ฉีเฟยอวิ๋นตัดทิ้งสำเร็จก็จับอีกด้ามไว้แล้วดึงลูกธนูออกเบาๆ หมาป่าที่บาดเจ็บบนพื้นร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด น้ำตาไหลพรั่งออกจากดวงตาของมัน พญาหมาป่าเดินอ้อมไปเลียน้ำตาของอีกตัว
ฉีเฟยอวิ๋นโยนลูกธนูที่ดึงออกมาไปยังพื้น ก่อนจะโรยยาผงให้ จากนั้นก็หยิบมีดขึ้นมาอีกเล่ม แล้วทำการกรีดข้อมือเพื่อให้หมาป่าดื่มโลหิตของตน
ตัวหมาป่าใหญ่ไม่ใช่ย่อย จึงต้องใช้ปริมาณโลหิตเป็นเท่าตัว ฉีเฟยอวิ๋นรู้สึกร่างกายอ่อนเปลี้ยเพลียแรง นั่งลงอุ้มหีบยาพิงผนังถ้ำ
ฉีเฟยอวิ๋นมองพญาหมาป่า "นางไม่เป็นอันใด เจ้าไม่ต้องกังวล ข้าจะพักผ่อนชั่วครู่"
ฉีเฟยอวิ๋นเอ่ยพลันหลับตาลง
เมื่อนอนขึ้นมาหนึ่งตื่น ฉีเฟยอวิ๋นลืมตาพลันเห็นหมาป่าทั้งสองตัวหายดีแล้ว พญาหมาป่าคาบไก่ป่ามาจากที่ไม่ไกลออกไป ส่วนหมาป่าที่บาดเจ็บก่อนหน้านอนคลานแนบท้องของเธอ
ฉีเฟยอวิ๋นรู้สึกอบอุ่นบริเวณท้อง เธอไม่รู้สึกหนาวเหน็บเลยสักนิด หาไม่แล้วฤดูกาลเช่นนี้เธอน่าจะหนาวตายไปแล้ว
ฉีเฟยอวิ๋นตรวจรอยแผลของหมาป่า พลางพบว่าไม่เป็นอะไรแล้ว
ฉีเฟยอวิ๋นลุกขึ้นยืน พญาหมาป่าวางไก่ป่าตรงหน้าฉีเฟยอวิ๋น ฉีเฟยอวิ๋นหยิบขึ้นมาหนึ่งตัวแล้วยื่นให้หมาป่า "เจ้ากินสิ"
หมาป่าลุกขึ้นก้มหน้ากินไก่ป่า พญาหมาป่ามอบไก่ป่าอีกตัวให้ฉีเฟยอวิ๋น ฉีเฟยอวิ๋นมองไปยังเส้นทางที่ลงเขา ก่อนจะกลับมามองท้องของตัวเอง ตอนขึ้นเขายามราตรีก่อนไม่ได้สังเกต ยามนี้รู้สึกว่าเส้นทางลงเขาช่างยาวไกลยิ่ง
ฉีเฟยอวิ๋นถือไก่ป่าแล้วเริ่มเดินลงเขา โดยมีหมาป่าทั้งสองคอยปกป้องระหว่างทาง กว่าฉีเฟยอวิ๋นจะลงไปถึงก็มืดค่ำแล้ว
ฉีเฟยอวิ๋นก่อไฟเผาไก่ป่า หลังจากกินเสร็จก็พักผ่อนอยู่บนพื้น ยามนี้เธอเดินไม่ไหวแล้วจริงๆ
หมาป่าทั้งสองตัวก็นอนคลานอยู่ด้านข้าง ฉีเฟยอวิ๋นตื่นขึ้นมาอีกทีก็ตอนดึกดื่นเที่ยงคืนแล้ว จากนั้นก็ออกเดินทางกลับบ้านกันต่อ
มีเสียงต่อสู้ส่งมาจากระยะไกล ทั้งยังได้ยินเสียงหมาป่าร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดอีกด้วย ฉีเฟยอวิ๋นลุกขึ้นไปดู พลางพบว่ามีหมาป่าถูกโยนออกมาหนึ่งตัว
พญาหมาป่ามองปราดหนึ่ง ก่อนจะกระโดดเข้าไป สีหน้าหนานกงเย่เคร่งขรึม พลิกกายคว้ากรงเล็บพญาหมาป่าไว้ ก่อนจะบีบคอพญาหมาป่า ต่อด้วยสะบัดทิ้งด้วยสุดแรงเหวี่ยง
พญาหมาป่าที่กลิ้งไปหลายตลบลุกขึ้นยืนด้วยขนลุกชัน
หมาป่าหลายสิบตัวเข้ามารุมล้อม ฉีเฟยอวิ๋นรีบเดินไปขวางพญาหมาป่าด้านหน้าหนานกงเย่ "เขาเป็นสามีข้า เพราะเป็นห่วงบุตรในบ้านจึงได้ทำร้ายพวกเจ้า"
พญาหมาป่ามองฉีเฟยอวิ๋นปราดหนึ่ง จึงจะล้มเลิกการโจมตี หนานกงเย่มองฉีเฟยอวิ๋นอย่างพินิจพิจารณา "เกิดอันใดขึ้น?"
"ภรรยาของเขาบาดเจ็บเลยเชิญข้าไปรักษา ข้ากลับมาช้า ไยท่านจึงสู้กับพวกเขาเล่า?" ฉีเฟยอวิ๋นรู้สึกประหลาดใจ
หนานกงเย่หน้าบึ้งตึง "ข้าไม่รู้ว่าพวกมันล้อมที่นี่ทำไม ตะโกนเรียกอยู่นานก็ไม่มีคนออกมา"
ฉีเฟยอวิ๋นรู้สึกประหลาดใจ "ท่านอ๋องร้องเรียกเหรอเพคะ?"
"อาอวี่"
"แล้วอาอวี่ล่ะเพคะ?" ฉีเฟยอวิ๋นรู้สึกที่ไม่เห็นหน้าอาอวี่
ฉีเฟยอวิ๋นหมุนกายมองหา ผลสุดท้ายคือไม่เห็นอาอวี่อยู่บริเวรรอบๆ ทว่าได้ยินเสียงมาจากเบื้องบน "พระชายา ข้าน้อยอยู่ที่นี่พ่ะย่ะค่ะ"
ฉีเฟยอวิ๋นเงยหน้าพลันเห็นอาอวี่เกาะอยู่บนต้นไม้ ซึ่งมีหมาป่าหลายตัวที่หมายจะกินอาอวี่อยู่ใต้ต้นไม้ด้วย
ฉีเฟยอวิ๋นเห็นแล้วก็หัวเราะออกมา
"ไม่ได้เรื่องเลย เจ้านายเจ้าเกือบโดนหมาป่ากัดกินแล้ว เจ้ายังดูความคึกคักอยู่บนต้นไม้ได้อีก" ฉีเฟยอวิ๋นกล่าวจบพลันมองไปยังพญาหมาป่า "ขอบคุณพวกเจ้าที่มาส่ง พวกเจ้ากลับไปเถอะ หากมีคนมาเห็นพวกเจ้าที่นี่ก็ไม่ดี หากวันหน้าพวกเจ้ามีอะไรให้ข้าช่วยเหลืออีก ก็มาหาข้าได้ หากไม่ฉุกเฉินก็มายามราตรี หากฉุกเฉินจริงๆก็มาตอนกลางวัน แต่อย่าให้ผู้คนพบเห็น"
พญาหมาป่าแหงนหน้าคำราม ก่อนจะนำฝูงหมาป่าจากไป
เมื่อไม่เห็นเงาของหมาป่า อาอวี่จึงจะลงจากต้นไม้ พลางมองฉีเฟยอวิ๋นอย่างผะอืดผะอม ฉีเฟยอวิ๋นไปที่ลานบ้าน ไม่แยแสอาอวี่ หนานกงเย่เดินตามฉีเฟยอวิ๋นเข้าไป พลางถามขึ้นว่า "ไฉนหมาป่าบาดเจ็บก็มาหาเจ้า?"
"หม่อมฉันก็ไม่รู้เพคะ คาดว่าคงมีคนบอกพวกมัน ข้ากลับมาดูความปลอดภัยที่นี่ ประเดี๋ยวจะย้อนกลับไปดูพวกพญาหมาป่า"
"ยังรักษาไม่หายอีกหรือ?" หนานกงเย่รู้สึกเกรี้ยวกราด ทำไมเนื้อตัวเธอถึงมอมแมมเช่นนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ