดจาเหลวไหล แม่ของเจ้าตายไปตั้งนานแล้ว จะหาอะไร ป้ายหน้าหลุมฝังศพก็อยู่ที่นี่?"
แม่ทัพฉีหันไปมองป้ายหน้าหลุมศพของภรรยา บนแผ่นป้ายไม่มีแม้แต่ชื่อของนางด้วยซ้ำ
"ท่านพ่อ ท่านมักจะบอกว่าท่านแม่ตายไปแล้ว แต่ทำไมถึงไม่มีแม้แต่ชื่อเลย?" เจ้าของร่างเดิมร้องไห้ทุรนทุราย แม่ทัพฉีนั่งเงียบอยู่อีกฝั่งโดยไม่พูดอะไร
เป็นเวลานาน จากนั้นแม่ทัพฉีจึงถามว่า "อวิ๋นอวิ๋น พ่อรู้ว่าเจ้าคิดถึงแม่ของเจ้ามาก แต่แม่ของเจ้าตายไปแล้วจริงๆ"
แม่ทัพฉีสัมผัสมือของเจ้าของร่างเดิมและพบว่ามือนั้นเยือกเย็นอย่างมาก เขามองไปที่ลูกสาวด้วยความเจ็บปวด จากนั้นจึงร้องไห้ออกมา
เจ้าของร่างเดิมโถมเข้ามากอดแม่ทัพฉีไว้และร้องไห้ออกมาอย่างทุรนทุราย จากนั้นจึงร้องไห้หมดสติไป
แม่ทัพฉีสังเกตว่าผิดปกติไปจึงผลักฉีเฟยอวิ๋นออก เธอได้เป็นลมหมดสติไป เขาลูบหน้าผากของฉีเฟยอวิ๋นที่เต็มไปด้วยเหงื่อ
"อวิ๋นอวิ๋น......อวิ๋นอวิ๋น......"
ฉีเฟยอวิ๋นหมดสติ แม่ทัพฉีอุ้มขึ้นมาและพาไปข้างนอก จากนั้นจึงตะโกนเรียกคน "หมอประจำจวน หมอประจำจวน......"
เมื่อแม่ทัพฉีออกมาหนานกงเย่ก็เข้ามาแล้ว เมื่อเห็นฉีเฟยอวิ๋นที่เป็นลมหมดสติไปจึงรีบพุ่งเข้ามา
"อวิ๋นอวิ๋น!" หนานกงเย่ตตกใจอย่างมาก แม่ทัพฉีอุ้มลูกสาวโดนไม่ยอมปล่อยไปไหน
"หมอประจำจวน!"
"มอบให้ข้าเถอะ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ